ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

เตรียมกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้ง กับ Bangkok Art Biennale 2026 ผ่านแนวคิด "Angels & Mara" เวทีโชว์ผลงานอันทรงพลังสำหรับศิลปะร่วมสมัย วันที่ 29 ต.ค. 26 ถึง 28 ก.พ. 27

เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (Bangkok Art Biennale หรือ BAB) เตรียมกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่อีกครั้งเป็นครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม 2026 ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2027 ภายใต้แนวคิด "Angels & Mara" (เทวดา และมาร) โดยจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นเวทีโชว์ผลงานอันทรงพลังสำหรับศิลปะร่วมสมัย ซึ่งเกิดจากความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง มูลนิธิ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ และ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน

Bangkok Art Biennale 2026 จะนำผลงานศิลปะร่วมสมัยเข้าสู่แลนด์มาร์กทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ทั้งวัดวาอารามที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน โบราณสถาน และพื้นที่สาธารณะที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ภายในธีมใหม่ที่ชื่อว่า Angels & Mara (เทวดา และมาร) ซึ่งมีแนวคิดว่า ในยุคที่โลกของเรากำลังสั่นคลอนด้วยสงคราม การก่อการร้าย วิกฤติสิ่งแวดล้อม และความแตกแยกทางการเมือง มนุษยชาติตกอยู่ท่ามกลางเส้นแบ่งที่พร่าเลือนระหว่างความดี ความชั่ว และพื้นที่สีเทาระหว่างกัน เกิดฉากทัศน์ที่สะท้อนการดำรงอยู่ร่วมกันของขั้วตรงข้าม ทั้งระหว่างความเมตตากับความโหดร้าย หรือแม้กระทั่งความจริงกับการโกหกบิดเบือน

แนวคิด Angels & Mara ถูกเลือกมาเป็นธีมหลักของงาน เพื่อสำรวจความตึงเครียดระหว่างผู้ปกปักรักษาแห่งแสงสว่างและพลังแห่งกิเลสตัณหา โดยคำว่า Angels มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก "Angelos" ที่หมายถึง "ผู้นำสารจากสวรรค์" ซึ่งปรากฏอยู่ในหลายวัฒนธรรมและศาสนาจากทั่วโลก ในฐานะของสัญลักษณ์แห่งความหวังและการคุ้มครอง ขณะที่ Mara (มาร) ในคติพุทธศาสนา ถือเป็นตัวแทนของความตาย กิเลสตัณหา และด้านมืดของธรรมชาติมนุษย์ โดย BAB 2026 จะเป็นพื้นที่ให้ศิลปินจากไทยและทั่วโลกได้สะท้อนภาพการต่อสู้ ความย้อนแย้งของขั้วตรงข้ามที่ต้องอยู่ร่วมกัน และความยืดหยุ่นในการปรับตัวของผู้คนในยุคสมัยของเรา

กรุงเทพธุรกิจ ได้มีโอกาสพูดคุยกับศิลปินชาวต่างชาติบางส่วน ที่ได้เดินทางมาเตรียมจัดแสดงผลงานของตนเองในเทศกาลครั้งนี้ แต่ละคนก็มีแนวคิดและไอเดียอันน่าทึ่ง ที่อยากถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รับรู้และสัมผัสความหมายในชิ้นงานของพวกเขา หนึ่งในนั้นก็คือ "เจอราร์ด & เคลลี่ (Gerard & Kelly)" สองหนุ่มศิลปินจากสหรัฐอเมริกา เจ้าของผลงาน "Saints at a disco" (นักบุญในดิสโก้) ใช้เทคนิคพิมพ์ซิลค์สกรีนและนีออนบนแผ่นอะลูมิเนียมคอมโพสิต 

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

พวกเขาเล่าว่า นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มาสร้างสรรค์ผลงานในเอเชียอย่างลึกซึ้ง โดยมุ่งเน้นการสร้างสรรค์ผลงานที่ท้าทายแนวคิดเกี่ยวกับ "การแบ่งแยกระหว่างพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์และพื้นที่แห่งโลกิยะ" โดยไอเดียหลักจากการสำรวจแนวคิดเรื่องพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และแนวคิดของนักบุญในประสบการณ์ชีวิตประจำวัน รวมถึงชีวิตกลางคืนและพื้นที่ดิสโก้ ศิลปินทั้งสองคนมองว่า สถาปัตยกรรมของไนต์คลับเป็นเสมือน "โบสถ์ร่วมสมัย" พวกเขาตั้งคำถามว่า ทำไมเราต้องจำกัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ในวัดเท่านั้น ในเมื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คือสิ่งที่เราสัมผัสได้ทุกนาทีในแต่ละวัน

พวกเขามองว่าการเชื่อมโยงสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้ากับประสบการณ์ทางร่างกาย การเต้นรำ และเรื่องเพศ จะช่วยขจัดความแบ่งแยกทางความคิดที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอประสบการณ์ทางเพศหลากหลาย ก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้ขัดแย้งกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลย อีกทั้ง การวิจัยของพวกเขาในปัจจุบันเน้นไปที่สถาปัตยกรรมของดิสโก้เธค จึงได้เอาไอเดียดังกล่าวมาผสมผสานในชิ้นงานด้วย

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างผลงานของพวกเขากับธีม "Angels & Mara" ของเทศกาล BAB 2026 ศิลปินทั้งสองอธิบายว่า ความคิดแบบตะวันตกนั้นเป็นแบบทวิภาค มักมีการแบ่งแยกที่ชัดเจนระหว่างสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับโลกิยะ ขาวกับดำ หรือเทวดาและมาร แต่พวกเขาอยากท้าทายการแบ่งแยกนั้น และพยายามจะสื่อว่าทั้งสองสิ่งสามารถกลมกลืนกันได้ ซึ่งธีมเทวดาและมารเป็นธีมที่ยั่วยุและท้าทายให้ศิลปินคิดถึงพลังที่ใหญ่กว่า และกล้าตั้งคำถามเกี่ยวกับจริยธรรม ยกตัวอย่างแนวคิดพื้นฐานของพุทธศาสนา จะเห็นว่าความดี-ความชั่ว ไม่ได้แบ่งแยกกันตายตัว แต่ทั้งสองอย่างล้วนปะปนกันอยู่ในทุกสิ่ง และเราควรจะมองทั้งสองด้านของเหรียญเสมอ

สำหรับเป้าหมายของการจัดแสดงผลงานชิ้นนี้คือ พวกเขาไม่ต้องการสร้างพรมแดนเทียม แต่อยากเปิดพื้นที่ให้กับชุมชนที่อาจถูกกีดกันออกไปจากวิถีสังคมหลัก ศิลปินทั้งคู่หวังให้ผู้เข้าชมงานและสาธารณชนพบว่า ตนเองอยู่ในพื้นที่ที่ไม่เคยไป หรือไม่เคยเห็นพื้นที่เหล่านั้นในมุมมองใหม่ โดยการนำโบสถ์-สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาสู่วิถีชีวิตยามค่ำคืน (Night Life) ทำให้เกิด "สถานที่ใหม่" (A New Place) ขึ้นมาในสังคม อยากให้เห็นว่าพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นโลกิยะ อย่างเช่น ไนต์คลับ ก็สามารถถูกมองเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ได้เช่นกัน ผ่านการทำงานศิลปะที่ใส่กรอบความคิดใหม่ลงไป

ด้านศิลปินสาวจากมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในลอนดอนอย่าง "แมนดี้ เอล-ซาเยห์ (Mandy El-Sayegh)" เจ้าของผลงานการจัดวางใน Public Gallery แนวทางการทำงานของเธอมีรากฐานจากการจัดองค์ประกอบในสื่อที่หลากหลาย โดยสร้างจากองค์ประกอบต่างๆ เช่น ภาพจากหน้าหนังสือพิมพ์ โฆษณา แผนที่ทางอากาศ หนังสือเกี่ยวกับกายวิภาค และลายมือเขียนของพ่อเธอ ต่างถูกนำมารวมเข้ากับองค์ประกอบที่วาดด้วยมือและวัสดุที่ไม่ใช่รูปแบบดั้งเดิม เช่น น้ำยาง เพื่อให้เธอสามารถเคลื่อนย้ายไปมาระหว่างวัสดุ ร่างกาย และภาษาได้อย่างอิสระ

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

แมนดี้ เล่าว่า เธอรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงาน เพราะการทำงานนี้มอบภาษาให้เธอได้พูดถึงสิ่งที่เธอไม่สามารถพูดถึงได้อย่างเปิดเผย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรงและสงคราม ผลงานที่เธอเตรียมจัดแสดงในเทศกาล BAB 2026 จะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นเรื่องจิตวิญญาณ การใช้วัตถุและจริยธรรมในการทำงานกับความรุนแรงและประวัติศาสตร์ที่ถูกทำลาย

โดยเธอได้แรงบันดาลใจมาจากประเพณีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณและพิธีกรรมสำหรับผู้ตาย เพื่อทำความเข้าใจอาณาจักรทางจิตวิญญาณ เธอพยายามนำจิตวิญญาณกลับมา เพราะเมื่อเธอเห็นภาพความรุนแรง ร่างกายเหล่านั้นดูเหมือนถูกถอดออกจากวิญญาณ เธอเน้นย้ำว่า ภาวะความแตกหักเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์ การทำงานของเธอจึงอยู่บนความเป็นวัตถุที่แตกหัก

ในฐานะที่เธอเป็นทั้ง "นักวัตถุนิยมและจิตรกร" เธอเชื่อว่าสิ่งแรกที่ดึงดูดผู้ชมและทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นคือ ความเป็นวัตถุ (materiality) ของชิ้นงาน เธอต้องการ นำเสนอวัสดุของเธอเป็นจุดขายหลัก เพื่อให้ผู้ชมเริ่มต้นจากการรับรู้ สัมผัส แล้วจึงขยายไปสู่แนวคิดและปรัชญา ซึ่งเป็นแนวทางที่เธอระบุว่าคือการเดินทางจากสสารไปสู่ความคิด และจุดเด่นอีกอย่างของผลงานนี้คือ แทนที่จะสร้างระยะห่างจากความรุนแรง แต่เธอมุ่งหวังให้ผู้ชมลองนั่งอยู่กับความไม่สบายใจ เพื่อให้ผู้ชมได้ซึมซับและสัมผัสกับชิ้นงานนี้ได้อย่างลึกซึ้ง เพื่อไม่ให้เกิดการตัดขาดจากความรู้สึกในฐานะมนุษย์  อย่างไรก็ตาม เธอมองว่าการทำงานกับภาพความรุนแรงต้องใช้ความระมัดระวังทางจริยธรรม 

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

ปิดท้ายกับศิลปินหญิงจากเกาหลีใต้อย่าง "ชิน มิน (Shin Min)" เจ้าของผลงาน Would You Like to Eat Here? It’s Five Minutes to Close โดยใช้วัสดุเป็นกระดาษผสานเทคนิค สไตโรโฟม, การเคลือบโพลียูเรีย, การเพ้นท์สี เธอเริ่มเล่าว่า ตนเองไม่ได้เรียนจบด้านศิลปะโดยตรง แต่มีพื้นฐานเป็นพนักงานบริการ งานศิลปะของเธอจึงมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์สำหรับคนธรรมดาสามัญที่อาจไม่มีเวลา หรือรู้สึกว่าเข้าถึงโลกศิลปะได้ยาก ดังนั้นเธอจึงอยากสร้างสรรค์งานศิลปะขึ้นมาเพื่อคนกลุ่มนี้ได้ค้นพบการปลอบโยนและแรงบันดาลใจ โดยกลุ่มผู้ชมอันดับแรกของเธอคือ คนธรรมดาสามัญ และพนักงานบริการ เธอเชื่อว่าชนชั้นสูงมักไม่เข้าใจชีวิตคนเหล่านี้

จุดเด่นในชิ้นงานของเธอคือการเล่าเรื่องทางอ้อม เธอใช้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของประสบการณ์ที่เคยพบเจอมา และบางครั้งก็เป็นเหตุการณ์ตลกขบขัน นำมาถ่ายทอดเป็นผลงานศิลปะ เพื่อให้คนภายนอกเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นหลังฉากงานบริการ ยกตัวอย่างเช่น การที่บาริสต้าแสดงความคับข้องใจทางอ้อมกับลูกค้าที่สั่งเครื่องดื่มก่อนร้านปิดเพียง 5 นาที

ผลงานของเธอไม่ได้เป็นการสื่อสารหรือวิพากษ์วิจารณ์แบบตรงๆ แต่เธอเลือกที่จะ "แสดงหลักฐาน" และทิ้งเบาะแสไว้เพื่อให้ผู้คนได้ค้นหา สะท้อนความคิด โดยใช้อารมณ์ขันที่มืดหม่นเข้ามาผสมผสาน ส่วนเหตุผลที่เธอเลือกใช้กระดาษมาสร้างสรรค์ผลงานนั้น ก็เพราะว่ากระดาษมีความใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของทุกคน เราใช้มันในทุกๆ ช่วงจังหวะชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย แม้ว่ากระดาษจะบอบบาง แต่เมื่อถูกนำมาซ้อนกันเป็นชั้นๆ ในงานประติมากรรมของเธอ มันจะกลายเป็นวัสดุที่แข็งแกร่งและทนทานมาก

เธอเล่าต่อว่าสำหรับแรงบันดาลใจของผลงานดังกล่าว มาจากการใช้กระดาษสีน้ำตาลในร้าน McDonald's ซึ่งเป็นถุงใส่มันฝรั่งแช่แข็งที่ถูกทิ้ง เมื่อครั้งที่เธอทำงานที่ McDonald's เธอเปรียบเทียบถุงที่เปื้อนเหงื่อและน้ำมันเหล่านั้นเหมือนกับผิวหนังของพนักงานบริการ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของคนงานพาร์ทไทม์ที่ถูกมองว่า "ใช้แล้วทิ้ง"

เธอมองว่า ผลงานของเธอมีความเชื่อมโยงกับธีม "Angels & Mara" ในแง่ของ ประเพณีทางศาสนาและลัทธิร่างทรง ที่มักใช้กระดาษในการ ขอพร หรือทำ เครื่องราง โดยเธอตีความ "เทวดาและมาร" ในบริบทของแรงงาน ที่อยู่รอบตัวเรา "มาร" คือข้อจำกัด ความยากลำบาก และระบบการทำงานที่ยากลำบาก ขณะที่ “เทวดา” คือวิธีที่เราก้าวผ่านความยากลำบากนั้นไปได้ ด้วยการเฉลิมฉลอง สนับสนุน และขอพร ให้แก่กัน โดยตัวตุ๊กตา (ชิ้นงาน) ที่เธอสร้างจากกระดาษสามารถทำหน้าที่เป็น เครื่องราง ในการช่วยส่งมอบความปรารถนาเหล่านั้นได้

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

ศิลปินทั้ง 3 กลุ่มนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่จะมาร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะในเทศกาล BAB 2026 แต่ยังมีศิลปินอื่นๆ ที่จะมาร่วมจัดแสดงผลงานศิลปะอีกมากมาย ล้วนเป็นศิลปินระดับโลกที่มีชื่อเสียงไปจนถึงศิลปินดาวรุ่งจากทั้งอเมริกา เอเชีย และยุโรป ไม่ว่าจะเป็น Mel Chin (สหรัฐอเมริกา), Piero Golia (อิตาลี), Sonia Hamza (ฝรั่งเศส), Mahtab Hussain & Guy Gunaratne (สหราชอาณาจักร), Htein Lin (เมียนมา), Yasumasa Morimura (ญี่ปุ่น), เมรี ปักกะนิสังข์ (ไทย), Ri (เมียนมา), กรกฎ รุ่งสว่าง (ไทย), ธีรพล สีสังข์ (ไทย), มานิต ศรีวานิชภูมิ (ไทย) และ Sun Yuan & Peng Yu (จีน)

สำหรับเทศกาลงานศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ ถูกจัดมาแล้วหลายครั้ง ในทุกๆ สองปี ซึ่งแต่ละครั้งก็เรียกกระแสความสนใจจากศิลปินชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงกลุ่มผู้ชมสายอาร์ตจากทั่วโลกได้อย่างล้นหลาม ล่าสุด..แวดวงศิลปะไทยก็ได้รับการยอมรับในระดับโลกผ่านการจัดอันดับของ ArtReview Power 100 ประจำปี 2025 

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

ศาสตราจารย์ ดร.อภินันท์ โปษยานนท์ ในฐานะผู้อำนวยการศิลป์ของ บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ (BAB) และผู้ที่เพิ่งได้รับเลือกเป็นหนึ่งในรายชื่อ ArtReview Power 100 ประจำปี 2025 (การจัดอันดับบุคคลทรงอิทธิพลที่สุดในการกำหนดทิศทางศิลปะร่วมสมัยระดับโลก) เปิดเผยว่า การได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร ArtReview ครั้งนี้ ตนไม่ได้มองว่าเป็นรางวัลส่วนตัว แต่ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นของ มูลนิธิบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ (B.A.B.) ที่ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2018 และวันนี้ทั่วโลกมองเห็นแล้วว่าแวดวงศิลปะเมืองไทยก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร

ศิลปินระดับโลก เปิดไอเดียก่อนโชว์จริง ใน Bangkok Art Biennale 2026

ส่วนปัจจัยหลักที่ทำให้ บางกอกอาร์ตเบียนนาเล่ ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้นั้น ดร.อภินันท์ มองว่าเกิดจากสูตรการจัดแสดงที่ลงตัว ที่มีการนำศิลปินระดับโลกมาจัดแสดงร่วมกับศิลปินท้องถิ่นที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อให้คนไทยสามารถ ดูงานศิลปะระดับโลกได้ฟรี โดยไม่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ และยังเป็นการผลักดันให้ศิลปินไทยแจ้งเกิดในเวทีนานาชาติ ทั้งนี้ BAB ไม่ได้จำกัดการแสดงผลงานแค่ศิลปินไทย แต่รวมศิลปินจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังให้โอกาสศิลปินจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ลาว และเมียนมา ได้แสดงผลงานด้วย แม้จะมีความขัดแย้งทางการเมืองหรือปัญหาชายแดนก็ตาม

ทั้งนี้ ในส่วนของสถานที่ที่จัดแสดงงาน Bangkok Art Biennale 2026 ล้วนเป็นแลนด์มาร์กสำคัญในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางการจัดแสดงงานศิลปะอย่าง "หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)" และพื้นที่เมืองล้ำสมัยอย่าง "วัน แบงค็อก (One Bangkok)" ไปจนถึงโบราณสถานอันทรงคุณค่า ทั้งวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร, วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร, วัดประยุรวงศาวาส วรวิหาร, มิวเซียมสยาม ซึ่งเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่สมัยใหม่ พื้นที่ประวัติศาสตร์ พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และพื้นที่เมืองของกรุงเทพฯ เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว