เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ สำหรับ SMEs รับเงินอุดหนุนภายใน 30 ธ.ค.นี้

เปิดกล่องของขวัญปีใหม่ สำหรับ SMEs รับเงินอุดหนุนภายใน 30 ธ.ค.นี้

สถานประกอบการ SMEs เฮทั่วหน้า รับเงินอุดหนุนโครงการช่วย SMEs ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 64 เป็นของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล

วันที่ 30 ธ.ค.2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ห่วงใยนายจ้าง สถานประกอบการขนาดเล็ก - กลางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดในช่วงที่ผ่านมา

สั่งการกระทรวงแรงงาน เร่งดำเนินการจ่ายเงินอุดหนุนตามโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs งวดเดือนธันวาคม 2564 ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 64 เพื่อให้นายจ้าง สถานประกอบการ มีเงินอุดหนุนจากภาครัฐไปเสริมสภาพคล่อง เป็นทุนหมุนเวียนในการขับเคลื่อนกิจการรับปีใหม่ 2565 ที่กำลังจะมาถึง 

 

ในรอบอุดหนุนงวดแรกเดือนพฤศจิกายน 2564 เรามีการแบ่งจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 2 รอบ หากเป็นบัญชีธนาคารกรุงไทยนายจ้างจะได้รับเงินวันที่ 30 ของเดือน แต่หากเป็นบัญชีธนาคารอื่นๆจะได้รับเงินวันที่ 2 ของเดือนถัดไป ซึ่งหลังจากท่านนายกมีข้อสั่งการ ตนในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานก็เร่งเตรียมการทันที ถือเป็นของขวัญปีใหม่เล็กๆน้อยๆเพื่อกลุ่มธุรกิจ SMEs อีกชิ้นตามดำริท่าน ในวันนี้ (30 ธ.ค. 64) 

โดยจะจ่ายเงินอุดหนุนแก่นายจ้าง สถานประกอบการ จำนวน 182,312 ราย ที่มีลูกจ้างสัญชาติไทย จำนวน 2,739,797 คน เป็นยอดเงินอุดหนุนทั้งสิ้น 8,219,391,000 บาท (แปดพันสองร้อยสิบเก้าล้านสามแสนเก้าหมื่นหนึ่งพันบาท) โดยนายจ้างสถานประกอบกลุ่มนี้ยังเหลือการรับเงินอุดหนุนในเดือนสุดท้าย งวดเดือนมกราคม 2565 อีก 1 งวด


นอกจากนี้ หากมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 จะได้รับเงินส่งเสริมการจ้างงานใหม่ จำนวน 3,000 บาทต่อลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คนต่อเดือน ตามจำนวนการจ้างงานจริง โดยให้สิทธิ์ 1 ลูกจ้าง ต่อ 1 นายจ้าง จนครบตามจำนวนลูกจ้างสัญชาติไทยทั้งหมดที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของโครงการ เดือนละไม่เกิน 201,647 ราย

จากวันที่ 16 ต.ค. – 30 ธ.ค. 64  มีการจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 61,571 คน แบ่งเป็นกิจการขนาดเล็ก (ลูกจ้าง 1 - 50 คน) จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 42,770 คน กิจการขนาดกลาง (ลูกจ้าง 51 - 200 คน) จ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่มขึ้น 18,764 คน และกิจการที่เดิมจ้างเฉพาะแรงงานข้ามชาติ มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่ม 37 คน

โดยประเภทกิจการที่มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยเพิ่ม 5 อันดับแรก ได้แก่ ประเภทกิจการโรงแรม รีสอร์ท ประเภทกิจการรักษาความปลอดภัย ประเภทกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร ประเภทกิจการบริการด้านอาหารในภัตตาคารร้านอาหาร และประเภทกิจการร้านสะดวกซื้อมินิมาร์ท” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว  

ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า สำหรับสถานประกอบการที่ยังไม่ได้รับเงิน โดยมีสาเหตุจาการโอนเงินไม่สำเร็จ ด้วยปัญหาบัญชีไม่มีการเคลื่อนไหวเกิน 6 เดือน  บัญชีปิดแล้ว บัญชีติดเงื่อนไขในการโอนเงินเข้า บัญชีเงินฝากแบบพิเศษไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีเงินฝากแบบประจำไม่สามารถรับเงินจากการโอนได้ บัญชีตั้งเงื่อนไขจำนวนเงินในบัญชีต้องไม่เกิน 1,000 บาท และหมายเลขบัญชีไม่ถูกต้อง นายจ้าง สถานประกอบการต้องติดต่อธนาคารสาขาที่เปิดบัญชีเพื่อตรวจสอบ แก้ไข หรือติดต่อสอบถาม ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 – 10 ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานเพื่อปรับปรุงข้อมูล หรือแนบรายละเอียดเพิ่มเติม  อีกครั้งในวันเปิดทำการ 4 มกราคม 2564 เป็นต้นไป