คลัสเตอร์ใหม่โควิด-19กทม.'ห้างสรรพสินค้าถ.ลาดพร้าว'

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล ในการแถลงสถานการณ์โควิด-19 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวว่า ประเทศไทยมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ 2,455 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังในรพ.1,210 ราย การค้นหาเชิงรุกในชุมชน 750 ราย ในเรือนจำ 479ราย และติดเชื้อจากต่างประเทศ 16 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 41 คน หายป่วยเพิ่ม2,571 ราย ระลอกเม.ย.สะสม 109,031ราย เสียชีวิตสะสม 779 ราย สะสมทั้งหมด 137,894 ราย เสียชีวิตรายสะสมทั้งหมด 873 ราย อัตราการเสียชีวิต 0.63% เหลือรักษาอยู่ 45,256ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 1,210 รายในจำนวนนี้เป็นผู้ที่ใส่ท่อช่วยหายใจ 402 ราย ส่วนการฉีดวัคซีนแล้ว 3,147,227 โดส

รายละเอียดผู้เสียชีวิต 41 รายใหม่ อายุน้อยที่สุด 29ปีและสูงสุด 86ปี เป็นเพศชาย 25 ราย หญิง 16 ราย พบในกรุงเทพมหานคร(กทม.) 16 ราย สมุทรปราการ 7 ราย นนทบุรี 3 ราย ชลบุรี ปทุมธานีจังหวัดละ 2ราย ส่วนสิงห์บุรี สุโขทัยอุดรธานี นราธิวาส เลย สกลนคร นครสวรรค์ปราจีนบุรี ตรัง นครศรีธรรมราช และสมุทรสาครจังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวและปัจจัยเสี่ยง อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไตเรื้อรัง ไขมันในเลือดสูง โรคปอดเรื้อรัง โรคตับ หลอดเลือดสมองและไม่มีโรคประจำตัว เป็นต้น ส่วนปัจจัยเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จากคนในครอบครัว คนอื่นๆ อาชีพเสี่ยง เ ไปที่คนหนาแน่น เป็นต้น

จ.โควิดเป็น0ลดลง
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า 10 จังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด คือ กทม 975 ราย เพชรบุรี 259 ราย นนทบุรี 122 ราย สมุทรปราการ 100 รายปทุมธานี 61 ราย สงขลา 42 ราย ชลบุรี 40 รายตาก 30 รา ยสุราษฎร์ธานี 24 ราย และสมุทรสาคร 21 ราย
ส่วนจังหวัดที่ไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ หรือจังหวัดสีขาวมี 16 จังหวัดลดลงจากวันก่อนหน้า แสดงว่าเกิดการติดเชื้อได้ทุกที่ แม้เป็น 0 ราย แต่ถ้าการ์ดไม่ตกก็ปกป้องจังหวัดได้ ส่วนจังหวัดมีรายงานผู้ติกเชื้อใหม่ 1-10รายมี 40 จังหวัด 11-50 รายมี 16 จังหวัด 51-100 รายมี 2 จังหวัด คือ สมุทรปราการและปทุมธานี และมากกว่า 100 รายมี 3 จังหวัด คือ กทม. เพชรบุรี และนนทบุรี

คลัสเตอร์ระบาดใน10จ.

การระบาดที่พบใน 10 จังหวัด คือ 1. กรุงเทพพื้นที่บางกะปิ สถานที่ตลาดบางกะปิและชุมชนรอบๆ ติดเชื้อสะสมแล้ว 438 ราย แคมป์ก่อสร้าง 19 ราย พื้นที่หลักสี่ สถานที่แคมป์ก่อสร้าง ติดเชื้อสะสม 1,413 ราย พื้นที่ป้อมปราบศัตรูพ่าย สถานที่ตรอกมะขาม 2 ติดเชื้อสะสม 403 ราย พื้นที่คลองเตย สถานที่ชุมชนและตลาดคลองเตย ติดเชื้อสะสม 1,376 ราย พื้นที่พระนคร สถานที่สะพานเหล็ก ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ ติดเชื้อสะสม 12 ราย 2.นนทบุรี พื้นที่เมืองนนทบุรี สถานที่แคมป์ก่อสร้าง ติดเชื้อสะสม 526 ราย 3.ปทุมธานี พื้นที่ปทุมธานีและนนทบุรี สถานที่ตลาดสี่มุมเมือง ติดเชื้อสะสม 1,477 ราย 4.สมุทรปราการ พื้นที่เมืองสมุทรปราการ สถานที่คอนโดมิเนียม 2 แห่งและสัมผัสกันในชุมชน ติดเชื้อสะสม 128 ราย 5.เพชรบุรี พื้นที่กระจายใน 8 อำเภอ สถานที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ติดเชื้อสะสม 2,790 ราย 6.ชลบุรี พื้นที่เมืองชลบุรีและพานทองสถานที่โรงงานผลิตสายไฟ ติดเชื้อสะสม 135 ราย 7.สุราษฎร์ธานี พื้นที่ดอนสัก สถานที่โรงงานอาหารทะเลแช่แข็ง ติดเชื้อสะสม 11 ราย ซึ่งเป็นคลัสเตอร์ใหม่ 8.ระนอง พื้นที่เมืองระนอง สถานที่แรงงานแพปลาชาวเมียนมาร์ ติดเชื้อสะสม 584 ราย 9.นราธิวาส พื้นที่ตากใบ สถานที่สัมผัสกันในชุมชน ติดเชื้อสะสม 97 รายและ 10.ยะลา พื้นที่ธารโต บันนังสตา สถานที่สัมผัสกันในชุมชน ติดเชื้อสะสม 61 ราย
" สรุปสถานการณ์โควิด- 19 ทั่วโลกพบผู้ติดเชื้อภาพรวมลดลง ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่องแนวโน้มคงตัวทั้งกทม. ปริมณฑลและต่างจังหวัดยังพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อน ทั้งต่อเนื่องจากกลุ่มเดิม ในโรงงานหลากหลายประเภท แคมป์ก่อสร้างชุมชนและกลุ่มใหม่ ในโรงงาน และพบผู้ติดเชื้อผ่านชายแดนของประเทศต่อเนื่อง โดยเฉพาะกัมพูชา มาเลเซีย เมียนมาร์ สถานที่เสี่ยงยังเป็นโรงงาน ตลาดโดยเฉพาะตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ชุมชนแออัด แคมป์ก่อสร้างและชุมชนรอบๆ ปัจจัยเสี่ยงการสัมผัสคลุกคลีกันทั้งในสถานประกอบการที่พัก ชุมชน ครอบครัว การเดินทางในและต่างประเทศ"นพ.ทวีศิลป์กล่าว

อัตราป่วยตายกทม.สูงกว่าประเทศ

สำหรับพื้นที่กทม.มีผู้ติดเชื้อสะสม 36,542 ราย เสียชีวิตสะสม 365 คน อัตราป่วยตายอยู่ที่ 1% ซึ่งสูงกว่าอัตราของประเทศซึ่งอยู่ที่ 0.63% ส่วนการระบาดจากวันที่ 14 พ.ค. พบ 19 คลัสเตอร์ใน 16 เขต แต่ในวันที่ 25 พ.ค. พบ 38 คลัสเตอร์ใน 30 เขต แม้จะมีแนวโน้มควบคุมได้ใน 10 เขต

และมี 5 คลัสเตอร์ใหม่ คือ เขตบางกะปิ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งถนนลาดพร้าว และเคหะแห่งหนึ่งแขวงคลองจั่น เขตสวนหลวง แคมป์ก่อสร้างต่อเนื่องไซต์งานเขตดุสิต เขตยานนาวาโรงงานเย็บผ้าและเขตหนองจอก ตลาดหนองจอก

ชงคกก.วิชาการตัดสินเคสตาย
ต่อข้อถามกรณีรพ.ศรีสะเกษมีผู้เสียชีวิตปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จงใจปิดข้อมูล เพื่อให้ยอดผู้เสียชีวิตต่ำกว่าข้อเท็จจริงหรือไม่
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า รองนายกรัฐมนตรึได้สั่งให้มีการตรวจสอบด่วน ซึ่งไม่มีการปกปิดข้อมูล โดยได้รับรายงานจากผอ.รพ.ศรีสะเกษว่า กรณีผู้ป่วยชายไทย อายุ 61 ปี ภูมิลำเนาอ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ติดโควิด-19 โดยเข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2564 ผลการรักษาหายจากโรคโควิด-19 ผลตรวจเป็นลบไม่พบเชื้อ จึงย้ายออกมารักษาต่อในรพ. และพบว่าติดเชื้อแทรกซ้อนเป็นเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เสียชีวิตในวันที่ 22 พ.ค. แต่เพื่อไม่ประมาท ทางรพ.จึงได้ป้องกันและดำเนินการเหมือนผู้ป่วยโควิด-19อื่นๆไปด้วย

"อย่างไรก็ตาม จะมีการนำกรณีนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวิชาการ กรมควบคุมโรค เพื่อพิจารณาตัดสินการเสียชีวิตว่าเหตุจากโควิด-19 หรือปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรีย"นพ.ทวีศิลป์กล่าว

ชะลอจองวัคซีนผ่าน"หมอพร้อม"
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ผอ.ศปก.ศบค.ได้รับกาสั่งการจากนายกรัฐมนตรีให้มีการประชุมหารือ โดยมีเรื่องวัคซีนใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่1 การลงทะเบียนรับวัคซีน ซึ่งเดิมให้ดำเนินการผ่านระบบหมอพร้อม ตอนนี้ให้ชะลอเรื่องการลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไปก่อน โดยจากที่ระบบหมอพร้อมทำหน้าที่ 3 ข้อ ได้แก่ 1.ลงทะเบียนรับวัคซีน 2.ติดตามการฉีดเข็มที่1,2และผลข้างเคียง และ3.ออกใบรับรองการฉีดวัคซีนที่ครบถ้วน ตอนนี้ให้ระบบหมอพร้อมให้ทำในข้อ2และ3 ส่วนข้อ1 การลงทะเบียนรับวัคซีนนั้น ให้มีทางเลือกกับประชาชนที่หลากหลาน เช่น ภูเก็ตมีแอปพลิเคชั่นของภูเก็ต กทม.มีระบบของกทม.ที่จะเริ่มในวันที่ 27พ.ค.นี้ และนนทบุรีมีระบบของตนเอง เป็นต้น ในเรื่องของหน้าด่านการลงทะเบียนนี้เพื่ออำนวยความสะดวกและไม่ให้เป็นคอขวดอย่างเดิม ซึ่งแต่ละจังหวัดสามารถนำโมเดลของนนทบุรี ภูเก็ต หรือกทม.ไปใช้กับพื้นที่ตัวเองได้ หรือเดินไปรพ. หรือผ่านอสม.ยังทำได้เหมือนเดิม

"สำหรับคนที่ลงทะเบียนผ่านระบบหมอพร้อมไว้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค จะได้รับวัคซีนในลำดับต้นๆ เพราะถือเป็นผู้แจ้งความประสงค์ตั้งแต่แรก"นพ.ทวีศิลป์กล่าว

และประเด็นที่ 2 แผนแจกจ่ายวัคซีน ซึ่งเดิมเป็นการจัดสรรโควต้าตามการจองวัคซีน แต่บางพื้นที่มีการติดเชื้อน้อย แต่ปัจจุบันนายกฯได้สั่งให้ศปก.ศบค.หารือร่วมกับปลัดสธ. และอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้มีการปรับเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยใช้เกณฑ์อัตราการติดเชื้อในพื้นทีา ที่มีการเปลี่ยนแปลงรายวัน พื้นที่เศรษฐกิจ สังคม และท่องเที่ยว และกลุ่มบุคคลเสี่ยง กลุ่มเฉพาะ เช่น โรงงาน หรือพนักงานขับรถสาธารณะ เป็นต้น จึงมีการปรับใหม่โดยใช้หลายเกณฑ์ นำมาสู่การจัดสรรใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงาน เกณฑ์การจัดสรรเดิมของสธ.นั้นจะจัดสรรให้ครอบคลุม 70%ของประชากรในแต่ละจังหวัด ส่วนจังหวัดที่มีอัตรการติดเชื้อมากขึ้น หรือจังหวัดเป้าหมายเศรษฐกิจ ก็จะมีการจัดสรรออนท็อป(On top)ไป