วันเด็กปีนี้ ชวนรู้จักโลกของแมลง...โลกของเรา

แมลงในโลกมีอยู่มากกว่า 1 ล้านชนิด (species) และอีกหลายชนิดก็ยังไม่มีการค้นพบ เมื่อเทียบกับพืชซึ่งมีอยู่ราว 5 แสนชนิด กลุ่มแมลงที่จัดเป็นแมลงศัตรูมีไม่ถึง 10% ในขณะที่อีก 90% เป็นกลุ่มแมลงที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะกลุ่มแมลงผสมเกสร คือ ผึ้ง ผีเสื้อ ต่อแตน แมลงภู่ ฯลฯ ซึ่งแทบมองไม่เห็นแล้วในโลกคอนกรีต...
ปีนี้ ผีเสื้อตัวน้อยกับเหล่าแมลงตัวน้อยเพื่อนร่วมโลกของเรา จะมากางปีกโบยบินอยู่ใจกลางกรุง ในงาน เอ็มโพเรียม – เอ็มควอเทียร์ อิน วันเดอร์แลนด์ “ซูเวนเจอร์” (Emporium – Emquartier in Wonderland “Zooventure”) ณ ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรียม และ ดิ เอ็มควอเทียร์
คุณสุธาวดี ศิริธนชัย รองกรรมการผู้จัดการ บอกว่า “เพราะเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมการพัฒนาการเจริญเติบโตของเด็กและเยาวชน วันเด็กแห่งชาติประจำปี 2562 จึงขอมีส่วนร่วมในการส่งเสริมเด็กและเยาวชนด้วยกิจกรรมวันเด็ก เพื่อมอบความสุข สนุกสนาน และสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ โดยปีนี้มีไฮไลต์อยู่ที่โลกของแมลงและผีเสื้อนานาชนิด ที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้ใกล้ชิดกับสัตว์ ได้เห็นวงจรชีวิตอันน่าทึ่งของแมลง เป็นการเรียนรู้นอกตำราที่ได้ทั้งความรู้และความสนุกสนาน”
ช่วงวันของเด็กปีนี้ เด็กเมืองกรุงจะได้รู้จักใกล้ชิดกับผีเสื้อและแมลงภายในโดมแมลงจำลองขนาดใหญ่ จาก อุทยานแมลงเฉลิมพระเกียรติฯ คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเนรมิต BUG – A – BOO DOME ให้เด็ก ๆ ผจญภัยในโลกของแมลงตัวเป็น ๆ พร้อมวิทยากรผู้รู้เรื่องแมลง จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คอยตอบคำถามน้อง ๆ
คุณภราดร ดอกจันทร์ เจ้าหน้าที่วิจัยศูนย์วิจัยและพัฒนากีฏวิทยาสิ่งแวดล้อม บอกว่า “เราสร้างโดมขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เมตร สูง 1 เมตร เพื่อนำแมลงหลากหลายชนิดกับพืชอาหารของแมลงนำไปใส่ไว้ในโดม ให้เด็ก ๆ เรียนรู้โลกของแมลง เช่น ผีเสื้อประมาณ 400 ตัว ดักแด้ 400 ตัว ซึ่งจะไปอยู่ในโดมได้ 4 วันสบาย ๆ เด็ก ๆ จะเรียนรู้กระบวนการเปลี่ยนจากดักแด้เป็นผีเสื้อ มีการฟักตัวอยู่ก่อนจะบินเป็นผีเสื้ออยู่ในโดม คาดว่าจะนำผีเสื้อกลางวันไปแสดง 6-12 ชนิด เช่น ผีเสื้อหางติ่งสีชมพู ผีเสื้อหางติ่งธรรมดา ผีเสื้อหนอนกระท้อน ผีเสื้อดอกรัก ผีเสื้อดอกรักลายเสือ ผีเสื้อหนอนกระทกรก ฯลฯ และมีแมลงที่น่าศึกษาคือ ตั๊กแตนกิ่งไม้ ตั๊กแตนใบไม้ ตั๊กแตนกิ่งไม้ออสเตรเลีย ส่วนหนอนผีเสื้อจะอยู่ในตู้กระจกด้านนอก มีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ แมลงบางชนิดสัมผัสได้แต่ก็ต้องดูแล บางชนิดไม่ควรสัมผัสเพราะอาจมีอันตราย เช่น ตั๊กแตนกิ่งไม้”
ตั๊กแตนกิ่งไม้
ตั๊กแตนตัวผอมยาวผอมสีเหมือนกิ่งไม้ที่มันเกาะติดอยู่นั้น เป็นตั๊กแตนที่บินไม่ได้ มองหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเพราะสีและรูปร่างของมันกลมกลืนไปกับกิ่งไม้ ตั๊กแตนกิ่งไม้ยักษ์ปลายแหลม เป็นตั๊กแตนกิ่งไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย พบมากในภาคอีสาน เคยบันทึกไว้ว่ามีความยาวถึง 300 มิลลิเมตร ส่วน ตั๊กแตนใบไม้ ก็มีรูปร่างเหมือนใบไม้ ด้วยเทคนิคการพรางตัวที่เลียนแบบใบไม้ที่มันเกาะอยู่แทบทุกส่วน ทั้งขา ลำตัว ปีก ล้วนเป็นแผ่นบางเหมือนใบไม้จนมองหาไม่เจอ ในประเทศไทยสำรวจพบ 4 ชนิด ยังมี ตั๊กแตนกิ่งไม้ป่าภาคใต้ ที่ใครเห็นแล้วอาจตกใจเพราะตัวใหญ่มาก และ ตั๊กแตนกิ่งไม้ยักษ์ออสเตรเลีย ตัวใหญ่มีปีกและลำตัวสีน้ำตาลเหมือนใบไม้แห้ง
ตั๊กแตนกิ่งไม้ป่าภาคใต้
แมลงตัวโต ๆ อย่างนี้ เด็กกรุงเทพคงพบเห็นไม่ง่ายนัก ยังมีหนอนผีเสื้อชนิดต่าง ๆ แมลงปีกแข็งจำพวกด้วงและแมลงทับ ที่เพาะเลี้ยงจากศูนย์วิจัยและพัฒนากีฏวิทยาสิ่งแวดล้อม เด็ก ๆ จะเข้าใจโลกของแมลงมากขึ้น ชมได้ตลอดสี่วันไม่ต้องเดินทางไกลไปชมถึงกำแพงแสน เจ้าหน้าที่จากศูนย์วิจัยฯ เสริมว่า
ตั๊กแตนใบไม้
“ในกรุงเทพก็มีพิพิธภัณฑ์แมลง แต่เป็นแมลงแห้งของภาควิชากีฏวิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกส่วนหนึ่งเป็นของหน่วยงานกรมวิชาการเกษตร สำหรับในงานวันเด็กปีนี้ เรานำของจริงมาให้ชม เพื่อให้เด็ก ๆ ศึกษาแมลงในประเทศไทย การดำรงชีวิตของแมลง มีแมลงแปลก ๆ แมลงที่มีสีสันสวยงาม บางชนิดอาจมีอันตราย เด็ก ๆ จะรู้จักแมลงมากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยปลูกฝังให้เขารู้สึกว่าเป็นของเขา ต้องช่วยกันดูแลรักษา และเป็นระบบนิเวศ ใครที่กลัวแมลงเราต้องรู้จักเขาก่อนถึงจะรักและเลิกกลัว ส่วนแมลงบางชนิดที่เป็นอันตราย เราต้องรู้จักวิธีควบคุมให้เราอยู่ร่วมกันได้โดยไม่กระทบกระทั่งกัน ให้เขาอยู่ในที่ของเขาโดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรา”
แมลงมีทั้งโทษและประโยชน์ และเป็นดัชนีชี้วัดถึงสภาพแวดล้อม ดิน น้ำ อากาศ
“สถานการณ์แมลงในประเทศไทยทุกวันนี้เมื่อเทียบกับเมื่อสิบปีก่อน แมลงลดลง เนื่องจากสภาพป่าลดลง โดยเฉพาะแมลงหลายชนิดที่พบเจอตามบ้านเรือน เช่น ผีเสื้อที่เคยบินตามต้นไม้ พบว่าลดจำนวนลงเยอะมาก เพราะมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช หรือกำจัดวัชพืช เราใช้กันเยอะมาก ที่เป็นปัญหาหนัก ๆ คือสารกำจัดวัชพืช เมื่อฆ่าวัชพืชแล้วก็ฆ่าพืชอาหารของผีเสื้อและแมลงอื่น ๆ ไปด้วย ปัจจุบันจะพบว่าในเมืองไม่ค่อยพบผีเสื้อบินเมื่อเทียบกับเมื่อสักสิบปีที่แล้ว ถึงมีต้นไม้ก็เถอะ เพราะต้นไม้ก็ไม่ปลอดภัยสำหรับมันจากการฉีดยาพ่นยา และอย่างอื่นอีกมากมาย”
ยุคนี้ที่ผีเสื้อตัวน้อย น้อย...โบยบินจากไป ผีเสื้อที่หายไปบ่งบอกถึงสภาวะเสียสมดุลของสิ่งแวดล้อม ถึงเวลาที่เด็ก ๆ จะมาเรียนรู้โลกของแมลงและช่วยกันปกป้องเพื่อนตัวจ้อยให้อยู่คู่กับระบบนิเวศต่อไป







