พบศพน้องแก้มแล้ว!ลูกจ้างร.ฟ.ท.สารภาพฆ่าข่มขืนบนรถไฟ

พบศพน้องแก้มแล้ว! ลูกจ้างร.ฟ.ท.สารภาพฆ่าด.ญ.13บนรถไฟ โยนศพลงข้างทางสุราษฎร์เข้ากทม. แม่รู้ข่าวเป็นลมหมดสติ
จากคดีปริศนาเด็กหญิงวัย 13 ปี หายตัวไปอย่างลึกลับระหว่างโดยสารรถไฟจากภาคใต้เข้ากรุงเทพฯ กับพี่สาว เมื่อกลางดึกวันที่ 5 กรกฎาคม กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (6 ก.ค.) พี่สาวเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจ สน.นพวงศ์ ให้ช่วยติดตามคลี่คลายคดี โดยน.ส.กนลา หรือ กัญ พิทักษ์จำนง อายุ 22 ปี พี่สาว ด.ญ.เอ(นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนย่านนทบุรี ที่หายตัวไป โดยกล่าวว่า ตนพร้อมกับน้อ ด.ญ.เชียร์ อายุ 10 ปี น้องสาวคนเล็ก และนายณัฐดนัย หรือเบนซ์ ดวงคำน้อย เพื่อนชาย ออกจากบ้านพัก จ.นนทบุรี เพื่อไปเยี่ยมญาติที่ อ.คีรีรัฐ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเดินทางด้วยรถไฟตู้นอนธรรมดา ตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม และเดินทางกลับเมื่อเย็นวันที่ 5 กรกฎาคม ด้วยรถไฟตู้นอนชั้น 2 ขบวนที่ 174 นครศรีธรรมราช-กรุงเทพมหานคร ตู้ที่ 3 จากสถานีพุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยตนนอนเตียงด้านล่าง นายณัฐดนัยนอนเตียงบน ส่วน ด.ญ.แก้ม นอนเตียงล่าง และน้องสาวคนเล็กนอนชั้นบน
น.ส.กนลา กล่าวว่า หลังจากเดินทางมาถึงสถานีรถไฟหัวหินช่วงเวลาประมาณตีสอง ตนนอนหลับไป และมารู้สึกตัวอีกทีตอนเวลาประมาณตีสี่ครึ่ง ช่วงถึงสถานีนครปฐม จากนั้นอีกสักพักจึงลุกไปปลุกน้องที่เตียง และพบว่าน้องเอหายไปพร้อมกับกระเป๋าเป้และผ้าปูที่นอนที่มีร่องรอยการถูกรื้อค้น จึงรีบแจ้งพนักงานประจำตู้ให้ช่วยกันเดินตามหาตามโบกี้ต่างๆ แต่ก็ไม่พบตัว เมื่อมาถึงสถานีหัวลำโพง จึงรีบเข้าแจ้งความที่ สน.นพวงศ์ เวลาประมาณ 06.30 น. วันที่ 6 กรกฎาคม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สืบสวนหาตัวคนร้าย
ช่วงเย็นของวันที่ 7 ก.ค. ขณะที่ญาติของน้องเอเดินทางมาที่ สน.นพวงศ์ เพื่อรอรับฟังข่าวความคืบหน้าด้วยความหวังว่าจะได้รับข่าวดีเจอตัวน้องเอโดยเร็วที่สุด ปรากฏว่าน้าสาวของน้องเอที่หัวหินได้ส่งรูปเสื้อสีฟ้าปนคราบเลือด และของใช้ส่วนตัวที่น้องเอใส่ในวันเกิดเหตุเป็นครั้งสุดท้าย ผ่านโปรแกรมไลน์เข้ามาในโทรศัพท์มือถือของ น.ส.กนลา และเมื่อ น.ส.กนลา และมารดา เห็นรูปดังกล่าวก็ทราบทันทีว่าเป็นเสื้อของน้องเอและร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น จนเจ้าหน้าที่ต้องรีบเข้ามาปลอบโยน พร้อมกับบอกให้ให้ทำใจเย็นๆ เนื่องจากยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าน้องเอเสียชีวิตแล้วหรือไม่
ขณะที่ น.ส.กนลา พี่สาวของน้องเอ ขึ้นไปให้ข้อมูลต่อพนักงานสอบสวน จากนั้นเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า ภาพเสื้อเปื้อนเลือดที่น้าสาวส่งมาให้นั้น เป็นเสื้อของน้องเอจริง ลักษณะเป็นเสื้อคอกลม สีฟ้า และมีเครื่องใช้ส่วนตัวบางชิ้นที่จำได้ว่าเป็นของน้องเอ ซึ่งภาพดังกล่าวขณะนี้อยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปักใจเชื่อว่าน้องเอจะเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ต้องรอข้อมูลที่ชัดเจนก่อน
จนกระทั้งเวลา 21.20 น. บรรยากาศที่ สน.นพวงศ์ ก็เกิดความตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง เมื่อมารดาของน้องเอรับโทรศัพท์จากญาติที่หัวหิน ซึ่งคาดว่าเป็นข่าวไม่สู้ดีนัก เพราะทันทีที่มารดาของน้องเอรับสายก็ร้องไห้โฮ แล้วถามกลับไปด้วยอาการตื่นตกใจว่า "ใช่แล้วเหรอ เจอที่ไหน" ก่อนจะเป็นลมล้มพับไป ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาญาติพี่น้องที่มาเฝ้าติดตามข่าว ขณะที่ น.ส.กนลา เจ้าหน้าที่เชิญตัวขึ้นไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกรอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตามหาน้องเอในพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ชะอำ เป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน กระทั่งล่าสุดเจ้าหน้าที่พบผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือดถูกโยนทิ้งไว้ในพื้นที่ ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และพบเสื้อสีฟ้าของน้องเอ ลักษณะมีคราบเลือด ถูกโยนทิ้งบริเวณริมทางจุดใกล้เคียงกับที่พบผ้าปูที่นอนดังกล่าวด้วย
ขณะที่การคลี่คลายคดีของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังควบคุมตัวพนักงานประจำรถไฟต้องสงสัย 4 คน ไปสอบสวน ล่าสุดนายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ต้องสงสัย รับสารภาพว่าเป็นผู้ฆ่าน้องเอ โดยขณะที่น้องเอนอนหลับอยู่ภายในโบกี้รถไฟ ได้เข้าไปบีบคอ ปิดปาก และต่อยที่ท้อง ก่อนลงมือข่มขืน จนสำเร็จความใคร่ 2 ครั้ง จากนั้นได้โยนศพทิ้งทางหน้าต่างก่อนถึงสถานีรถไฟวังพงก์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
เมื่อเวลา 03.45 น.วันที่ 8 กรกฏาคม นายสหชาติ ลิ้มเจริญภักดี นายกสมาคมกู้ภัยหัวหิน-เพชรบุรี ได้เปิดเผยว่า ภายหลังได้รับการประสาน ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 40 นายออกเร่งค้นหาน้องแก้ม ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ เที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยใช้วิธีการเดินเท้าจากริมทางสถานีรถไฟหัวหิน ไปทาง อ.ปราณบุรี จนกระทั่งไปพบศพหญิงสาว ลักษณะนอนคุดคู้ เปลือยไม่สวมเสื้อผ้า อยู่ที่พงหญ้า ห่างจากสถานีรถไฟเขาเต่าประมาณ 4 กม. ช่วงขาลงใต้ เขตต.วังพงก์ อ.ปราณบุรี อย่างไรก็ตามสำหรับจุดที่พบศพนั้นเป็นจุดที่ห่างจากที่พบผ้าปูที่นอนเปื้อนเลือด ประมาณ 3 สถานี ซึ่งทางญาติที่ได้ร่วมค้นหาได้ยืนยันว่า ใช่ศพน้องแก้ม
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เพื่อมาชันสูตรพลิกศพ







