ท่าอากาศฯเชียงใหม่โต้ภาพหลุดปืนปลอมขึ้นเครื่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่มีผู้โพสต์ภาพถือวัตถุลักษณะคล้ายปืนสีดำ บนที่นั่งในเครื่องบินลงบนอินตราแกรมและเว็บไซต์ชื่อดัง จนเป็นแพร่หลายในอินเตอร์เน็ต โดยผู้โพสที่ใช้ชื่อว่า "phimuknz" อ้างว่ากำลังโดยสารเครื่องบินไฟลท์เชียงใหม่-กรุงเทพฯสายการบินหนึ่ง โดยเมื่อเปิดกระเป๋าที่พกติดตัวขึ้นเครื่องก็พบปืนปลอมที่เผลอเอาใส่กระเป๋ามาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งแปลกใจตรงที่ผ่านระบบตรวจค้นของท่าอากาศยานเชียงใหม่ไปได้อย่างไร ทั้งที่มีเครื่องสแกนบุคคลและเครื่องสแกนสัมภาระ ทั้งนี้ วัตถุดังกล่าวเพราะแม้จะเป็นของปลอมแต่ก็มีลักษณะคล้ายอาวุธ อาจก่อให้เกิดปัญหาร้ายแรงขึ้นได้

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 10 กันยายน ที่ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ น.ท.หลักชัย เฉลยปราชญ์ ผอ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ แถลงข่าวกรณีรูปดังกล่าว รวมทั้งได้นำสื่อมวลชนดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย การตรวจค้นคนและสัมภาระที่เข้ามาภายในท่าอากาศยานและขึ้นเครื่อง พร้อมทั้งมีการสาธิตกระบวนการขั้นตอนการตรวจค้นด้วยอุปกรณ์ ซึ่งมีการทำอย่างละเอียดทุกขั้นตอน รวมทั้งมีการทดลองนำอาวุธปืนผ่านเข้าเครื่องตรวจค้นด้วย ซึ่งเครื่องสแกนและเอ็กซ์เรย์สามารถตรวจพบได้อย่างแม่นยำ

น.ท.หลักชัย กล่าวว่า ทางท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ตอนนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำลังเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ ถ้าเป็นจริงว่ามีวัตถุคล้ายอาวุธเล็ดลอดขึ้นไปบนเครื่องบินได้ก็จะต้องมีมาตรการหาวิธีป้องกันที่จะไม่ให้เกิดซ้ำรอย ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัย สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงทั้งการท่าอากาศยานและประเทศไทยอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าระบบรักษาความปลอดภัยและการตรวจสอบต่างๆ ของท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ เป็นไปตามมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับท่าอากาศยานพาณิชย์ต่างๆ ทั่วโลก

"วัตถุที่สามารถก่อให้เกิดอันตราย เช่นอาวุธมีด ปืน และกรรไกร มักมีส่วนประกอบเป็นโลหะ โดยเครื่องมือตรวจแสกนที่สนามบิน เป็นเครื่องที่มีมาตรฐานพอสมควรสามารถตรวจพบวัตถุที่มีส่วนประกอบเป็นโลหะทุกชนิด และจะมีสัญญาณเตือนดังขึ้น แต่ถ้าเป็นพลาสติกล้วนหรือวัตถุชนิดอื่น ก็จะไม่มีสัญญาณเตือน แต่ก็จะมีภาพเอ็กซเรย์วัตถุในสัมภาระที่ผ่านเครื่อง ฉายขึ้นบนจอภาพที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมอยู่"น.ท.หลักชัย กล่าว

น.ท.หลักชัย กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที้่ของการท่าอากาศยานฯจะต้องผ่านการอบรมและการฝึกฝนจนชำนาญในการสังเกตุวัตถุต้องห้ามขึ้นเครื่อง วัตถุที่เป็นอันตราย รวมทั้งสิ่งผิดกฎหมายที่ซุกซ่อนมาในสัมภาระ ซึ่งหากพบวัตถุต้องสงสัยเจ้าหน้าที่สามารถเรียกขอตรวจค้นได้ทันที ทั้งนี้ ทางท่าอากาศยานยังมีนโยบายว่า แม้ว่าสัมภาระจะไม่มีสิ่งผิดปกติแต่ก็จะมีการสุ่มตรวจ 1 ใน 10 ของสัมภาระที่ผ่านเครื่องแสกนอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีวัตถุคล้ายอาวุธสามารถผ่านเครื่องแสกนและเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้นั้น จะต้องมีการดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป โดยจะมีการตรวจย้อนหลังจากภาพที่มีการบันทึกขณะผู้ต้องสงสัยผ่านเครื่องตรวจแสกนว่านำพกพาขึ้นมาในรูปแบบใด ทั้งนี้ สำหรับผู้โดยสารที่อ้างว่านำอาวุธปืนปลอมขึ้นไปบนเครื่องบินได้นั้น การกระทำดังกล่าวถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 จากการการที่ผู้โดยสารนำสิ่งเทียมอาวุธปืนขึ้นไปบนเครื่องบินด้วย ซึ่งมีโทษทั้งปรับและจำคุก โดยหากตรวจสอบพบว่าเป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริงและติดตามจนพบตัวผู้โดยสารคนนั้นก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป