ออกแล้ว ผลตรวจ "ฝีดาษลิง" ชายไทยวัย 40 ปี พร้อมผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 19 ราย

สสจ.ภูเก็ต เผยผลตรวจชายไทยวัย 40 ปี ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโรค "ฝีดาษลิง" หรือ ฝีดาษวานร ขณะที่ผลตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากชายไนจีเรียจำนวน 19 ราย

สสจ.ภูเก็ต เผยผลตรวจชายไทยวัย 40 ปี ผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโรค "ฝีดาษลิง" หรือ ฝีดาษวานร ขณะที่ผลตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจากชายไนจีเรียจำนวน 19 ราย ก็ออกมาแล้วเช่นกัน

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ฝีดาษลิง วุ่น! หามหนุ่มต้องสงสัยป่วยส่งรพ.วชิระภูเก็ต ต้องรอยืนยันผลตรวจ

- "ฝีดาษลิง" ทำลายระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย? ยกเคสหนุ่มอเมริกาอาการหนัก

- อัตราป่วยเสียชีวิต “ฝีดาษลิง” ต่ำกว่าไข้ทรพิษ 8,000 เท่า

จากกรณีที่มีข่าวลือว่ามี ชาวไทยอายุ 40 ปีต้องสงสัยว่าจะป่วยติดเชื้อ "ฝีดาษลิง" หรือฝีดาษวานร หลังเข้ารับการรักษาด้วยอาการไข้และมีผื่น ลักษณะเป็นตุ่มใสคล้ายอีสุกอีใสขึ้นตามร่างกายบริเวณแขนขาและลำตัว แต่ไม่พบอาการต่อมน้ำเหลืองโตที่โรงพยาบาลถลาง ก่อนจะมีการส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เพื่อรอผลการเก็บตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งไปตรวจหาเชื้อในห้องปฏิบัติการที่คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร ตามกระบวนการคัดกรอง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นชายคนดังกล่าว ไม่มีการสัมผัสหรือเกี่ยวพันกับชายชาวไนจีเรียที่มีอาการป่วยด้วยโรค "ฝีดาษลิง" เป็นรายแรกของประเทศไทยแต่อย่างใด

ล่าสุดวันนี้ (28 ก.ค.2565) นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.ภูเก็ต) เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตามที่ จ.ภูเก็ต ได้เก็บตัวอย่างเลือดและสารคัดหลั่งของผู้ป่วยชายไทยวัย 40 ปี ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา เพื่อพิสูจน์ว่าผู้ป่วยดังกล่าวติดเชื้อโรคฝีดาษวานรหรือไม่นั้น

 

และในวันนี้ สสจ.ภูเก็ต ได้รับใบรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ Monkeypox virus real-time PCR ของผู้ป่วยคนดังกล่าวแล้ว ปรากฏ ผลการตรวจเป็นลบ (ไม่พบเชื้อ) ดังนั้น ขอประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนก อย่าหลงเชื่อข่าวลวง ข่าวลือ และข่าวปลอม โดยขอให้ติดตามข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ

ขณะที่ นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผลการตรวจหาเชื้อจากห้องปฏิบัติการคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ชายคนดังกล่าวป่วยเป็นอีสุกอีใส และไม่พบการติดเชื้อฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานรแต่อย่างใด

แพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้แล้ว ส่วนกรณีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 19 ราย ที่เคยมีประวัติเชื่อมโยงกับผู้ป่วยฝีดาษวานรชาวไนจีเรียวัย 27 ปีที่ป่วยฝีดาษวานรเป็นรายแรกของไทยที่ จ.ภูเก็ต

ก่อนหน้านี้ ทั้งหมดจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครติดเชื้อเพิ่มเติม จึงขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกและให้ความเชื่อมั่นว่าทีมสาธารณสุขและจังหวัดภูเก็ตได้มีการเฝ้าระวัง ติดตามผู้เข้าข่ายต้องสงสัยอย่างดีที่สุด