“บรรยง” หนุน “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจ - ลดปัญหาทุจริต

“บรรยง” หนุน “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจ - ลดปัญหาทุจริต

“บรรยง พงษ์พานิช” หนุนเข้าชื่อ “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจประเทศไทย ชี้ช่วยลดปัญหาคอร์รัปชัน ประชาชนตื่นตัวติดตาม แนะการปฏิรูปย่อมมีคนเสียประโยชน์ ต้องขับเคลื่อนด้วยความเข้าใจ

เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565 ที่อาคารอนาคตใหม่ นายบรรยง พงษ์พานิช นักธุรกิจ และนักวิชาการด้านเศรษฐกิจการคลัง กล่าวบรรยายหัวข้อ “การกระจายอำนาจกับการยกเครื่องทางเศรษฐกิจ” ในงานเปิดตัวแคมเปญ “ขอคนละชื่อปลดล็อกท้องถิ่น” ตอนหนึ่งว่า ตนคิดว่าแคมเปญนี้มีความสำคัญมากในการพลิกฟื้น และปรับโฉมประเทศไทยโดยเฉพาะในทางเศรษฐกิจ แม้ตนไม่ได้สังกัดกลุ่มการเมืองใด แต่ยินดีสนับสนุนในเรื่องที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ โดยขอเป็นอย่างน้อยหนึ่งในห้าหมื่นชื่อที่จะสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญหมวด 14 ซึ่งเนื้อหาในรัฐธรรมนูญเดิมมีเนื้อหาที่ทั้งไม่พอเพียง และไม่มีผลในทางปฏิบัติ ไม่มีเงื่อนเวลา ไม่เกิดผลใดๆ

“บรรยง” หนุน “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจ - ลดปัญหาทุจริต

นายบรรยง กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาทางเศรษฐกิจหลายด้าน การกระจายอำนาจจะเป็นยาขนานสำคัญในการแก้ไข เช่น เป้าหมายทางเศรษฐกิจ ต้องมั่งคั่ง ทั่วถึง ยั่งยืน แต่ประเทศไทยปัจจุบันเจอปัญหาเยอะมากเรื่องความทั่วถึง เราเติบโตแบบกระจุก รวยกระจุกจนกระจาย เรื่องความยั่งยืนไม่ต้องพูดถึง ปีนี้เศรษฐกิจทั่วโลกกระเตื้อง แต่อัตราการฟื้นตัวของไทยต่ำมาก เราเจอปัญหาข้าวของแพง ทำให้ต้นทุนการผลิตพุ่งสูง เจอภาวะ Stagflation เงินเฟ้อสูง แต่การเติบโตไม่เกิดขึ้น  นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเป็นรัฐข้าราชการ ข้าราชการในประเทศไทยกว่า 2 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ที่ส่วนกลางถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนภูมิภาคร้อยละ 21 ขณะที่ข้าราชการท้องถิ่นมี 200,000 คน หรือแค่ 18 เปอร์เซ็นต์ แตกต่างจากญี่ปุ่นที่มีประชากรมากกว่าไทย แต่มีข้าราชการส่วนกลางเพียง 500,000 คน และมีข้าราชการท้องถิ่นถึง 2,500,000 คน

 

“บรรยง” หนุน “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจ - ลดปัญหาทุจริต

นายบรรยง กล่าวอีกว่า ประโยชน์ของการกระจายอำนาจ มีทั้งเพิ่มความหลากหลาย เพิ่มการแข่งขัน เพิ่มโอกาสในการทดลองเปลี่ยนแปลง กำลังเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ของประเทศได้เข้าถึงทรัพยากร และพัฒนาศักยภาพพื้นที่ของเขา ปลดล็อกอัตราการเจริญเติบโตที่ต่ำเตี้ยของไทย และที่สำคัญคือ เพิ่มการตรวจสอบ ลดปัญหาคอร์รัปชัน เพราะเมื่อคนในท้องถิ่นรู้ว่าทรัพยากรเป็นของท้องถิ่น จะเกิดแรงจูงใจในการติดตามดูแล แตกต่างจากส่วนกลางที่คนอาจไม่รู้สึกว่าสำคัญ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าในการปฏิรูปทุกครั้งต้องมีผู้เสียประโยชน์ ถ้าเกิดการกระจายอำนาจ คนที่เสียแน่นอนคือ คนที่กุมอำนาจที่ส่วนกลาง ดังนั้น ต้องทำเรื่องนี้อย่างระมัดระวังและด้วยความเข้าใจ ทำอย่างไรให้ผู้สูญเสียยอมรับหรือไม่มีโอกาสปฏิเสธ

“บรรยง” หนุน “ปลดล็อกท้องถิ่น” ปรับโฉมเศรษฐกิจ - ลดปัญหาทุจริต

นายบรรยง กล่าวด้วยว่า ส่วนความกังวลว่าการกระจายอำนาจจะนำไปสู่การทุจริต ในระยะต้นยอมรับว่าเป็นความจริง เพราะทำให้เกิดมาตรฐานที่ต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่สาเหตุที่เรารู้สึกว่าการทุจริตมีมาก เพราะท้องถิ่นอยู่ในที่สว่าง และเรามองเห็น แต่ต้องไม่ลืมว่าการทุจริตที่เรามองไม่เห็นมีอีกเยอะ โดยเฉพาะการโกงในลักษณะเอื้อประโยชน์ กำจัดการแข่งขัน ล็อกสเปค ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ส่วนกลาง ดังนั้น แม้มีบาง อปท. ที่มีปัญหา แต่ อปท. ที่ดีก็มีเยอะ ต้องยกพวกเขาขึ้นมาให้ประชาชนรู้ เพื่อให้เกิดการเปรียบเทียบและให้ประชาชนสร้างแรงกดดัน ตนเชื่อในพลังของประชาชน ยิ่งทำให้เกิดความเข้าใจในวงกว้าง จะยิ่งส่งผลดีต่อการผลักดันให้เกิดการกระจายอำนาจ นอกจากนี้ แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไม่มีเรื่องกระจายอำนาจเลย ดังนั้น ถ้ามีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนขอให้ช่วยเอาเรื่องนี้ออกไปด้วย

 

 

พิสูจน์อักษร โดย....สุรีย์  ศิลาวงษ์