บุกตรวจ-สั่งปิดคลีนิคขายอัลฟาโซแลมป์‏

ตร.-อย.บุกตรวจค้น"คลีนิกพระราม2 การแพทย์" ขายยาอัลฟาโซแลมป์ ชี้ได้รับร้องเรียน เบื้องต้นสั่งปิด30วัน
เมื่อเวลา 14.30 น. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พร้อมด้วย พ.ต.ต.นฤทธิ์ ผูกจิตร สว.กก.1 บก.บช.ปส. , นายจิรวัฒน์ ศรีมงคลกล หัวหน้ากลุ่มกำกับดูแลหลังออกสู่ตลาด กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.1 บก.บช.ปส. ได้เข้าตรวจค้นคลีนิกพระราม2 การแพทย์ ตั้งอยู่เลขที่81/9 ปากซอยเทียนทะเล 6 ถนนเทียนทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ภายหลังได้รับร้องเรียนว่า คลีนิกดังกล่าวมีการจำหน่ายยาอัลฟาโซแลมป์ (ยานอนหลับ) ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ให้โทษประเภท 2 ที่มีการควบคุมให้แก่ประชาชน
จากการตรวจสอบคลีนิกดังกล่าว พบว่า เป็นอาคารพานิชย์สูง 4 ชั้น จำนวน 1 คูหา บริเวณชั้นที่ 1 เปิดเป็นคลีนิกเวชกรรมตรวจรักษาโรคทั่วไป จากการเข้าตรวจค้นพบ นพ.ประภาส กมลอำนวยกิจ แพทย์เจ้าของคลีนิกดังกล่าว และพนักงานอีก 2 คน พร้อมของกลาง ยาอัลฟาโซแลมป์ จำนวน 500 แผง เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
นพ.ธเรศ กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ สืบเนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนว่า คลีนิกดังกล่าวมีการจำหน่ายยาอัลฟาโซแลมป์ ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ให้โทษประเภท 2 จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. วางแผนล่อซื้อยาดังกล่าวในราคาแผงละ 200 บาท เมื่อพบว่ามีการจำหน่ายจริง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจค้น จนพบของกลางดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าคลีนิกดังกล่าวได้ปล่อยให้พนักงานภายในคลีนิกจำหน่ายยาชนิดดังกล่าวให้กับประชาชน โดยไม่ได้รับการตรวจรักษาจากแพทย์ จึงได้ตักเตือน นพ.ประภาส ว่า หากต้องมีการจ่ายยาให้กับคนไข้ ถึงแม้จะเป็นคนไข้รายเดิมก็ต้องมีการตรวจรักษาอาการใหม่ทุกครั้งก่อนจ่ายยา ซึ่งหลังจากนี้จะทำการสั่งปิดคลีนิกดังกล่าวชั่วคราวเป็นระยะเวลา 30 วัน เพื่อให้ทางคลีนิกปรับปรุงระบบจัดการใหม่ และส่งตัว นพ.ประภาส ไปให้ทางแพทยสภาเพื่อตรวจสอบจริยธรรมต่อไป
ด้าน นพ.ประภาส กล่าวว่า ตนเปิดคลินิกดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งก็ขายยาตัวนี้มาตลอด ไม่เคยมีปัญหาอะไร กระทั่งมีข้อกำหนดใหม่ขึ้นมา ปกติยาตัวนี้จะถูกเก็บไว้ในล็อกเกอร์ หากมีคนไข้มาซื้อต้องบอกตน ซึ่งเป็นแพทย์ก่อน จึงจะจ่ายยาให้ แต่ที่พนักงานมีการจ่ายยาให้คนไข้ เพราะบางทีเป็นคนไข้เดิมมาซื้อ พนักงานจึงขายให้ โดยปกติหากเป็นเด็กวัยรุ่นมาขอซื้อทางคลีนิกก็จะไม่จ่ายยาให้ ที่ผ่านมาเคยจ่ายยาให้คนไข้มากสุดคือ 10 แผงต่อคนไข้1ราย ส่วนใหญ่คนไข้ที่มาขอรับยาจะเป็นบุคคลที่มีอาการเครียด ทำให้มีอาการนอนไม่หลับ จึงจ่ายยาให้ อย่างไรก็ตามยาชนิดนี่จะออกฤทธิ์ 1-8 ชั่วโมงเท่านั้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผู้ดำเนินการหรือเจ้าของคลีนิกปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมจ่ายยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 2ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาทและจำหน่ายยาออกฤทธิ์ประเภท 2 มีโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 100,000 -400,000 บาทแก่ นพ.ประภาส พร้อมทั้งแจ้งข้อหา ผู้ที่จำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท2 ไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท แก่พนักงานของคลีนิกดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป







