หัวเลี้ยว หัวต่อ...ชีวิตต้องไปต่อ

กระแสฮอตฮิตของละครซีรีส์เรื่องดังช่องเคเบิล กับข่าวคราววัยรุ่นทดลองยาเสพติด เป็นประเด็นใหญ่ให้ครอบครัวต้อง "ขบคิด" ทบทวนวิธีเลี้ยงลูกกันใหม่

ความเข้าใจกันไปคนละมุมมองของพ่อแม่กับลูก ไม่ใช่ปมปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เท่านั้น แต่มันหยั่งรากลึกจนแก้ได้ยากมานานแล้วในทุกๆ สังคม ความห่างของช่วงวัยและโลกทัศน์ที่ต่างกันของคนสองวัย ทำให้ต่างคนต่างยึดความคิดตนเป็นใหญ่

หลากแนวทางประสานใจ บ้างว่าต้องใช้ทางสายกลาง ลูกต้องลดความหยิ่งผยองของตนลง ส่วนพ่อแม่และผู้ใหญ่ในสังคมต้องลดวัยกลับไปเป็นเด็ก (วัยรุ่น) อีกครั้ง
เรื่องวัย 18 จาก 100 คนดังต่างแนวที่รวบรวมโดย Fat Radio เปิดเผยมุมมองของผู้ใหญ่ซึ่งพร้อมย้อนอดีตกลับไปนึกถึงวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ หวังจะสะท้อนมุมมองให้พ่อแม่และเด็กๆ ฉุกคิดเฉลียวใจว่าเราจะหาทางร่วมและรอดจากวิกฤติความคิดต่างกันได้อย่างไร

เรื่องราวของ "บอย"

"อายุ 18 เป็นก้าวย่างที่สำคัญมาก แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต เรามีสิทธิ์ที่จะผิดพลาดได้ ยกโทษให้ตัวเอง และมีความกล้าหาญที่จะก้าวต่อไป" บอย ตรัย ภูมิรัตน์ นักร้องนำวง Friday และนักแต่งเพลงกล่าวขึ้นเมื่อให้เขาพูดถึงข้อแนะนำสำหรับน้องๆ วัยรุ่น รวมถึงยกตัวอย่างตนเองในวัยนั้นว่า เขาเลือกทำกิจกรรมมากๆ เพราะคิดว่าจะช่วยให้เห็นมุมมองอะไรมากขึ้น ไม่แพ้การเรียน แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่เหมาะกับตัวเอง เหมาะสมกับนิสัยของตน ก็น่าจะเปิดทางในอนาคตได้

ในขณะที่อีกหนึ่งบอย อย่าง ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พระเอกคนดังแห่งช่อง 3 ขอร่วมด้วยช่วยคิดว่าในวัย 18 ของเขานั้น ต้องพยายามต่อสู้กับความดื้อดึงของตัวเอง และพูดถึงน้องๆว่า วัย 18 น่าจะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในชีวิต การได้ไปเจอสังคมใหม่ เป็นช่วงที่กระบวนการความคิดเริ่มมีการปรับเปลี่ยน มีหลายๆ อย่างที่เป็นสิ่งเร้า มีทั้งสิ่งดีและไม่ดี เจอทั้งสังคมดีและไม่ดี แต่เราต้อง "รักดี"

"ความจริงแล้วการลองในสิ่งที่ไม่ดี ไม่ได้หมายความว่าจะแย่นะ ผมว่าก็เป็นภูมิต้านทานให้กับตัวเอง อย่างเช่นผมเคยได้ยินว่า การเล่นพนันไม่ได้เป็นสิ่งดีอะไร แต่ถ้าเล่นให้เป็นไว้ก็ดี รู้กฎกติกาไว้ จะได้ไม่โดนเขาหลอก แต่อย่าไปเล่นเพื่อพนัน ขอให้รักดีไว้ก่อน ทุกอย่างจะดีเอง"

และสำหรับผู้อาวุโสที่สุดในบรรดาคนชื่อเหมือนกัน บอย โกสิยพงษ์ ในวัย 18 เขาประสบความสำเร็จเล็กๆ กับการทำอัลบั้มแรกในชื่อวง AIR CRUSH BICCOS จึงขอเสนอความเชื่อปลุกเร้ากำลังใจที่ว่า ปลูกอะไร ก็เก็บเกี่ยวสิ่งนั้น ถ้าเราปลูกในวันนี้ ก็อาจจะได้เก็บเกี่ยวในวันหน้า ถ้าปลูกมะม่วงก็จะได้เก็บเกี่ยวมะม่วง แล้วถ้าปลูกรักก็จะตั้งใจปลูก เราก็น่าจะได้เก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านั้นเหมือนกัน ขอให้น้องๆ เลือกในสิ่งที่อยากจะเก็บเกี่ยวในชีวิตและตั้งใจปลูกมันตั้งแต่วันนี้เลย

ฐานะ "พ่อ" บอกลูก

เมื่อกลายเป็นพ่อคน หลายคนมักลืมช่วงเวลาที่ตนเองเป็นวัยรุ่น แต่สำหรับเช็ค-สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ พิธีกรและผู้บริหารบริษัททีวีบูรพา เจ้าของรายการ คนค้นคนแสดงความเข้าอกเข้าใจเด็กในวัยนี้ว่าสภาพสังคมต่างจากยุคของเขามาก นั่นอาจเป็น "สิ่งเร้ายั่วเย้าใจ" ให้เด็กวัยรุ่นพลั้งพลาดได้ เพราะเมื่อย้อนคิดไปตอนเด็กว่าอายุเท่านั้น เขายังไม่ประสีประสา แต่กลับรู้ความต้องการว่าตัวเองชอบอะไรแล้ว

เขาว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเหรียญมีสองด้านเสมอ ความรู้น้อยในบางอย่างก็ปิดกั้นกิเลสตัณหา ทำให้ไม่ถูกชักพาไปในอำนาจฝ่ายต่ำ ความหลั่งไหลของข้อมูลข่าวสารที่สมัยนี้มี ถ้าหากไม่รู้จักเลือกรับ ก็จะไปปรุงแต่งสิ่งที่อาจไม่ถูกต้อง

"ผมอยากให้วัยรุ่นยุคนี้ซึ่งมีอิสระมาก ทางที่ดีควรจะกรองข่าวสารข้อมูลเพื่อไม่ให้ตกอยู่ในกิเลสตัณหา ต้องรู้จักเลือกใช้ควบคุม อยากให้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ อยากให้ใช้โอกาสสั่งสมต้นทุนชีวิต สิ่งที่เป็นแรงปรารถนาหรือตัณหาก็ดีที่อยากจะทำไอ้นั่น เรียนรู้ไอ้นี่ อย่างนั้นอย่างนี้ที่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี เกิดมาก็ได้อยู่ในโลกไอทีแล้ว ต้องใช้ช่องทางในการรับรู้ให้เกิดประโยชน์ แต่ระมัดระวังอย่าให้ถูกชักนำไปในทางกิเลสตัณหา จนเบียดเบียนผู้อื่น เบียดเบียนสังคม เบียดเบียนตัวเอง"

เช่นเดียวกับ กรุง ศรีวิไล กล่าวว่า นี่เป็นช่วงกำลังสับสน ถ้าไปถามหมอ หมอก็จะบอกว่า ตอนนี้เป็นเวลาที่ควบคุมตัวเองยาก ฮอร์โมนมันฉีด มันเปลี่ยน อยากรู้อยากเห็นอยากลองไปหมด จึงอยากให้ทุกคนในสังคมตั้งสติ ส่วนเด็กๆ ก็อยู่เฉยๆ แต่ไม่ใช่ทำตัวแบบสบายอย่างเดียว ต้องตั้งสงบ ก่อนที่เราจะคิดทำอะไร แล้วก็อย่าลืมตัว คิดว่า "กูเก่งแล้ว" มันไม่เก่งหรอก ตามข้างนอกไม่ทัน หากสิ่งเร้าทั้งอินเทอร์เน็ตหรือเทคโนโลยีทำให้เสียคนจริง จงยอมเป็นคนโง่ดีกว่า

พูดถึง "สาวๆ"

กล่าวถึงชายหนุ่มกันมากแล้ว คงต้องถามความคิดของ "ผู้หญิง" กันบ้าง จีจ้า-ญาณิน วิสมิตะนันทน์ ราชินีนักบู๊ยุคนี้ เผยว่า ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นถ้าเราอยากลงมือทำอะไรสักอย่าง ขอให้มีความพยายามและเลือกทำในสิ่งที่ดีๆ ไม่เดือดร้อน ไม่เบียดเบียนใคร อดทนต่อเรื่องลำบากที่ผ่านเข้ามาในชีวิตให้มากๆ เข้าไว้แล้วอะไรๆ ก็จะดีเอง

ส่วนโอ๋-หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ หรือโอ๋ ฟูตอง สาวติสต์เล่นดนตรี และนักเขียน ฝากข้อคิดสำหรับน้องๆ ไว้เป็นทางออกเวลาเจอทางตันว่า เวลาหาตัวเองไม่เจอ ต้องเลิกหา ให้กลับสังเกตตัวเองว่าทำอะไรคล่องมือคล่องปาก อย่างแรกต้องยอมรับตัวเองให้ได้ แม้ว่าตัวเองจะชอบในสิ่งที่เชยก็ต้องยอมรับ เพราะเราจะมีชีวิตไปกับมันจนวันตาย
"เมื่อเรายอมรับตัวเอง เราก็จะเจอตัวเองโดยปริยาย จงใช้ชีวิตให้รู้สึกว่าโตมาแล้วไม่เสียดาย และต้องใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เสียใจ ใช้ชีวิตอย่างมีสติ"