'ดร.เจษฎา-จ่าพิชิต'ยันดื่มเบียร์แล้วหน้าแดง เสี่ยงเป็นมะเร็ง

กรณีคำถามในเนต ระบุว่ากินเบียร์แล้วหน้าแดง เสี่ยงเป็นมะเร็งจริง ซึ่งในเพจเฟซบุ๊ค "Drama-addict" ของจ่าพิชิต ขจัดพาลชน เคยโพสต์วไว้ระบุว่า คำถามมีคำถามเข้ามาเยอะมากว่าเห็นแชร์ๆกันในเฟซ บอกว่าคนที่แดกเหล้าแดกเบียร์แล้วตัวแดงเสี่ยงเป็นมะเร็ง มันจริงมั้ย

คำตอบคือ เจงว่ะ!!

ปรกติพอคนกินแอลกอฮอล์เข้าไป ตับจะทำหน้าที่กำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย โดยอาศัยเอนไซม์ที่เปลี่ยนแอลกอฮอล์เป็น Acetaldehyde (ไอ้ตัวนี้ถ้ามีในร่างกายเยอะๆจะทำให้เกิดอาการเมาค้าง) จากนั้นร่างกายก็จะเอาไอ้สารตัวนี้ไปทำปฎิกริยาแล้วขับออกจากร่างกายอีกทีนึง

ทีนี้มันมีปัญหาอยู่ตรงที่ในคนเอเชีย โดยเฉพาะเอเชียตะวันออก จะมีปัญหาที่ยีนส์ ALDH2 ที่ทำให้การกำจัดเจ้า Acetaldehyde มันทำงานได้น้อยลง ผลคือพวกนี้มันจะกินเหล้าแป๊บๆก็ตัวแดงก่ำเป็นลูกตำลึงละ

และการที่ Acetaldehyde สะสมในร่างกายบ่อยๆเพราะกระบวนการกำจัดมันไม่ดี จะทำให้คนกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งสูงกว่าชาวบ้านเยอะมาก มีตัวเลขระบุว่า จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหาร สูงกว่าคนทั่วไป 6-10 เท่า และถ้าคนกลุ่มนี้แดกเหล้าประจำแดกเหล้าสม่ำเสมอ

จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งหลอดอาหารสูงกว่าคนทั่วไป

ราวๆ 90 เท่า เห็นจะได้

ดังนั้นถ้าใครแดกเหล้าแป๊บๆแล้วหน้าแดงก่ำ จะไปตรวจสุขภาพประจำปี และหยุดดื่มแอลกอฮอล์กันซักหน่อยก็ดีนะครับ

อ้างอิง http://www.nih.gov/news-events/news-releases/alcohol-flush-signals-increased-cancer-risk-among-east-asians

ทั้งนี้ ล่าสุด ผศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ได้แชร์ข้อความจากเพจ "Drama-addict" ของจ่าพิชิต ระบุว่า ถามมาหลายคนว่าหมอจ่ามั่วหรือเปล่า คำตอบคือ เรื่องจริงครับ แล้วก็ไม่ใช่เฉพาะเบียร์นะ เหล้าสุราสาโท แอลกอฮอล์ต่างๆ ถ้าใครดื่มแล้วหน้าแดงจัด (ไม่ใช่แค่เรื่อๆ ธรรมดา) แสดงว่าร่างกายย่อยสาร acetaldehyde ซึ่งเป็นสารพิษแปรรูปจากแอลกอฮอล์ ได้ไม่ดี (หรือไม่ได้) และพบว่าทำให้เสี่ยงเป็นมะเร็งหลอดอาหารสูงขึ้นตามไปด้วย
เหล้าเบียร์ งดได้เลิกได้ก็ดีครับ ถ้าเลิกไม่ได้ ก็อย่าไปต้มคราฟต์เบียร์เองละกัน ฮะๆๆๆ