“อนุทิน” ระบุไทยคงไม่รอดจาก "โอมิครอน"

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.64 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนในประเทศไทย เพิ่มเป็น 14 ราย กังวลว่าจะมีการติดเชื้อในประเทศหรือไม่ว่า ขณะนี้เชื้อโอมิครอนก็ไปทั่วโลกแล้ว ประเทศไทยก็คงไม่ถูกยกเว้น เพราะไม่ได้ปิดประเทศ ยังให้คนสัญจรไปมาอยู่ แต่มีมาตรการคนเข้ามาประเทศไทยถ้ามาถูกกฎหมายอย่างไรก็ไม่หลุด โดยผู้ที่เข้ามาอย่างถูกกฎหมายทางท่าอากาศยานจะต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบก่อนขึ้นเครื่อง 72 ชั่วโมง และมาถึงประเทศไทย ต้องตรวจซ้ำอีกรอบ ซึ่งก่อนนี้จะเปลี่ยนเป็น ATK ในระบบ Test&Go เพื่อความรวดเร็ว แต่เมื่อมีโอมิครอนก็เฝ้าระวังตระหนักรู้ กลับมาใช้ RT-PCR เหมือนเดิม ยังไม่สามารถ Test&Go แบบเร็วๆ ได้ ส่วนการลักลอบเข้าผิดกฎหมาย ฝ่ายความมั่นคงก็ดูแลอย่างเต็มที่

      "การที่ไทยจับได้หมายความว่าระบบการตรวจสอบของเราทำงาน คนที่มาด้วยโอมิครอนก็ถูกกักตัวนำไปรักษา ซึ่งรักษาคนต่างชาติได้ เพราะคนต่างชาติที่เดินทางมาต้องซื้อประกันสุขภาพวงเงิน 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ หรือล้านกว่าบาท ประเทศไทย ก็ไม่เสียประโยชน์ ส่วนคนไทยที่เข้ามามีสิทธิรักษาตามระบบหลักประกันสุขภาพ ก็ต้องยอมรับกติกาแบบนี้ เชื่อว่าวัคซีนที่ประเทศไทยฉีดให้สามารถป้องกันโอมิครอนได้ ความรุนแรงของโอมิครอนที่ยืนยันมาโดยตลอดก็ไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าเชื้อสายพันธุ์อื่นที่ประสบมาอย่างเดลตา อัลฟา ยังมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน"นายอนุทิน กล่าว

          นายอนุทิน กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรค กำลังเร่งรณรงค์ให้ประชาชนมารับวัคซีนเข็ม 3 ซึ่ง เข็ม 3 ที่จะให้ประชาชนไทยมีวัคซีนแล้ว สามารถมารับได้ตามกำหนด เช่น ตอนนี้ผู้ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม แอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ที่เป็นวัคซีนคู่จนถึงเมื่อเดือนก.ย.สามารถมารับเข็ม 3 ได้เลย ซึ่งซิโนแวค 2 เข็ม มาบูสต์ด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หากเป็นแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ก็ต่อด้วย mRNA ทุกอย่างมีกระบวนการขอให้ทำตาม ในส่วนของ กทม.ก็จะได้ดำเนินการแจ้งประชาชนมารับเข็ม 3 เพราะมีข้อมูลอยู่แล้ว ฉีดที่ไหนไปรับที่นั่น กรมควบคุมโรคจะกระจายวัคซีนออกไปให้เร็วที่สุด ผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ ก็ได้รับทราบ และร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด มาขอวัคซีนจากกรมควบคุมโรคที่ดำเนินการจัดส่งต่อไป

      ผู้สื่อข่าวถามถึงช่วง 2 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี 2564 ที่มีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมกันมากขึ้น นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนจะต้องมีมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ส่วนบุคคล อย่างการป้องกันตัวเองขั้นสูงสุด(Universal Prevention) ในการเข้าร่วมทุกกิจกรรม ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่าง และล้างมือ ซึ่งหากกิจกรรมที่มีการรวมกันไม่ถึง 1,000 คน จะต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิดอย่างน้อย 2 โดส และกิจกรรมที่มากกว่า 1,000 คน จะต้องปฏิบัติมาตรการโควิดฟรีเซ็ตติ้ง(Covid-19 Free Setting) ด้วยการ 1.ตรวจหาเชื้อด้วย ATK ก่อนเข้างาน 2.แสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด

        “ไม่ได้ตึงเกินไป เวลาพูดต้องพูดให้ครบ การดื่มแอลกอฮอล์เราอนุญาตในวันที่ 31 ธ.ค.2564 จนให้ถึงเวลาตี 1 ของวันที่ 1 ม.ค.2565 เท่านั้น เพียงวันเดียว ไม่ใช่ทุกวันทำได้ ซึ่งเราก็ต้องขอความร่วมมือประชาชนว่าเฉลิมฉลองด้วยความตระหนักรู้ก็จะไม่มีอะไร” นายอนุทิน กล่าว

        เมื่อถามว่า ปีใหม่ของไทย จะทำให้เกิดสถานการณ์แบบอังกฤษหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ประชาชนจะต้องร่วมมือในมาตรการ หากทำเต็มที่ก็ปลอดภัย

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์