เพอร์เฟคขานรับกำลังซื้อ-ศก.ฟื้น!ลุยบ้านเดี่ยวระดับกลางผุดคอนโดรอบ4ปี

เพอร์เฟคขานรับกำลังซื้อ-ศก.ฟื้น!ลุยบ้านเดี่ยวระดับกลางผุดคอนโดรอบ4ปี

เพอร์เฟคขานรับกำลังซื้อ-เศรษฐกิจฟื้น! ลุยบ้านเดี่ยวระดับกลาง“เพอร์เฟค เพลส-เพอร์เฟค พาร์ค”พร้อทผุดคอนโดครั้งแรกรอบ4ปี ทำเลถนนพัฒนาการไตรมาส 2 หลังก่อนหน้านี้จับกลุ่มบ้านลักชัวรีเป็นหลักวางเป้าขาย1.6หมื่นล้านบาท

สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจส่งผลต่อกำลังซื้อที่กำลังกลับมาโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับกลางในภาคท่องเที่ยวเมื่อกลุ่มนักเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาส่งผลให้คนที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยเกิดความมั่นใจว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นหนึ่งในเหตุผลให้กลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค หันกลับมาให้ความสำคัญกับโครงการที่จับกลุ่มระดับกลางมากขึ้น !! จากที่ก่อนหน้านี้จับกลุ่มลักชัวรีเป็นหลัก

  “วงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมและแนวโน้มอสังหาฯ มีปัจจัยบวกจากการคลี่คลายของสถานการณ์โควิด-19 เศรษฐกิจฟื้นตัว กำลังซื้อเริ่มสูงขึ้น จากการฟื้นตัวของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยวและบริการ แม้ว่ามาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐเบาลง และปัจจัยลบหลักคือหนี้สินครัวเรือนส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาชึ้น ต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้นและะภาวะเงินเฟ้อ

“ภาพรวมถือว่าเป็นสัญญาณบวกต่อการดำเนินธุรกิจของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ใน 3 ด้าน คือ บ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี ที่มีอัตราการเติบโตจนติดอันดับท็อปไฟว์ , โครงการร่วมทุนทั้งแนวราบและคอนโดเริ่มมีการโอนและรับรู้รายได้ทำกำไรสูง และธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเติบโตเท่าตัว จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทำให้สามารถก้าวข้ามวิกฤติพร้อมที่ทำกำไร ”

โดยปีนี้วางเป้าขาย 16,500 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 9,700 ล้านบาท คอนโดมิเนียมทั้งในประเทศและประเทศญี่ปุ่น 2,400 ล้านบาท และโครงการร่วมทุนอีก 4,400 ล้านบาท โดยปีนี้จะเปิด 14 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 17,700 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวและบ้านแฝด 9 โครงการ มูลค่า 11,730 ล้านบาท ทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ 3 โครงการ มูลค่า 2,770 ล้านบาท โครงการร่วมทุนกับ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” เพิ่มอีก 1 โครงการ มูลค่า 2,200 ล้านบาท และ คอนโดมิเนียม 1 โครงการ มูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยเป็นการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในรอบ 4 ปี !!
 

สำหรับโครงการที่จะเปิดใหม่จะเพิ่มน้ำหนักกลุ่มโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางมากขึ้นเพื่อขยายตลาดให้กว้างขึ้นในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว โดยโครงการบ้านเดี่ยวระดับกลางที่จะเปิดใหม่ปีนี้ มี 7 โครงการ มูลค่ารวม 10,930 ล้านบาท ใน 2 แบรนด์หลัก คือ “เพอร์เฟค เพลส” ราคา 8-10ล้านบาท และ “เพอร์เฟค พาร์ค” ราคา 5-10ล้านบาท นอกจากนี้ยังเปิดคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ ราคา 2- 5 ล้านบาท เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี บนทำเลถนนพัฒนาการด้านหลังโรงพยาบาลสินแพทย์ พัฒนาการ กำหนดเปิดตัวในไตรมาส 2

วงศกรณ์ กล่าวว่า ปีนี้บริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการเปิดตัวโครงการใหม่ ด้วยการเปิดตัวโครงการระดับกลางเพิ่ม 70% จากปีก่อน 40% โครงการลักชัวรีลดลงเหลือ 20% จากเดิม 40% ส่วนคอนโดลดลงเหลือ 10% จากเดิม 20% พร้อมเพิ่มสินค้าในกลุ่มบ้านระดับบน ซึ่งเติบโตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และยังเติบโตต่อเนื่อง โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายบ้านกลุ่มลักซ์ชัวรี่ 50% หรือ 5,000 ล้านบาท เป็น 1 ใน 5 ของผู้นำตลาดบ้านลักซ์ชัวรี่ ด้วยการเพิ่มสินค้าใหม่บ้านเดี่ยว 3 ชั้นทำเลในเมือง เปิดตัวบ้านลักซ์ชัวรี่ 3 ชั้นแบรนด์ใหม่ “วาวิล่า” รวมถึงยังมีแบบบ้านใหม่ทั้งในโครงการระดับบนของบริษัทและโครงการร่วมทุน

ขณะเดียวกันวางงบลงทุนสำหรับซื้อที่ดิน 1,000 ล้านบาท 

สำหรับปี 2565 ที่ผ่านมา คาดว่ารายได้น่าจะอยู่ที่ระดับ 13,000 ล้านบาท ยอดขายที่ 12,000 ล้านบาท โดยได้เปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 12,700 ล้านบาท ทั้งนี้ยอดขายกว่า 50% จะมาจากโครงการใน 4 โซนหลักทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ ได้แก่ กรุงเทพกรีฑา สุขุมวิท 77 ชัยพฤกษ์ และ ราชพฤกษ์ โดยในแต่ละทำเลบริษัทมีทั้งโครงการที่กำลังพัฒนาและการเปิดโครงการใหม่ รวมถึงมีแผนพัฒนาให้เป็นชุมชนในการอยู่อาศัยที่สะดวกสบาย 

นอกจากนี้ยังเดินหน้าพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่าและตอบโจทย์ทั้งเรื่องเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยนำเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยมาใช้ในแบบบ้านใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งโซลาร์รูฟเพื่อใช้ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ การนำระบบสมาร์ทโฮมมาใช้เพื่อลดการสัมผัสเพื่อสุขอนามัย รวมทั้ง การติดตั้ง EV Charger เพื่อรองรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น 

ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ในมือรวมมูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ในปีนี้ทั้งหมด และยังมีสินค้าพร้อมโอน ในมือมูลค่ารวมประมาณ 6,000 ล้านบาท