BCPG กับการเติบโตขยายธุรกิจ Beyond Adder

BCPG กับการเติบโตขยายธุรกิจ Beyond Adder

"ถ้าเราเข้าใจในธุรกิจ และรู้ว่าเรากำลังทำอะไร เราจะเดินไปในเส้นทางที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ สำหรับ BCPG ทุกโครงการใหม่นับจากนี้ คือ การเติบโต Beyond Adder"

นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) หรือ BCPG บริษัทในกลุ่มบริษัทบางจาก กล่าวถึงทิศทางการสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ ว่า ถ้าเราเข้าใจในธุรกิจและรู้ว่าเรากำลังทำอะไร เราจะเดินไปในเส้นทางที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ ช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา Adder ของภาครัฐเริ่มทยอยหมด BCPG มีเป้าหมายหลักคือ ปิดช่องว่างของรายได้ที่หายไป ซึ่งโครงการที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งที่เปิดขายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว และที่กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนานั้นทำให้มั่นใจว่าสามารถปิดช่องว่างได้ภายในปี 2568 และทุกโครงการใหม่นับจากนี้ คือการเติบโต beyond adder

จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 8 ปีก่อน ที่ BCPG ตั้งขึ้นโดยแยกส่วนธุรกิจจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด ด้วยโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 118 เมกะวัตต์ในไทย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่ภาครัฐให้การสนับสนุนอัตราค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มจากอัตราค่าไฟฟ้าปกติ (Adder) ในระยะเวลาที่กำหนด 

แม้ว่าวันนี้การได้รับการสนับสนุนอัตราค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่มจากอัตราค่าไฟฟ้าปกติ (Adder) ที่ BCPG ได้รับจะทยอยหมดไป แต่ด้วยการวางกลยุทธ์ขยายการเติบโตด้วยการกระจายการลงทุนในหลากหลายแหล่งพลังงาน ทำให้ BCPG เติบโตก้าวกระโดด ปัจจุบันมีกำลังการผลิตติดตั้ง 2,025.2 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 1,248.7 เมกะวัตต์ และอยู่ในระหว่างการพัฒนา 776.5 เมกะวัตต์ ดำเนินธุรกิจใน 7 ประเทศ ในโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังงานลม และก๊าซธรรมชาติ

BCPG กับการเติบโตขยายธุรกิจ Beyond Adder 2566 ปีแห่งการแสวงหาโอกาสและขยายขอบเขตธุรกิจ 

"8 เดือนแรกของปี 2566 BCPG ปิดดีลการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา 4 แห่ง (กำลังการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 857 เมกะวัตต์) ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เรียบร้อยแล้ว ทำให้รับรู้รายได้ทันที และเป็นโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ประสิทธิภาพสูง มีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำ จึงมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี (PJM) ซึ่งเป็นตลาดที่มีความต้องการการใช้ไฟฟ้าสูงครอบคลุมถึง 13 รัฐ ในสหรัฐอเมริกา"

นายนิวัติ เล่าเพิ่มเติมว่า นอกจากขยายธุรกิจในสหรัฐฯ ก็ได้ลงทุนในธุรกิจคลังน้ำมันและท่าเรือขนส่งน้ำมันในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีถังเก็บน้ำมัน 20 ถัง มีสัญญาให้บริการกับลูกค้าครบทุกถัง สามารถสร้างรายได้ได้ทันที และมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ 

การพัฒนาโครงการสำคัญเดินหน้าต่อเนื่อง  

ในเดือนมิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา BCPG สามารถขายไฟฟ้าที่ผลิตจากโรงไฟฟ้า Nam San 3A และ 3B ใน สปป. ลาว ไปยังเวียดนาม ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังงานลม Monsoon ใน สปป.ลาว (ขนาด 600 เมกะวัตต์) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2568 ซึ่งจะเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าอีกประมาณ 290 เมกะวัตต์ 

นอกจากนี้ BCPG ได้ใบอนุญาตใช้ที่ดินสำหรับก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดกำลังการผลิต 185 เมกะวัตต์ ในไต้หวัน ซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่ได้รับใบอนุญาตแล้วและพร้อมจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ทันทีจำนวน 40 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3 ปี 2567 โดยอีก 145 เมกะวัตต์ ที่เหลือ อยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป  

"BCPG เติบโตมาถึงวันนี้เพราะทีมงานที่แข็งแกร่ง ช่วยกันเต็มที่เพื่อสร้างรายได้ที่มีเสถียรภาพในระยะยาว และเป้าหมายต่อไปคือการผลักดันให้บริษัทเติบโตสู่กำลังการผลิต 3 กิกะวัตต์ ซึ่งผมมั่นใจว่าทุกคนจะช่วยกันขับเคลื่อนสู่เป้าหมายนี้ร่วมกัน" นายนิวัตน์ กล่าวทิ้งท้าย 

BCPG กับการเติบโตขยายธุรกิจ Beyond Adder