เหตุผลที่คุณต้องลงทุนตามกระแส Megatrends ก่อนใคร

เหตุผลที่คุณต้องลงทุนตามกระแส Megatrends ก่อนใคร

เมื่อ Megatrends แผ่อิทธิพลไปยังมุมมองของผู้บริโภคและกิจการต่างๆ ทั่วโลกในวงกว้าง จะดีไหม? ถ้าเรามีโอกาสสร้างผลตอบแทนและเติบโตไปกับเทรนด์ธุรกิจสุดฮิตทั่วโลก ผ่านการลงทุนในบริษัทชั้นนำที่ผลิตสินค้าและให้บริการรองรับ Megatrends ที่เปลี่ยนแปลงโลกเหล่านั้น

คำตอบคือ …ดีแน่นอน และเมื่อโอกาสมาก็ต้องรีบคว้าให้ทันโลก ล่าสุด บลจ. กสิกรไทย ได้ออกกองทุนเปิดเค โกลบอล ไฮ อิมแพ็ค ธีมาติก หุ้นทุน (K-HIT) ชูจุดเด่นเป็นการลงทุนแบบ Thematic Investing กระจายการลงทุนในธีมธุรกิจตามเทรนด์โลกที่เกิดขึ้น หรือ Megatrends เริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท เปิดเสนอขายครั้งแรก 9 - 19 กรกฎาคม 2562

 

กองทุนเปิดเค โกลบอล ไฮ อิมแพ็ค ธีมาติก หุ้นทุน (K-HIT) น่าสนใจอย่างไร?  

จุดเด่นของกองทุน K-HIT จะลงทุนแบบ Thematic Investing ซึ่งก็คือ การกระจายการลงทุนในธีมธุรกิจที่สอดคล้องตามเทรนด์โลก โดยลงทุนผ่านกองทุนหลัก Allianz Global Investors Fund - Allianz Thematica Share Class P (EUR) ซึ่งบริหารโดย Allianz Global Investors ที่มีความเชี่ยวชาญด้านบูรณาการข้อมูลจากทีมวิจัยด้านต่างๆ ผ่านระบบ Global Research Platform โดยค้นหาธุรกิจที่สอดคล้องกับ Megatrends ที่น่าสนใจ และมีแนวโน้มเติบโต เพื่อให้การลงทุนได้รับประโยชน์สูงสุดกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน และจะมีการเปลี่ยนธีมธุรกิจใหม่ๆ อย่างน้อย 1 ธีมในทุกๆ ปี หากธีมธุรกิจที่ลงทุนอยู่เดิม เริ่มเติบโตค่อนข้างจำกัดและมีความน่าสนใจลดน้อยลง ซึ่ง 4 Megatrends ที่กองทุนให้ความสำคัญได้แก่ การขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization) , นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Technological Innovation), ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด (Resource Scarcity) รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและสังคม (Demographic & Social Change)

 

ธีมการลงทุนรับกระแส Megatrends ที่น่าสนใจ มีอะไรบ้าง

กองทุนหลักจะมีการจัดสรรเงินลงทุนในหุ้น Megatrends ทั่วโลก 150 - 200 ตัว ใน 5 -7 ธีมที่ดีที่สุด ซึ่งเป็นธีมธุรกิจที่สอดคล้องกับวงจรเศรษฐกิจปัจจุบัน มีสภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่เกื้อหนุน หรือผลิตสินค้าและบริการที่เป็นที่ต้องการ มีผู้บริโภคจำนวนมากสามารถเข้าถึงได้ เช่น 

  1. ธีมธุรกิจชีวิตในยุคดิจิทัล (Digital Life)
  2. ธีมธุรกิจนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI)
  3. ธีมธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ (Health Tech)
  4. ธีมธุรกิจจัดการน้ำและขยะ (Water & Waste)
  5. ธีมธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของจีน (China Impact)
  6. ธีมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย (Safety and Security)
  7. ธีมธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (Pet Economy)

ยกตัวอย่างที่มาในการเลือกลงทุนในธีมธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง (Pet Economy) เนื่องจากจำนวนประชากรในกลุ่มรายได้ปานกลางจากกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่และทัศนคติของคนรุ่นใหม่ที่มองสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนสมาชิกในครอบครัว ทำให้จำนวนสัตว์เลี้ยงเพิ่มสูงขึ้น พร้อม ๆกับการใช้จ่ายสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสัตว์เลี้ยงก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ธุรกิจดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง ธุรกิจอาหารสัตว์ ธุรกิจสินค้าและบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ น่าสนใจเข้าไปลงทุนนั่นเอง

หรืออย่างธีมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัย (Safety and Security ) มีที่มาเนื่องจากการโจมตีข้อมูลออนไลน์ หรือ Cyberattacks กลายเป็นการทำสงคราม การก่อการร้าย และการลักลอบขโมยข้อมูลรูปแบบใหม่ มีองค์กรมากกว่า 90% ทั่วโลกเผชิญกับการโจมตีข้อมูลออนไลน์ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ทำให้บริษัทที่มีการเก็บข้อมูลที่มากขึ้นเรื่อยๆ ต้องการเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่เหมาะสมในการใช้ป้องกันการโจมตี ที่นอกจากจะส่งผลเสียหายต่อทั้งตัวบริษัทเองแล้ว ยังรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าผู้ใช้บริการอีกด้วย ดังนั้นกิจการที่พัฒนา Solution ในการป้องกันการโจมตีโดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยจะเป็นโอกาสการลงทุนที่สำคัญ

 

ผลการดำเนินงานของกองทุนหลัก?

กองทุนหลัก มีผลการดำเนินงานย้อนหลังสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานและติดอันดับ Top Quartile โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน อยู่ที่ 13.20% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 4.48% และย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 3.43% (ข้อมูล ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2562)

 

กองทุน K-HIT เหมาะกับใคร?

  • ผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นทั่วโลกที่สอดรับกับกระแสโลก ผ่านกลยุทธ์การคัดเลือกธีมการลงทุน กลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นที่เหมาะสม
  • ผู้ลงทุนที่สามารถรับความผันผวนของราคาหุ้นที่กองทุนหลักไปลงทุน ซึ่งอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหรือลดลงต่ำกว่ามูลค่าที่ลงทุนและทำให้ขาดทุนได้
  • ผู้ลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนได้
  • ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป

 

สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในกองทุน K-HIT เริ่มต้นลงทุนเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds หรือที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 02-6733888 หรือคลิก https://bit.ly/2Yy0K2r

 

คำเตือน

- ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

- การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจมีราคาผันผวนตามสภาวะตลาดและค่าเงิน

- กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจจะขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

- ผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม : https://bit.ly/2Yy0K2r



#KAsset #KHIT #คำตอบที่ใช่ของการลงทุน