ความท้าทายและข้อแนะนำที่เกี่ยวข้องสำหรับการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง

ความท้าทายและข้อแนะนำที่เกี่ยวข้องสำหรับการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง

 

เมื่อเดือนเมษายน 2562 การประชุมครั้งที่สองว่าด้วยความร่วมมือระหว่างประเทศในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road) ได้จัดขึ้นที่นครปักกิ่งและได้มีการจัดทำความร่วมมือการก่อสร้างหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่มีคุณภาพสูง ในการกล่าวสุนทรพจน์เปิดการประชุม ท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิงได้ชี้ให้เห็นว่าเราควรทำงานร่วมกันเพื่อการพัฒนาขั้นสูงของความร่วมมือในการก่อสร้างโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ปฏิบัติหลักการการปรึกษาหารืออย่างกว้างขวาง การมีส่วนร่วมและแบ่งปันผลประโยชน์ ติดตามความร่วมมือเขียว สะอาดและเปิดเผยและทำตามวิธีการที่ยึดเอาประชาชนเป็นสำคัญแบบยั่งยืนที่มีประสิทธิภาพสูง ความเข้าใจเกี่ยวกับการการพัฒนาความร่วมมือภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางได้รับการอธิบายอย่างชัดเจนระหว่างการประชุมที่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำเสนอหรือเปิดตัวขอบเขตวงเงินหนี้สำหรับประเทศที่เข้าร่วมความริเริ่มโตรงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ความริเริ่มปักกิ่งว่าด้วยทางสายไหมที่สะอาดและความริเริ่มว่าด้วยความร่วมมือตามหลักการนวัตกรรมทางสายไหมและการลงทุนสีเขียว

 

เบื้องหลังของการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน ที่มีคุณภาพสูง

เป็นเวลานานพอสมควรที่บางประเทศแถบยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้มีข้อสงสัยคำถามและกล่าวหาเกี่ยวกับโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ประการแรก มีคำถามเกี่ยวกับ “ข้อปฏิบัติที่ดีที่สุด” หรือกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ บางประเทศในยุโรปและอเมริกามีความเชื่อว่าโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางไม่ปฏิบัติตาม “กฎเกณฑ์ที่นานาประเทศยอมรับ” รวมทั้ง”ความโปร่งใสความมั่นคงของสังคมทางสิ่งแวดล้อม”และ”ความสามารถในการรองรับหนี้ของแต่ละประเทศ;” ไม่ปฏิบัติตามหลัก”การค้าเสรีหรือการแข่งขันอย่างยุติธรรม;” ทำลายระบบนิเวศสิ่งแวดล้อม; ไม่เคารพสิทธิและผลประโยชน์ตามกฎหมายของแรงงานของประเทศเจ้าบ้าน;และเพิ่มภาระหนี้ให้ประเทศเจ้าบ้าน ประการที่สอง ประเทศเหล่านั้นเชื่อว่าโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเป็นโครงการของบริษัทจีนและข้อมูลและการปฏิบัติงานในวาระเริ่มแรกคลุมเครือ เอื้อประ โยชน์ต่อบริษัทจีนและพนักงานจีนและแทบไม่เปิดรับประชาคมท้องถิ่นและนานาชาติ ประการที่สาม พวกเขามีความวิตกว่า รูปแบบจีน (China Model) จะเปิดทางเลือกอีกทางให้ประเทศที่กำลังพัฒนา และพวกเขาเชื่อว่า ความสำเร็จของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งถนน (ซึ่งเป็นรูปแบบของความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและบริษัทจีน) จะทำให้เกิด การเรียนแบบไปทั่วโลก ซึ่งจะเป็นผลร้ายต่อความพยายามของประเทศตะวันตกที่จะ ส่งเสริมประชาธิปไตยและธรรมมาภิบาลในประเทศกำลังพัฒนา และสั่นคลอน “ฉันทามติวอชิงตัน” (Washington Consensus) และ”ประชาธิปไตยแบบตะวันตก” ประการที่ 4 พวกเขามีความกังวล เกี่ยวกับผลการผลกระทบ ทางการเมืองและเศรษฐกิจ และกลัวว่า ห่วงโซ่อุปทานจะมีการเปลี่ยนแปลง เงินสกุลเหรินหมินปี้และมาตราฐานทางด้านเทคนิคของจีนจะได้รับการยอมรับอย่างกว้าวขวาง ทำให้จีนกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกและประเทศที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางสายไหมก็จะพึ่งพาหรือยึดเกาะกับประเทศจีน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาได้พัฒนาและเสนอโครงการหลายอย่างขึ้นมา ประการแรก พวกเขาได้ดำเนินการหลายโครงการเช่น “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก,” และ “โครงสร้างพื้นฐานคุณภาพสูง” และ “ยุทธศาสตร์การเชื่อมต่อระหว่างกันยูเรเซียน” (Eurasian Interconnection Strategy) เป็นต้นและสหรัฐอเมริกายังได้ใช้กฎหมาย “Long-arm jurisdiction” ที่ให้อำนาจศาลท้องถิ่นสามารถดำเนินคดีกับผู้ทำผิดในต่างประเทศตามรัฐบัญญัติ Foreign Corrupt Practices Act และกฎหมายอื่น ๆ ได้ ประการที่สอง ประเทศเหล่านี้ยังได้ใช้นโยบายเศรษฐกิจต่างประเทศเป็นเครื่องมือ เช่น บริษัทการลงทุนและการเงินระหว่างประเทศที่จะเล่นบทบาทของสถาบันการเงินระหว่างประเทศในหลายรูปแบบเพื่อช่วยให้ธนาคารภายในของพวกเขาให้สามารถแข่งขันในต่างประเทศได้ ประการที่สาม ได้มีการใช้วาทกรรมต่าง สร้างมติมหาชนต่อต้านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางและความเชื่อว่าโครงการนี้เป็นการใช้กำลังที่เข้มแข็งกว่าและเป็นกับดักหนี้ นอกจากนั้นพวกเขายังได้รวมตัวกับประเทศที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางสายไหมตั้งคำถามและต่อต้านโครงการข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางโดยการทำการวิจัย และจัดการสนทนาในเรื่องนี้ ประการที่สี่ พวกเขาพยามให้จีนเปลี่ยนบทบาทของ “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่รับผิดชอบ” หรือบทบาทในการ”ร่วมแบกภาระ” ไปเป็นการ “ถ่ายโอนภาระ” เพื่อที่จะลดการนำใช้ทรัพยากรในพื้นที่ที่ผลประโยชน์ของจีนและประเทศตะวันตกทับซ้อนกันหรือในพื้นที่ที่ผลประโยชน์ของจีนมีมากพอ

นอกจากนั้น ประเทศที่กำลังพัฒนาส่วนใหญ่มีความล้าหลังทางด้านโครงสร้างพื้นฐานมาเป็นเวลานานแต่พวกเขาก็พยายามเรียนและทำตามแนวคิดการพัฒนา มาตรฐานอุตสาหกรรมและระบบกฎหมายของประเทศที่พัฒนาแล้ว อนึ่ง “กำลังที่สาม” เช่น องค์การเอกชนและสื่อสารมวลชนก็ยังทรงอิทธิพลอยู่ ในขณะเดียวกัน ข้อกำหนดกฎเกณฑ์ของระบบการลงทุนนานาชาติก็มีความเคร่งคัดมากขึ้นตามลำดับ โดยมากจะเน้นความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมและเรียกร้องให้มีการประเมินผลกระทบทางสังคมในทุกระยะของโครงการลงทุนและ “ความรับผิดชอบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม” การบริหารจัดการธุรกิจที่เป็นธรรมและโปร่งใส

อันที่จริง ตั้งแต่เริ่มศตวรรษใหม่รัฐบาลและภาคอุตสาหกรรมจีนได้รับรู้ถึงผลประโยชน์การทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบและความเสี่ยงชองพฤติกรรมที่ขาดความรับผิดชอบ งานวิจัยของOECD ได้ระบุว่าความปลอดภัยในการผลิต การควบคุมความเสี่ยง และการบริหารที่เป็นระบบเดียวกันเป็นหัวใจของนโยบายของการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของจีน ตามข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ รัฐบาลจีนได้ออกเกือบ สี่สิบนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนและการลงทุนร่วมหลายบริษัททางด้านการบริหารการทำงาน กฎเกณฑ์การลงทุน การป้องกันสิ่งแวดล้อมและการตอบสนองความเสี่ยง

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ได้มีการออกข้อแนะนำการลงทุนรอบด้านมากขึ้น และกฎข้อบังคับระหว่างประเทศได้ถูกนำมาใช้ทางด้านการป้องกันสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างทุนและแรงงาน การบริหารจัดการธุรกิจที่เป็นธรรมและโปร่งใสและเรื่องอื่นที่เกี่ยวกับชุมชนนานาชาติ

ในที่ประชุมครั้งที่ 35 ของคณะกรรมการกลางกลุ่มนำการปฏิรูปเชิงลึกรอบด้านประเทศจีน (China Central Committee Leading Group for Deepening Reform Comprehensively) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ได้ทำการทบทวนและรับรอง”ความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารงานของบรรษัทในต่างประเทศ (Opinions on Regulating Corporate Overseas Operation Conduct)” ซึ่งเรียกร้องให้กำหนดมาตราฐานความประพฤติทางด้านการทำธุระกิจของของบรรษัท เน้นการสร้างกลไกทางสถาบัน การกำหนดทิศทางของปัญหา กำหนดความรับผิดชอบของบรรษัท ความมีวินัยอย่างเคร่งครัดที่จะทำตามกฎหมาย ปรับปรุงข้อบกพร่องของสถาบันและเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบการทำธุระกิจในต่างประเทศเพื่อสร้างระบบระเบียบการมาตราฐานที่ระบุอำนาจและความรับผิดชอบ การมอบหมายอำนาจ และ กระชับการดูแลควบคุมความเสี่ยงอย่างชัดเจน

ด้วยเหตุนี้ คณะกรรมาธิการหนึ่งแถบหนึ่งถนนปฏิรูปของกระทรวงพาณิชและการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติกฎระเบียบห้าข้อเพื่อควบคุมการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทจีนและชี้ชัดว่าบรรษัทที่ทำธุระกิจในต่างประเทศจะต้องหลีกเลี่ยง”การแข่งขันที่ไม่ยุติธรรม ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของลูกจ้าง รักษาความรับผิดชอบทางสังคมที่จำเป็นและเอาใจใส่ต่อการปกป้องทางสิ่งแวดล้อมทางนิเวสน์” นอกเหนือจากนั้น ได้มีข้อเสนอให้มีการกระชับกลไกเฝ้าดูการลงทุนในต่างประเทศ จัดตั้งและปรับปรุงระบบการตัดสินใจการลงทุนในต่างประเทศ การบริหารการเงิน และความรับผิดชอบต่อการละเมิดกฎเกณฑ์ “จริยธรรมสำหรับบรรษัทประกอบการลงทุนในต่างประเทศ (Code of Conduct for Overseas Investment Operation of Private Enterprises)” ในปี 2560 ได้เน้น “การรักษา

ความรับผิดชอบทางสังคม” และส่งเสริมให้สาขาต่างประเทศของบริษัทเอกชนจีนจัดตั้งกลไกแถลงข่าวเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมของบรรษัทเพื่อที่จะแถลงข่าวเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางสังคมและการปฏิบัติงานของบรรษัทได้อย่างทันการและจัดทำรายงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างสม่ำเสมอ

ในขณะเดียวกัน ในฐานะที่หน่วยงานต้นๆในการควบคุมความประพฤติทางด้านธุระกิจของบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนทุนจากจีนในต่างประเทศสำนักงานพาณิชและเศรษฐกิจของสถานทูตจีนในต่างประเทศได้เข้มงวดเพิ่มการควบคุมความความประพฤติของบรรษัทจีนในต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่นในปี 2560 สำนักงานพาณิชและเศรษฐกิจของสถานทูตจีนในเอธิโอเปียได้ออก “คำเตือนเกี่ยวการรักษาวินัยด้วยตัวเองและการควบคุมดูแลความประพฤติของบรรษัทในต่างประเทศ”ซึ่งได้ห้ามการทำลายสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นการส่งแรงงานที่เป็นการละเมิดกฎหมายและระเบียบ ไม่จ่ายค่าแรงงานและละเมิดสิทธิผลประโยชน์อันชอบธรรมของกรรมกร หรือการได้มาของโครงการโดยการจ่ายสินบนหรือวิธีอื่นที่ไม่ชอบธรรม

ในการต่อต้านคอรัปชั่น ประเทศจีนได้เข้าร่วมอนุสัญญาการต่อต้านคอรัปชั่นขององค์การสหประชาชาติในปี 2548 และได้แก้ไขกฎหมายอาญาหลายครั้งเพื่อให้เป็นแนวเดียวกับอนุสัญญานั้นหลายครั้ง กฎหมายอาญา (แก้ไขครั้งที่ 8) ที่ประกาศใช้ในปี 2554 ได้บัญญัติไว้ว่า ผู้ที่ให้เงินสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การต่างประเทศเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ทางการค้าจะต้องรับโทษทางอาญาฐานให้สินบน ในเวลาเดียวกันรัฐบาลจีนได้ถือว่าความร่วมมือในการต่อต้านคอรัปชั่นเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในการก่อสร้างโครงการหนึ่งแถบหนึ่งถนน ในปีหลังๆมานี้ นันตั้งแต่มี ปฏิญญาต่อต้านคอรัปชั่นปักกิ่ง จนถึง หลัการขั้นสูงของกลุ่มประทศ G20 ในการต่อต้านคอรัปชั่น (G20 High-Level Principles on Cooperation on Persons Sought for Corruption and Asset Recovery) “โครงการของจีน” และ .การเสนอแนะของจีนได้นำไปสู่การพัฒนาความร่วมมือต่อต้านคอรัปชั่นในเชิงลึกระหว่างประเทศ

โดยภาพรวมแล้ว จีนได้ขยายขอบเขตของนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนอย่างรับผิดชอบ ปรับปรุงระบบการควบคุมการลงทุนในต่างประเทศเพื่อจะทำให้การแนะนำและควบคุมการลงทุนในต่างประเทศเป็นมาตราฐานและสถาบันขึ้นมา ดังนันการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูงจึงให้ความสำคัญอย่างจริงจังต่อความกังวลของทุกฝ่ายและแสดงออกถึงความจริงใจของจีนเอง

 

ความท้าทายและข้อแนะนำที่เกี่ยวข้องสำหรับการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง

การก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูงยังคงพบกับปัญหาความท้าทายอยู่เป็นระยะ ๆ ประการแรก ระบบของกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศในปัจจุบันยังใหญ่เทอะทะและซับซ้อนซึ่งรวมถึงข้อตกลงระหว่างรัฐบาล หรืออนุสัญญาระหว่างประเทศ ข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับความประพฤติและหลักปฏิบัติในทางเศรษฐกิจเช่นการลงทุน การค้า ในทางสังคมและการเมืองเช่น สิ่งแวดล้อม สิทธิของแรงงานและการต่อต้านคอรัปชั่น องค์กรที่ได้พัฒนาจากการนี้มี สหประชาชาติที่มีอำนาจทางกฎหมายที่แข็งแรง OECD และองค์การเอกชนระหว่างประเทศอีกเป็นจำนวนมาก

ประการที่สอง การก่อสร้างแถบเส้นทางและถนนถือได้ว่าเป็นการขยายการพัฒนาประสบการณ์ของประเทศจีนที่ได้มาจากการปฏิบัติตามยุทธศาสตร์การเปิดออก(Opening up) และโครงสร้างพื้นฐานเป็นอันดับแรก และการพัฒนาทางการเงิน ด้วยความพยายามของตัวเองจีนไม่ได้ลอกเรียนแบบหลักปฏิบัติของตะวันตกหรือองค์การระหว่างประเทศใด ๆ แต่ได้ใช้หลักการเน้นการแก้ปัญหาและขบวนการที่มีขั้นตอน

ประการที่สาม ประเทศจีนยึดถือหลักการความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่แทรกแซงกิจการภายใน โดยไม่มีเงื่อนไขผูกมัดกับการลงทุนและการให้ความช่วยเหลือ ปฏิบัติติตามกฎหมายและระเบียบของประเทศเจ้าบ้านที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม สิทธิและผลประโยชน์ของแรงงาน อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางส่วนมากจะอยู่ในเขตด้อยพัฒนาในเอเซียและอาฟริกาที่ซึ่งกฎหมายปกป้องสิ่งแวดล้อมและแรงงานแรงงานไม่สมบูรณ์ การคอรัปชั่นมีมาก ผลตามมาก็คือประเทศเจ้าบ้านไม่มีกฎหมายให้ใช้เพื่อตัดสินข้อขัดแย้ง

ประการที่สี่ ส่วนมากสิ่งที่เรียกว่า “กฎระเบียบระหว่างประเทศ”เขียนขึ้นโดยประเทศที่พัฒนาแล้ว ประเทศจีนและประเทศกำลังพัฒนามีส่วนร่วมในขอบเขตจำกัด และกฎบางข้อมีข้อเรียกร้องมากเกินที่ประเทศกำลังพัฒนาจะรับได้

อย่างไรก็ตาม เราต้องยอมรับว่า รัฐบาลจีน บริษัทจีน นโยบายและหลักปฏิบัติย้งต้องได้รับการปรับปรุงอยู่มาก และนโยบายที่เกี่ยวข้องยังขาดความเป็นอันหนึ่งอันเดียว ความสามารถนำมาใช้ได้ตรงจุดและขาดความเป็นมาตรฐาน ดังนั้นการสร้างกฎเกณฑ์มาตราฐานจึงเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง แต่ก็จะเป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงระยะยาวที่ต้องใช้ความพยายามร่วมกันและการเรียนรู้จากกันและกันของทุกฝ่าย

 

ข้อเสนอแนะที่เกี่ยวข้องสำหรับการส่งเสริมการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง

เพื่อรับมือกับ “ความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในโลกที่ยังไม่เคยเห็นในศตวรรษหนึ่ง” และปรับตัวเข้ากับความต้องการของการก่อสร้างร่วมกันของแถบเส้นทางและถนน (Belt and Road) ที่มีคุณภาพสูง บรรษัทจีนที่เข้าร่วมในการก่อสร้างแถบเส้นทางและถนน จำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตราการหลายประการอย่างรอบด้านและในหลายด้าน

สิ่งแรกที่ต้องทำคือการปลุกความตระหนักรู้และรวมความคิดให้เป็นหนึ่งเดียว บรรษัทที่รับการสนับสนุนทันของจีนส่วนมากยังขาดความเข้าใจเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ชองการลงทุนในต่างประเทศ ตวามจำเป็นของการมีส่วนร่วมในธุระกิจการก่อสร้างเส้นทางและบทบาทของการธุระกิจในต่างประเทศต่อโครงสร้างธุระกิจของบริษัทเพื่อที่เขาจะสามารถพัฒนาการวางแผนทางยุทธศาสตร์ดำเนินการตามแผนบนพื้นฐานของการวิเคราะห์ธุระกิจในต่างประเทศ และทำการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง

ประการที่สอง ต้องปรับปรุงความตื่นตัวต่อการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ ความสามารถ การสร้างระบบให้เข้ากับการปกป้องสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างทุนและแรงงาน การชดใช้ให้กับการทำลาย การมีส่วนร่วมของชุมชน และกานต่อต้านคอรัปชั่น

ประการที่สามต้องทำการวิจัยและตัดสินอย่างมีประสิทธิภาพแนวโน้มทั่วไปและวิเคราะห์ปัจจัยที่สำคัญ ติดตามความคิดจองมหาชน และเสริมสร้างความปลอดภัยและการตอบสนองความเสี่ยง

ประการที่สี่ให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของโครงการต่างๆ ยกสูงความรู้สึกต่อผลประโยชน์ของประชาชนในประเทศที่โครงการอยู่และของประชาชนในประเทศที่เข้าร่วมโครงการ และแสวงหาการสนับสนุนจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มากที่สุด

ประการที่ห้าต้องมีความสามารถประเมินความเป็นไปได้ทางการพาณิช วางแผนฉุกเฉินอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะยุทธศาสตร์หาทางออกให้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นที่ไม่ได้รับการแก้ไขในขั้นตอนการเจรจา และพยายามหาหุ้นส่วนที่พึ่งและไว้ใจได้ให้ร่วมแบกรับความเสี่ยง

ประการที่หกทำนวตกรรมในทางปฏิบัติความรับผิดชอบทางสังคมของบรรษัท ให้ความสำคัญต่อการเผยแผ่ข้อมูลข่าวสาร และการสื่อสาร กระตุ้นการสร้างแบร็นด์ (Brand) และเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนเพื่อสร้างความเชื่อมั่น

 

ประสบการณ์ที่สำคัญจากโครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์

ใช้การวิจัยเชิงลึกของโครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์เป็นตัวอย่าง โครงการนี้สามารถเอาชนะความยุ่งยากทางด้านพื้นที่ ความหลากหลายทางระบบนิเวสน์ การสนับสนุนทางสังคมที่อ่อนแอ ข้อจำกัดการหาวัสดุในท้องถิ่นและทรัพยากรมนุษย์ และการเปลี่ยนรัฐบาลเมียนมาร์ นอกจากนี้

ยิ่งไปกว่านั้น ได้บรรลุเป้าหมายที่จะลดอุบัติเหตุ มลพิษ การบาดเจ็บในการทำงาน และอุบัติเหตุเกี่ยวกับความปลอดภัยของสังคมให้เป็นศูนย์ซึ่งเป็นการเพิ่มประสบการณ์ที่จะนำมาใช้กับโครงการสำคัญในโครงการหนึ่งแถบเส้นทางและหนึ่งถนน

นอกเหนือไปจากความเอาใจใส่อย่างสูงของรัฐบาลของสองประเทศ ประสบการณ์สำคัญของความสำเร็จของโครงการมีหลายด้านดังต่อไปนี้ หนึ่ง การยึดมั่นต่อแนวคิดความเปิดเผย การร่วมการสร้าง และการดำเนินการเชิงพาณิชสำหรับโครงการยุทธศาสตร์และการทำตามกฎเกณฑ์ที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติในการก่อสร้างโครงการ การสรรญหา และการปฏิบัติงาน อีกตัวอย่างก็คือโครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์ได้ใช้โครงสร้างที่เท่าเทียมกันของ “หกประเทศและสี่ฝ่าย” ระหว่างการก่อสร้างโครงการได้มีการคัดเลือกบรรษัทที่มีความโดดเด่นโดยผ่านการประมูลเพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์และหุ้นส่วนที่มีคุณภาพเช่นที่ปรึกษาด้านกฎหมายและภาษี และให้ความสำคัญต่อการมีส่วนร่วมบริษัทในประเทศเจ้าบ้าน อีกตัวอย่างคือการปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัดมาตราฐานนานาชาติเกี่ยวกับโครงการระบบท่อเช่น American Petroleum Institute (API) และthe American Society of Mechanical Engineers (ASME) บริษัทดูแลควบคุมทางด้านวิศวกรรมบุคคลที่สามเพื่อเฝ้าดูและตรวจสอบมาตราฐานการก่อสร้างอย่างเคร่งคัด

โดยการใช้ระบบ”สามประสาน” ระหว่างสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม พวกเขาได้ปฏิบัติระบบความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยและการป้องกันสิ่งแวดล้อมและว่าจ้างหน่วยงานบุคคลที่สามระหว่างประเทศให้มาประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของโครงการสองครั้ง นอกจากนั้นได้มีการนำใช้ระบบเฝ้าระวังติดตามการป้องกันสิ่งแวดล้อม การคืนสภาพเดิมให้พื้นดินระหว่างการก่อสร้างโดยหน่วยงานบุคคลที่สามทีเป็นอิสระและมีการวางแผนอนุรักษ์ดินและน้ำและการ การบูรณะทางนิเวสน์ตามแนวทางระบบท่อตามเงื่อนไขของท้องถิ่นเพื่อจะทำให้พื้นดินคืนศู่สภาพเดิมให้ได้มากที่สุดและอย่างรวดเร็ว

สาม การยึดถือการแบ่งปันผลประโยชน์ของการพัฒนาและการเอาใจใส่ต่อการทำให้การปฏิบัติงานเป็นเรื่องท้องถิ่นและการรับผิดชอบทางสังคมของบรรษัท โครงการนี้ได้มีคุณูประการต่อรายได้ทางงบประมาณของเมียนมาร์โดยการจ่ายค่าสิทธิการใช้ถนนและเงินปันผลจากการลงทุนและได้จัดหาพลังงานสะอาดราคาถูกให้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมท้องถิ่นและประชาชนของเมียนมาร์

สี่ ได้มีการเอาใจใส่ต่อการบริหารด้านประชาสัมพันธ์โดย “การทำมากกว่าพูด” หรือ “การพูดน้อยแต่ทำมาก” ระหว่างการก่อสร้างและปฏิบัติโครงการ สื่อและองค์การเอกชนของเมียนมาร์ได้รายงานเท็จโจนตีโครงการซึ่งเป็นผลเสียต่อโครงการและภาพพจน์แห่งชาติของประเทศจีน บริษัทโครงการท่อส่งน้ำมันและก๊าซจีน-เมียนมาร์ได้ตอบสนองในทางบวกและเพิ่มการติดต่อกับภาคส่วนและผลิตข่าวสารผ่านการประชุมสื่อมวลชน จัดพิมพ์รายงาน ผลิตวิดีโอเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคนของบรรษัทในภาษาจีน อังกฤษและพม่า เปิด Facebook ภาษาพม่า และก็ได้รับผลในทางบวก

 

Author by Zhou Taidong