หัวเว่ยเปิดตัวสถาปัตยกรรม AI แบบ 3 เลเยอร์

หัวเว่ยเปิดตัวสถาปัตยกรรม AI แบบ 3 เลเยอร์

ผสานความสามารถของ AI เข้าไว้ในหลาย ๆ เลเยอร์ของเน็ตเวิร์ก IP ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับความอัจฉริยะสำหรับยุค AI

ถือเป็นครั้งแรกที่หัวเว่ยได้เปิดตัวสถาปัตยกรรม AI แบบ 3 เลเยอร์ เพื่อสร้างเครือข่าย IP อัจฉริยะ ที่ผสานการเชื่อมต่ออัจฉริยะ การปฎิบัติการและการดูแลรักษาอัจฉริยะ และการเรียนรู้อัจฉริยะสำหรับยุค AI เข้ามาไว้ด้วยกัน  สถาปัตยกรรมนี้มีชุดผลิตภัณฑ์ Engine AI Turbo, ระบบควบคุมและจัดการเครือข่ายการขับขี่อัตโนมัติ iMaster NCE และแพลตฟอร์ม AI เน็ตเวิร์ก iMaster NAIE ตัวแรกของอุตสาหกรรม  หัวเว่ยได้ผสานความสามารถของ AI เข้าไว้ในหลาย ๆ เลเยอร์ของเน็ตเวิร์ก IP ซึ่งจะช่วยเพิ่มระดับความอัจฉริยะให้แก่เน็ตเวิร์กIP และเร่งการพัฒนาเครือข่ายเพื่อรองรับการขับขี่อัตโนมัติ

 

มร. เควิน หู ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารดาต้าของหัวเว่ย กล่าวว่า “หัวเว่ยจะพัฒนาจุดแข็งของผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นให้เฉียบคมขึ้นเรื่อย ๆ โดยอาศัยโครงสร้างสถาปัตยกรรม AI 3 เลเยอร์ สำหรับเน็ตเวิร์ก IP อัจฉริยะ ที่พัฒนาต่อยอดจากชุดผลิตภัณฑ์ Engine AI Turbo รุ่น iMaster NCE และ iMaster NAIE  เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้บริการที่ดีกว่าแก่ลูกค้าและพันธมิตรของเราทั่วโลก และเป็นผู้นำในการพัฒนาเน็ตเวิร์ก IP อัจฉริยะ”

 หัวเว่ยเปิดตัวสตอเรจ All-Flash อัจฉริยะ OceanStor Dorado เจเนอเรชันใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ Kunpeng และ Ascend

 สตอเรจ All-Flash อัจฉริยะ OceanStor Dorado (OceanStor C series) เจเนอเรชันใหม่ของหัวเว่ย เป็นแพลตฟอร์มความเร็วสูงแบบครบวงจร บนโปรเซสเซอร์ AI Kunpeng 920 และ Ascend 310  ทำให้ปริมาณการอ่านและเขียนไฟล์ต่อ 1 วินาที (I/O Operations per second IOPS) ทำได้สูงถึง 20 ล้านครั้ง และลดความหน่วงเวลาเหลือไม่เกิน 0.1 มิลลิวินาที  โครงสร้างสถาปัตยกรรม SmartMatrix ที่มีความน่าเชื่อถือสูงและเชื่อมโยงกันโดยสมบูรณ์ ทำให้ธุรกิจหลักดำเนินการได้อย่างราบรื่นแม้แต่ในช่วงที่คอนโทรลเลอร์มีปัญหา  นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติด้านแมชชีนเลิร์นนิ่งของโปรเซสเซอร์ AI Ascend 310 ทำให้อัตราการอ่านแคชดีขึ้นถึง 50อาศัยการเชื่อมต่อ AI ในคลาวด์ สตอเรจ OceanStor Dorado ช่วยให้การบริหารจัดการทำได้อย่างชาญฉลาดตลอดอายุการใช้งาน ประสบการณ์การใช้งานสตอเรจจึงดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นโซลูชันสตอเรจ All-Flash ที่มีความเร็ว เสถียร และอัจฉริยะ พร้อมมีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย เชื่อถือได้ และบริหารจัดการโดยระบบอัตโนมัติ

 

มร. ปีเตอร์ โจว รองประธาน กลุ่มผลิตภัณฑ์ IT และประธานกลุ่มสตอเรจและ Intelligent Data ของหัวเว่ย กล่าวว่า “ในเศรษฐกิจดิจิทัล การเชื่อมต่อและแอปพลิเคชันจะยิ่งเร่งให้เกิดข้อมูลและการไหลเวียนของข้อมูลมากขึ้น  และด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีอันล้ำสมัยอย่างรวดเร็ว อาทิ 5G, AI และอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT) จะมีแอปพลิเคชันและดาต้าเกิดขึ้นจำนวนมหาศาล ทำให้ต้องการการประมวลผลดาต้าแบบเรียลไทม์  จึงต้องมีการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานดาต้าเพื่อตอบรับความต้องการนี้  สตอเรจ OceanStor Dorado โซลูชันใหม่พัฒนาขึ้นจากประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีสตอเรจ All-Flash ที่สั่งสมมายาวนาน และตั้งเป้าช่วยให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุดจากดาต้าของตน”

 

หัวเว่ยประกาศกลยุทธ์ Intelligent OptiX Network สำหรับองค์กร พร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 ชุดด้วยกัน ได้แก่ OptiXtrans, OptiXaccess และ OptiXstar เพื่อรับมือกับรูปแบบการใช้งานแคมปัส ดาต้าเซ็นเตอร์ และทรานสมิชชัน แบบ All-optical โดยผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวมีดังต่อไปนี้

  • OptiXtrans DC908 ของหัวเว่ย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ DCI อัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม ได้รับการพัฒนาขึ้นมาสำหรับลูกค้าดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกเพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างดาต้าเซ็นเตอร์ที่ราบรื่น ผลิตภัณฑ์ตัวนี้สร้างขึ้นจากสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย และรองรับการจัดหาบริการแบบวันคลิกโดยไม่ต้องการปฏิบัติการแบบมืออาชีพ การติดตั้งใช้งานใช้เวลาไม่ถึง 8 นาที ด้วยประสิทธิภาพของทรานสมิชชัน 48T บนสายไฟเบอร์ออปติกหนึ่งเส้น OptiXtrans สามารถลดจำนวนการเชื่อมต่อสายไฟเบอร์ลงได้ราว 90% ต่อ 1 ไซต์ โดยเครือข่ายจะมาพร้อมชิปและอัลกอริธึม ทำให้สามารถบริหารเครือข่ายได้อย่างชาญฉลาด
  • OptiXtrans E9600 ของหัวเว่ย อุปกรณ์ทรานสมิชชันแบบ All-optical อัจฉริยะตัวแรกของอุตสาหกรรม ที่พัฒนาขึ้นสำหรับองค์กรโดยเฉพาะ สามารถใช้ได้ในอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เช่น พลังงาน ไฟฟ้า การขนส่ง การศึกษา และการเงิน ด้วยความปลอดภัยระดับอุตสาหกรรมทำให้รับประกันได้ถึงความน่าเชื่อถือสูงในการส่งข้อมูลระยะไกล
  • OptiXaccess และ OptiXstar ของหัวเว่ย เป็นชุดผลิตภัณฑ์เทอร์มินัลและอุปกรณ์เพื่อการเข้าถึงแบบ Optical ที่ออกแบบมาสำหรับองค์กร ที่ต้องการปรับเปลี่ยนเครือข่ายแคมปัสของเดิมให้เป็นไฟเบอร์ออปติกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการขององค์กร

 

มร. ริชาร์ด จิน ประธานบริหาร กลุ่มผลิตภัณฑ์ Transmission & Access ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การปรับโฉมโครงสร้างเครือข่ายแบบเดิมเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรต่าง ๆ ที่กำลังทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัล  จากข้อได้เปรียบของเทคโนโลยีไฟเบอร์ออปติก ไม่ว่าจะเป็นแบนด์วิดธ์ที่สูงกว่า การใช้พลังงานต่ำ และความเสถียรในการส่งข้อมูล อุตสาหกรรมจำนวนมากขึ้นเริ่มใช้การเชื่อมต่อแบบออปติกในการผลิตและการดำเนินการเพื่อลดค่าใช้จ่ายการส่งข้อมูลของเครือข่าย เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการ และทำให้ประสบการณ์การดำเนินการธุรกิจดีขึ้น  โดยสรุปแล้ว หัวเว่ย ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมออปติก ได้เปิดตัวกลยุทธ์ Intelligent OptiX Network และชุดผลิตภัณฑ์นวัตกรรม OptiX 3 ชุด สำหรับตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ ในการสร้างการเชื่อมต่อแบบออปติกในทุกหนทุกแห่ง ให้เป็นรากฐานแบบออปติกทั้งหมดสำหรับการทรานสฟอร์มสู่ดิจิทัลขององค์กร”

 

งาน HUAWEI CONNECT เป็นงานใหญ่ประจำปีระดับโลกของหัวเว่ยสำหรับอุตสาหกรรมไอซีที และปีนี้จัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 18-20 กันยายน 2562 ภายใต้ธีม “Advance Intelligence หัวเว่ยมุ่งหวังที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างและทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ สำหรับลูกค้าและพันธมิตรต่าง ๆ เพื่อสำรวจโอกาสใหม่ ๆ ให้โลกอัจฉริยะแห่งอนาคต หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดไปที่ https://www.huawei.com/en/press-events/events/huaweiconnect2019

 

 

 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของหัวเว่ย ได้ที่ www.huawei.com

ติดตามเราได้ที่

http://www.linkedin.com/company/Huawei

http://www.twitter.com/Huawei

http://www.facebook.com/HuaweiTechTH

http://www.google.com/+Huawei

http://www.youtube.com/Huawei

 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

คุณวันดี เลิศสุพงศ์กิจ ศูนย์ข้อมูลข่าวสารหัวเว่ย

โทร. 093 896 6465 หรือ 081 838 4001

อีเมล: [email protected] หรือ [email protected]