ศบค. เผย คลัสเตอร์ "หมูกระทะ" บางกะปิ ติดเชื้อ 12 ราย

วันนี้ (17 ธ.ค. 64) ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงาน “สถานการณ์โควิด-19” ประเทศไทย พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,537 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 41 ราย อาการหนัก 972 ราย ในส่วนของการตรวจ RT-PCR พบผลบวกราว 7% ขณะที่ ATK ตรวจ 4-5 หมื่นรายต่อวัน ตอนนี้เฉลี่ยทั้งประเทศ 1.8-1.9% ถือว่าลดลงอย่างมาก แต่มีบางเขต เช่น ราชบุรี ชลบุรี ถือว่ายังพบผลบวก 10% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศ แต่ลดลงกว่าช่วงก่อนหน้านี้ 

 

 

• เสียชีวิต ส่วนใหญ่ติดเชื้อจากคนใกล้ชิด 

 

รายงานผู้เสียชีวิต 41 ราย โดยเชียงใหม่เสียชีวิตสูง 6 ราย นครศรีธรรมราช 6 ราย อย่างที่เน้นย้ำว่า การเสียชีวิตมีประวัติติดเชื้อกับคนใกล้ชิด คนในครอบครัวเป็นผู้สัมผัส คุ้นเคยกับผู้เสียชีวิต มีประวัติอยู่ รพ.นานสุด 50 วัน หมายความว่าบางท่านมีความพยายามทางการแพทย์ที่จะช่วยชีวิต ขณะที่ ก่อนหน้านี้มีค่าเฉลี่ยการนอน รพ. 7 วันก็มี หมายความว่าผู้ป่วย เมื่อพบว่าป่วย ติดเชื้อ ก็มีอาการทรุดอย่างรวดเร็ว และเสียชีวิตใน 7-10 วัน ดังนั้น ขอให้ไปพบแพทย์โดยเร็ว 

 

 

• ยังพบ “คลัสเตอร์ใหม่"

 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวต่อไปว่า คลัสเตอร์ที่รายงานในวันนี้ มีทั้ง เรือนจำ จ.กระบี่ 137 ราย , ปัตตานี เรือนจำกลาง 36 ราย , โรงงาน และบริษัท ทั้งปราจีนบุรี ระยอง ชลบุรี , คลัสเตอร์ห้างสรรพสินค้า ประจวบคีรีขันธ์ , คลัสเตอร์ตลาด มีด้วยกันหลายจังหวัด อ่างทอง ลพบุรี อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช , คลัสเตรอ์งานศพ มีอย่างต่อเนื่อง ที่นราธิวาส แม่ฮ่องสอน ,

 

ขณะที่ คลัสเตอร์แคมป์คนงาน ที่กทม. คลองเตย พบติดเชื้อ 56 ราย จากคนงานทั้งหมด 120 ราย ซึ่งกทม. รายงานว่า ตัวเลขที่คิดเป็น 47% ของทั้งแคมป์ก่อสร้าง ตรวจพบจากการสุ่มตรวจ ATK ทุกสัปดาห์ ถือว่าต้องชื่นชม ที่มีมาตรการคัดกรองสม่ำเสมอ ผู้สัมผัสใกล้ชิดมีคำแนะนำให้ทำ Home Quarantine ครบ 14 วัน และแคมป์ก่อสร้างที่ ชลบุรี 

 

• คลัสเตอร์ "หมูกระทะ" บางกะปิ  

 

นอกจากนี้ ยังพบ คลัสเตอร์หมูกระทะ บางกะปิ 12 ราย จากคนแรกที่ไม่ทราบติดเชื้อจากที่ไหน และมีการไปร่วมงานเลี้ยง รับประทานหมูกระทะร่วมกัน ใช้เวลาค่อนข้างนาน นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์โรงเรียนที่สมุทรปราการ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และ รร.นายสิบทหารบกที่ประจวบคีรีขันธ์ 

 

"อย่างที่เน้นย้ำเสมอ โดยเฉพาะเร็วๆ นี้ จะมีเทศกาลปีใหม่ คนกลับบ้าน ศบค. ชุดเล็กหารือ เน้นย้ำไปทางจังหวัด ให้ระมัดระวัง คัดกรองคนที่กลับบ้าน เพราะหากคนเหล่านี้เดินทางมาจากที่ทำงาน โรงงงาน แคมป์คนงาน อาจมีการสัมผัสติดเชื้อแต่ยังไม่แสดงอาการ ขอให้ทุกจังหวัดมีมาตรการคัดกรองอย่างเข้มงวด"

 

"ขณะเดียวกัน เมื่อจบงานเทศกาลปีใหม่ คนเหล่านี้ กลับมาทำงานก็มีความเสี่ยงเช่นกัน ขอเน้นย้ำไปยังสถานประกอบการ โรงงาน ตรวจคัดกรอง บุคลากรที่เดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่กลับเข้าทำงานในโรงงานก็อาจจะมีความเสี่ยงเช่นกัน เพราะอาจจะมีการสังสรรค์ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ และทำให้เกิดการระบาดได้ ทั้งนี้ รายงานวันนี้มี 2 จังหวัด ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อ ได้แก่ อุตรดิตถ์ และ อำนาจเจริญ"  ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว 

 

• ฉีดวัคซีนแล้ว 98 ล้านโดส

 

รายงานจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 16 ธ.ค. 2564) รวม 98,856,753 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น 

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 50,314,980 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 43,974,460 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 4,567,313 ราย 

 

• ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 16 ธันวาคม 2564 

 

ยอดฉีดทั่วประเทศ 416,336 โดส
เข็มที่ 1 : 110,704 ราย
เข็มที่ 2 : 162,632 ราย
เข็มที่ 3 : 143,000 ราย

 

ขณะนี้ ฉีดเกิน 50% เกือบทุกจังหวัดแล้ว ยังมี สุรินทร์ ที่มีประชากรฉีดยังไม่ถึง 50% แต่หากดูที่กลุ่มสูงอายุฉีดแล้วเกิน 70% จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวที่วัคซีนยังไม่ถึง 60% ขอให้เร่งเพิ่มเติม ได้แก่ เลย หนองคาย และอุดรธานี ขณะที่ จังหวัดที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมค่อนข้างน้อยและยังต้องเร่ง คือ ปัตตานี ราชบุรี นครนายก กาญจนบุรี ขอให้เน้นย้ำฉีดกลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงวัคซีนยาก ขอให้จังหวัดจัดกิจกรรมการฉีดวัคซีนเคลื่อนที่ เช่น แรงงานประมง ค่ายผู้อพยพ แรงงานผิดกฎหมาย นายจ้างสามารถพาแรงงานเหล่านี้มารับวัคซีน 

 

โดยเฉพาะการกระตุ้นเข็ม 3 ฉีดห่างจากเข็ม 2 อย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป ไม่ต้องรีบ สามารถติดต่อเข้ารับเข็มกระตุ้นได้ เพราะวัคซีนมีเพียงพอ และกรมควบคุมโรค รายงานว่า ธ.ค. นี้จะรับมอบอีก 12 ล้านโดส 

 

 

ในส่วนของวัคซีนเด็ก ตอนนี้ หากเกิน 12 ปี ยังเข้ารับวัคซีนได้ คือ ไฟเซอร์ และ ไฟเซอร์ ขณะที่ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ตอนนี้ขอให้รอก่อน กรมควบคุมโรครายงานว่าคณะกรรมการ อย. พิจารณารายละเอียดอยู่ หากมีการประกาศเปลี่ยนแปลงจะมีการประกาศให้ทราบต่อไป

 

• ปลอมเอกสารวัคซีน มีความผิด

 

สิ่งสำคัญ เมื่อรับการฉีดวัคซีนแล้ว อย่าลืมใส่ใจเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนด้วย เพราะตอนนี้หากเที่ยวปีใหม่ ขึ้นเครื่องบิน ใช้บริการโรงแรม ร้านอาหาร หลายแห่ง ขอบคุณที่มีการตรวจเอกสารการฉีดวัคซีน ถือเป็นมาตรการสำคัญในการเปิดประเทศ

 

ที่ผ่านมา ที่อุดรธานี มีการจับการปลอมแปลงเอกสาร วัคซีนไปแล้ว ต้องเน้นย้ำให้พี่น้องระชาชนอย่าหลงเป็นเหยื่อ เพราะการกระทำ ขอเอกสารวัคซีนปลอมมีความผิด ทั้งบริษัทที่รับปลอมและประชาชน ดังนั้น ควรไปรับและรับเอกสารการฉีดวัคซีนที่ถูกต้อง เช็กได้ผ่านหมอพร้อม 

 

 

• ย้ำยังไม่อนุญาตสถานบันเทิงเปิดกิจการ 

 

ท้ายนี้ พญ.อภิสมัย กล่าวว่า เน้นย้ำว่า การอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์ ในร้านอาหารได้ เฉพาะ 31 ธ.ค. 64 ต้องเน้นย้ำว่า 16 ธ.ค. นี้ สถานบริการ ผับบาร์ สถานบันเทิง เปิดจำหน่ายแอลกอฮอล์ ถือว่าผิด ยังเปิดไม่ได้ แม้จะได้มาตรฐาน SHA SHA+ และหากมีการกระทำความผิด ททท. สามารถเพิกถอนตราสัญลักษณ์ SHA SHA+ ได้ หากไม่สามารถรักษามาตรฐาน  ต้องกลับมาเน้นย้ำที่มาตรการส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเดินทางท่องเที่ยว ข้ามพื้นที่ พบปะเพื่อนฝูง จะทำให้เราผ่านเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัย

  

• ทั่วโลกติดเชื้อ 711,255 ราย

 

สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 711,255 ราย ตัวเลขขยับขึ้นในประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะสหรัฐ รายงานพบผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 1.1 แสนราย เสียชีวิต 997 ราย ถือว่าสูงที่สุด สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า แม้การติดเชื้อตัวเลขค่อนข้างสูง แต่เมื่อประชากรได้ฉีดวัคซีนครอบคลุม อัตราการเสียชีวิตน้อยอยู่ เช่นเดียวกับ สหราชอาณาจักร ติดเชื้อกว่า 8 หมื่นราย เสียชีวิต 146 ราย 

 

 

ที่น่าสนใจ คือ รัสเซีย ติดเชื้อ 2 หมื่นกว่าราย เสียชีวิต 1.133 ราย เยอรมนี ติดเชื้อ เกือบ 6 หมื่นราย รายงานเสียชีวิต 479 ราย ซึ่งเยอรมนี รัสเซีย ถือว่าเป็นประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยใน Test & Go สูงสุด ยังเป็นประเทศที่ต้องจับตา แต่เมื่อดูรวมๆ แล้ว จากที่ประเทศเหล่านี้มีการฉีดวัคซีนครอบคลุม อัตราการเสียชีวิต 6,549 ราย ยังคิดเป็น 1.96% ถือว่าต่ำกว่าก่อนหน้านี้ 

 

ประเทศในแถบเพื่อนบ้าน มีรายงานที่มีการพูดคุยกันในที่ประชุม ศปก.ศบค. ประเทศอินโดนีเซีย ที่การติดเชื้อแม้ตัวเลขไม่สูง 213 ราย แต่มีรายงานโอมิครอน รายแรกในประเทศ ที่น่าสนใจคือพนักงานทำความสะอาด ไม่เคยมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ กำลังตรวจสอบยืนยันสายพันธุ์โอมิครอนอีก 5 ราย ในอินโดนีเซีย 

 

 

เช่นเดียวกันกับ มาเลเซีย ที่มีรายงาน สายพันธุ์โอมิครอนเป็นรายที่ 2 เป็นเด็กอายุเพียง 8 ปี และ ทำให้มาเลเซีย ล่าสุดมีการประกาศมาตรการเข้มข้นขึ้น ห้ามรวมกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก และมีการออกมาตรการให้ประชาชนเข้ามารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น คล้ายไทย และมีรายงานว่ามีประชาชนมาเลเซีย อยู่ระหว่างการยืนยันสายพันธุ์โอมิครอน 18 ราย 

 

 

เกาหลีใต้ เป็นอีกประเทศที่มีการประกาศคุมเข้มโควิด ผู้ที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ ไม่อนุญาตให้ใช้บริการร้านอาหารนอกบ้านร่วมกับผู้อื่น ถือว่าเข้มงวดทีเดียว และภัตตาคาร คาเฟ่ เปิดไม่เกิน 21.00 น. จนถึง 2 ม.ค. 65