เด็ก 6 ขวบ ติดโควิด-19 เสียชีวิตจากภาวะ MIS-C ประวัติไม่ได้รับวัคซีน

เด็ก 6 ขวบ  ติดโควิด-19 เสียชีวิตจากภาวะ MIS-C  ประวัติไม่ได้รับวัคซีน

อธิบดีกรมควบคุมโรค แจงกรณีเด็ก 6 ขวบ ไม่ได้รับวัคซีนโควิด ติดเชื้อ และเสียชีวิตจากภาวะ MIS-C แนะพ่อ แม่ พาลูกอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปฉีดวัคซีนโดยเร็วเพื่อป้องกันความเสี่ยง

วันนี้ (21 กรกฎาคม 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงกรณี มีข่าวเด็กนักเรียนชั้นปฐมศึกษาปีที่ 2 อายุ 6 ปี ติดเชื้อโควิด-19 และป่วยหนัก และเสียชีวิตจากภาวะMIS-C หรือการอักเสบหลายอวัยวะ เบื้องต้นพบว่าไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 

นายแพทย์โอภาส กล่าวว่า จากการตรวจสอบกับหน่วยงานในพื้นที่ ข้อมูลเบื้องต้นเป็นเด็กชาย อายุ 6 ปี 8 เดือนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 บ้านพักอยู่จังหวัดปทุมธานี ถูกวินิจฉัยโรคโควิด-19 มีอาการไข้ น้ำมูก ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย รักษาที่สถานพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนส่งตัวมารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลปทุมธานี เนื่องจากมีอาการซึม มือเท้าเย็น และช็อก
        เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม แพทย์ได้ให้การรักษาอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากผู้ป่วยรายนี้เกิดภาวะอักเสบในหลายอวัยวะ หรือที่เรียกว่าภาวะ MIS-C ทั้งที่หัวใจ และปอดส่งผลทำให้อาการรุนแรงเสียชีวิต สอดคล้องกับประวัติเด็กที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเกิดภาวะ MIS-C กรมควบคุมโรคขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอย่างยิ่ง 

สถานการณ์ของโควิด-19 ในประเทศไทย ในระยะนี้เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ย่อย BA.5 แพร่เชื้อได้เร็วกว่าสายพันธุ์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่มีการคลุกคลีใกล้ชิดกันตลอด เมื่อเด็กติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการป่วยไม่รุนแรง เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายได้เอง

แต่ยังมีส่วนน้อยมากที่สามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น เกิดภาวะการอักเสบในหลายอวัยวะ หรือที่เรียกว่าภาวะ MIS-C ผู้ป่วยในกลุ่มนี้มีโอกาสเสียชีวิตได้สูง

ซึ่งเป็นการอักเสบที่อวัยวะสำคัญ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือ ช็อก  ดังนั้น หากบุตรหลานมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจเร็ว เหนื่อย ซึม ตัวเย็น เรียกไม่รู้สึกตัว ภายหลังมีการติดเชื้อโควิด- 19 แนะนำให้ผู้ปกครองรีบพาเด็กไปพบแพทย์โดยเร็ว เพื่อรับการวินิจฉัย และการรักษาที่เหมาะสม 

“ภาวะอักเสบในหลายอวัยวะ หรือ MIS-C ในเด็ก สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน เราต้องระวังแต่อย่าตื่นตระหนก เพราะไม่ได้เกิดบ่อยในเด็กที่เป็นโควิด หากเด็กได้รับการฉีดวัคซีนครบจะทำให้มีโอกาสติดเชื้อ และป่วยน้อยลง กรณีที่ป่วยอาการจะไม่รุนแรง จึงเชิญชวนให้นำบุตรหลานไปฉีดวัคซีน ที่มีทั้งไฟเซอร์ และซิโนแวค ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดหาวัคซีนให้กับทุกกลุ่มวัย และทุกคน สามารถรับการฉีดได้ที่สถานบริการทั้งภาครัฐ และเอกชนที่ร่วมให้บริการได้ตลอดทุกวัน ซึ่งเมื่อเด็กทุกคนได้รับวัคซีนแล้ว จะช่วยให้เกิดความปลอดภัยเพิ่มขึ้นทั้งกับตนเอง และผู้อื่นที่เป็นสมาชิกในครอบครัว และครู นักเรียนในโรงเรียน” นายแพทย์โอภาส กล่าว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์