ติดโควิด19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ทุกราย

ติดโควิด19 ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ทุกราย

สธ.ย้ำติดโควิด19 ไม่จำเป็นต้องได้ยาฟาวิพิราเวียร์ทุกราย  ขอให้เป็นดุลยพินิจของแพทย์  ระบุระบบสาธารณสุขต้องโฟกัสดูแลผู้ป่วยหนักให้มีประสิทธิภาพ ลดเสียชีวิต ส่วนรายงานติดเชื้อเน้นบอกพื้นที่-กิจกรรมเสี่ยง

    เมื่อวันที่ 24 ก.พ.2565 ที่ กระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียริตภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ตอบถึงข้อสอบถามผู้ติดโควิด19จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ทุกรายหรือไม่ว่า  ขณะนี้มีการปรับการดูแลรักษา หากไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์ ซึ่งไปตามลักษณะของทั่วโลก โดยเจะจ่ายให้กับผู้ที่มีอาการปานกลางขึ้นไปตามไกด์ไลน์ใหม่แนวทางการรักษาของกรมการแพทย์

  “การจ่ายยาขอให้แพทย์เป็นผู้พิจารณา และทำความเข้าใจกับคนไข้ ยาคือยา ต่างจากขนม ยาทานเข้าไปแล้วก็มีผลดี ผลข้างเคียงและผลเสีย จึงต้องทานที่จำเป็นจริงๆ ไทยน่าจะมีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์มากที่สุดแห่งหนึ่ง เพราะใช้หลายสิบล้านเม็ด แต่ต้องพิจารณาข้อดีข้อเสีย เรื่องนี้ไม่ใช่อยู่ที่ความยาก แต่เมื่อป่วยไข้ ก็ต้องให้ผู้ที่มีความรู้ดูแลรักษา ตามมาตรฐานอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้งด ว่าไม่ให้การดูแล” นพ.เกียรติภูมิ กล่าว

   นพ.เกียรติภูมิ กล่าวด้วยว่า การที่มีตัวเลขติดเชื้อรายงานเพิ่มขึ้น  แต่คนไข้ที่ใส่ป่วยหนักประมาณ 700 กว่าคน ใส่ท่อช่วยหายใจอีกประมาณพันคน  ต้องโฟกัสการดูแลตรงนี้ให้มีประสิทธิภาพ ให้อัตราตายต่ำ และดูแลผู้ป่วยหนักให้ดี ส่วนที่ติดเชื้อป่วยไม่หนักก็ดูแลตามระบบรักษาไม่ให้ป่วยหนัก ส่วนการรายงานผู้ติดเชื้อ ก็จะรายงานในจังหวัดที่มีการระบาดสูง และกิจการกิจกรรมที่เป็นจุดเสี่ยงของการแพร่เชื้อ เพื่อให้ประชาชนตัดสินใจว่าจะเลี่ยงไปในพื้นที่นั้นๆ