ตัดสินใจให้ดีต้อง เขียน

'หนูดี วนิษา' นำเสนอเคล็ดวิธีสำหรับผู้ที่ต้องตัดสินใจครั้งใหญ่หรือตัดสินใจเรื่องใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต
ปีหน้าจะมาถึงอีกครั้งแล้วในขณะที่ปีนี้ก้าวเข้ามาถึงช่วงปลายปีในที่สุด มีใครรู้สึกว่าปีนี้ผ่านไปเร็วมากบ้างคะ สารพัดการตัดสินใจและสิ่งที่เราต้องทำในปีหนึ่งๆ จนรู้สึกว่าโลกของผู้ใหญ่ช่างหมุนเร็วกว่าโลกสมัยที่เราเป็นเด็กจริงๆ และปีหน้าที่กำลังจะถึงนี้ มีใครต้องเตรียมตัวตัดสินใจครั้งใหญ่หรือตัดสินใจเรื่องใหม่ๆ บ้างไหม ถ้ามี มาดูกันดีกว่าว่า
เรามีตัวช่วยในการจัดระบบสมองของเราให้คิดและตัดสินใจอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงขึ้นได้อย่างไร
เทคนิคนี้หนูดีแนะนำให้ลองทำดูค่ะ สิ่งสำคัญคือเราต้องไม่ขี้เกียจในการจด และเขียนสิ่งที่เราจะต้องเตรียมตัดสินใจนะคะ อย่าแค่คิดอยู่ในหัวเพราะวันๆ หนึ่งเรามีเรื่องต้องคิดและตัดสินใจมากมาย แต่ถ้าเรื่องไหนใหญ่พอและมีค่าพอ เราควร “เขียน” ความคิดที่กระจัดกระจายเหล่านั้นลงในกระดาษ
มันช่างน่าแปลกจริงๆ ค่ะ พอลงมือเขียนเท่านั้น เราจะงงเลยว่า ข้อมูลมีแค่นี้เองหรือ ทำไมเราเอามาคิดวนไปวนมาหลายตลบเสียเหลือเกิน ดังนั้น เขียนเถอะค่ะ และเมื่อเขียนข้อมูลครบแล้วให้นั่งมอง หลายครั้งคำตอบในการตัดสินใจว่าจะเลือกเส้นทางไหน แทบจะกระโดดใส่สายตาเราเลยค่ะ...ขอให้เราไม่เข้าข้างตัวเองเกินไปและปักใจกับทางเลือกที่อาจจะไม่ดีและเหมาะกับเราที่สุดเท่านั้นเอง
เรื่องใหญ่ในชิวิตของคนส่วนใหญ่ในสังคมที่คุ้มค่าต่อการนำมาขบคิด เขียนลงกระดาษและตัดสินใจให้พลาดน้อยที่สุดนั้น มักเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ
๐ฉันจะเรียนต่อมหาวิทยาลัยดีไหม ถ้าดีแล้วจะเรียนที่ไหน และจะเรียนสาขาอะไร
๐ฉันจะเลือกทำอาชีพไหนดี จะรับเงินเดือนหรือทำธุรกิจของตัวเอง
๐ฉันจะอยู่อาศัยที่ไหนดี ควรซื้อคอนโดหรือเช่าต่อไป หรือจะปลูกบ้านเอง หลังควรจะใหญ่แค่ไหน
๐ฉันควรจะแต่งงานตอนนี้ หรือรอต่อไปอีกนิด แต่งแล้วจะมีลูกไหม ถ้ามี จะมีกี่คน
ฯลฯ
อย่าลืมว่า การ “ไม่ตัดสินใจ” เมื่อมีเหตุให้ต้องตัดสินใจนั้นคือ “การตัดสินใจ” อยู่ในตัวแล้วว่า ฉันจะไม่ตัดสินใจและปล่อยให้สถานการณ์สุกงอมและตัดสินใจให้เอง คิดหรือว่า สิ่งนั้นจะดีกว่าการที่เรากล้าเผชิญ? นั่งลงถามตอบตัวเองอย่างจริงจังว่า ...ชีวิตก้าวต่อไปนี้จะก้าวไปทางไหนและก้าวอย่างไรดี
ที่สำคัญ ต่อให้ตัดสินใจพลาดเราจะไม่หวนมาเสียดายเลยว่า ตอนนั้นทำไมไม่คิดให้ดี เพราะเราคิดดีที่สุดแล้ว แต่ผลย่อมอยู่ในอนาคตเสมอ เราควบคุมผลไม่ได้แต่สามารถฉลาดที่สุดในนาทีที่ต้องตัดสินใจได้ ถ้าพลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียนบทใหม่ หนหน้าต้องตัดสินใจอะไรจะได้ไม่พลาดแบบนี้อีก
แปดขั้นตอนการคิดและตัดสินใจนี้ มาจากการทำงานค้นคว้าร่วมกันของ John S. Hammond, Ralph L.Keeney และ Howard Raiffa โดยใช้ในโรงเรียน องค์กรและประชาชนทั่วไปในอเมริกา สนใจอ่านรายละเอียดแต่ละเคสตัวอย่างเพิ่มเติมได้ใน Smart Choices: A Practical Guide to Making Better Life Decisions. หากร้านหนังสือในเมืองไทยไม่มี สามารถขอให้เขาส่งมาพร้อมชิปเมนต์สัปดาห์ถัดไปได้เป็นกรณีพิเศษโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ร้านหนังสือหัวนอกในไทยมีบริการนี้โดยที่หลายๆ คนอาจไม่รู้
ขั้นตอนต่างๆ มีดังนี้ค่ะ
1.ถามตัวเองว่า เรื่องที่จะต้องตัดสินใจนี้มีความสำคัญพอไหม คือเป็นคำถามที่ถูกต้องไหม บางเรื่องไม่ใช่ปัญหาแต่เรากลับเอามาคิดโดยไม่จำเป็น ดังนั้น ขั้นแรกถามตัวเองก่อนเลยว่า ปัญหานี้คุ้มค่าเวลาของเราไหม
2.เขียนลงไปให้ชัดเจนว่า “ผลลัพธ์” ที่ต้องการที่สุดคืออะไร
3.สร้างตัวเลือกต่างๆ ขึ้นมาจนครบหมด - เพราะประเด็นทั้งหมดของการตัดสินใจก็คือ เราต้องมีตัวเลือกมากกว่าหนึ่ง หากเราคิดและเขียนโดยมีเพียงตัวเลือกเดียว นั่นแปลว่าเรากำลังหลงทางแล้วค่ะ ข้อตรงนี้ หนูดีว่ายากที่สุดเลยเพราะว่า เรามักจะลำเอียงกับตัวเลือกหนึ่งมากกว่าเพื่อน จนบางครั้งคิดตัวเลือกใหม่ๆ ไม่ออก แต่เชื่อหนูดีเถอะค่ะว่าต่อหนึ่งการตัดสินใจ คุณจะมีตัวเลือกไม่ต่ำกว่าห้า คั้นออกมาให้หมดเลยค่ะ
มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูดีคิดทางเลือกใหม่ไม่ออกแล้ว แต่บอกตัวเองว่า ทำให้ได้ ปรากฏว่าตัวเลือกที่สี่ที่คิดว่าไม่มีอยู่กลับเป็นตัวเลือกที่ดี่สุดค่ะ ดีใจมากมาย
4.เข้าใจผลกระทบจากการตัดสินนั้นๆ - ในการตัดสินใจครั้งหนึ่งของเราจะมีผลกระทบตามมาเสมอ ผลกระทบนั้นตรงตาม “ผลลัพธ์ที่ต้องการ”? ที่ตั้งไว้หรือไม่ กลับไปเช็คทุกครั้งก่อนตัดสินใจครั้งสุดท้าย
5.ดูสิ่งที่ต้องเสียไปเมื่อเลือกทางเลือกใดทางเลือกหนึ่ง เรารับได้ไหมกับสิ่งที่ต้องแลกมา
6.เขียน “สิ่งที่ยังมองไม่เห็น” หรือ “สิ่งที่ไม่แน่นอน” ?ในการตัดสินใจครั้งนี้ เช่น หากกำลังต้องตัดสินใจว่าจะเก็บเงินไว้สำหรับเป็นกองทุนเรียนมหาวิทยาลัยของลูก แต่ตอนนี้ลูกอายุห้าขวบ สิ่งที่ยังไม่ชัวร์คือ โตขึ้นแล้วลูกจะอยากเรียนอะไร จะเก่งพอจะสอบชิงทุนได้ไหม และที่สำคัญลูกจะอยากเรียนมหาวิทยาลัยหรือเปล่า
7.คิดหนักๆ เกี่ยวกับความสามารถในการรับความเสี่ยงของเรา หากรับได้ไม่หนัก อย่าเลือกตัวเลือกที่เสี่ยงจะสูญเสียมากที่สุด คิดถึง “การตัดสินใจเชื่อมโยง”? หรือการตัดสินใจอื่นๆ ที่จะตามมาหากเราเลือกตัวเลือกหนึ่งไป เพราะจะมีตามมาอีกเป็นพรวนเลยค่ะ เขียนลงไปให้หมดจะได้พร้อมในนาทีที่ต้องเผชิญและตัดสินใจเพิ่ม
8.การตัดสินใจแต่ละครั้งอาจมีผลเปลี่ยนแปลงชีวิตเราทั้งทางที่ดีขึ้น หรือทำให้เราต้องถอยหลังกลับไปนับหนึ่งใหม่
หวังว่าเทคนิคนี้จะช่วยให้คุณผู้อ่านตัดสินใจได้ดีสำหรับปีหน้าที่จะมาถึง ใครใช้เทคนิคนี้แล้วประทับใจมาแชร์ผลลัพธ์กันได้เลยนะคะ




