ชวนชมเทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ "Awakening Bangkok 2020"

ชวนชมเทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ "Awakening Bangkok 2020"

เนรมิตสถานที่สำคัญในย่านเจริญกรุง-บางรัก-ตลาดน้อย ตั้งแต่โรงภาพยนตร์ปรินซ์ อาคารไปรษณีย์กลาง ไปจนถึงบ้านโซว เฮง ไถ่ 

 

กลับมาสร้างความประทับใจอีกครั้งกับ เทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ หรือ Awakening Bangkok 2020 ที่หลายคนรอคอยจาก Time Out Bangkok ที่เนรมิตสถานที่สำคัญในย่านเจริญกรุง-บางรัก-ตลาดน้อย ตั้งแต่โรงภาพยนตร์ปรินซ์ อาคารไปรษณีย์กลาง ไปจนถึงบ้านโซว เฮง ไถ่ ให้กลับมามีสีสันยามค่ำคืน โดยในปีนี้จัดภายใต้ธีม RE/WIND/FAST/FORWARD สะท้อนให้เห็นถึงห้วงเวลาที่ยากลำบากจากสถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) ชวนทุกคนมองย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้น เรียนรู้ ตริตรองอย่างเข้าใจ เพื่อเปิดประตูก้าวไปสู่สิ่งใหม่ได้เร็วและไกลกว่าเดิม โดยได้รับการสนับสนุนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA  และบริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมด้วย Peppermint Field (เป๊ปเปอร์มิ้นท์ ฟิลด์) Prudential (พรูเดนเชียล) และ BGC (บางกอกกลาส)

พบกับการแสดงศิลปกรรมไฟเกือบ 40 ชิ้นงาน จาก 25 ศิลปิน อาทิเช่นไฮไลต์จาก 3 แลนด์มาร์คใหญ่ของงาน ได้แก่ บริเวณหน้าอาคารไปรษณีย์กลาง Warehouse 30 และโรงภาพยนตร์ปรินซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "JOHNNIE WALKER PRESENTS THE GATEWAY, JOURNIE และ TAKE A WALK" 3 ชิ้นงานไฮไลต์จาก 2 กลุ่มศิลปินชื่อดัง "ดอน บอย" (DON BOY) และ "ยิ้ม เสมอ" (YIMSAMER) ที่มาถ่ายทอดประวัติศาสตร์และบทบาทของแบรนด์เชิงสังคมและวัฒนธรรมตลอดช่วงเวลา 2 ศตวรรษของแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกผ่านประติมากรรมแสงที่บอกเล่าถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต นอกจากนั้นยังมี "BGC GLASS STUDIO PRESENTS ARTEMIS, HOW MUCH TIME DO YOU NEED?, LIGHT UP THE CITY และ SOCIAL DISTANCING 2020" 

จากกลุ่มศิลปินจาก BGC Glass Studio ที่หยิบเอาแก้วมาเล่นกับเทคนิคต่างๆ และแสงที่แตกต่างกัน เพื่อค้นหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการสร้างงานศิลปะจากแก้ว สื่อถึงความสัมพันธ์ของแสง เสียง ความมืด และความอ่อนไหวของความรู้สึกต่อสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง "AUTORORA" จาก Autosave Studio กลุ่มนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง ที่นำแรงบันดาลใจจากภาพสะท้อนของเหล่านักรบบนสวรรค์ตามความเชื่อของชาวยุโรปโบราณ มาสร้างชิ้นงานที่จำลองต้นกำเนิดแสงให้ผู้เข้าร่วมได้รับประสบการณ์เหมือนเข้าไปยังจุดศูนย์กลางของแสงเหนือ และผลงาน "CENSORSHIT" จาก  H-LAB ที่ล้อเลียนสภาวะของการมีเรื่องที่พูดไม่ได้หรือไม่อยากพูดถึงราวกับถูกเซ็นเซอร์อยู่ตลอดเวลาผ่านโปรแกรมที่จะแปลทุกข้อความของคุณเป็นรหัสลับรูป emoji ที่มีเพียงคุณและคนที่คุณต้องการให้รับรู้เท่านั้นที่สามารถถอดรหัสนั้นได้

พร้อมร่วมสนุกไปกับ "Silent Disco" ปาร์ตี้หูฟังรูปแบบใหม่ที่ไม่เกิดมลพิษทางเสียงให้รบกวนใจผู้อื่น เพลิดเพลินไปกับการเดินช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพหลากหลายจากแบรนด์ชั้นนำ ฝากท้องอิ่มอร่อยไปกับอาหารเลิศรสจากร้านชื่อดัง และสนุกสนานกับการแสดงคอนเสิร์ตศิลปินจาก What the Duck

นอกจากนี้ที่ Awakening Bangkok ยังเป็นการเปิดตัวแคมเปญ "KEEP WALKING ให้ไกลกว่าเดิม" เพื่อเฉลิมฉลอง 200 ปี จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ อย่างเป็นทางการ โดยรวบรวมผลงานความคิดสร้างสรรค์จาก 3 พาร์ตเนอร์มานำเสนอในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น TKW แบรนด์สตรีตแวร์น้องใหม่จาก TAKARA WONG นำเสนอเสื้อผ้าคอลเลคชันพิเศษ 'Walk Forward' สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการสะท้อนความเป็นตัวตนของตัวเองออกมาผ่านงานดีไซน์ Guss Damn Good (กัสส์ แดมน์ กู๊ด) แบรนด์ไอศกรีมสัญชาติไทย ถ่ายทอดเรื่องราวของแบรนด์ผ่านรสชาติใหม่ของไอศกรีมที่ชื่อว่า Keep Walking โดยใส่ส่วนผสมใหม่ๆ ที่แตกต่างจากกรอบเดิมๆ และร่วมกับ Vesper Cocktail Bar บาร์ชื่อดังที่การันตี ด้วยอันดับที่ 62 จาก World's 50 Best Bars 2020 และรางวัลทรงเกียรติระดับโลกมากมาย มาผสมผสานมิกซ์เซอร์รสชาติใหม่ในรูปแบบกระป๋องครั้งแรก ต่อยอดให้กับคนรุ่นใหม่ในการรังสรรค์ค็อกเทลได้อย่างง่ายๆ ร่วมด้วยการแสดงประติมากรรมไฟสุดยิ่งใหญ่ และการฉายภาพยนตร์สารคดี The Man Who Walked Around The World ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ณ โรงภาพยนตร์ปรินซ์

 

ร่วมท่องราตรีแห่งสีสันไปพร้อมกันได้ ในงาน "เทศกาลแสงไฟประจำปีกรุงเทพฯ" หรือ "Awakening Bangkok 2020" ตั้งแต่วันที่ 11-20 ธันวาคม 2563 และมีบางชิ้นงานที่จัดแสดงถึงวันที่ 4 มกราคม 2564  ย่านเจริญกรุง-บางรัก-ตลาดน้อย สามารถติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมดีๆ ภายในงานได้ทางเว็บไซต์ www.timeout.com/bangkok/th เฟซบุ๊ค : Time Out - กรุงเทพฯ