“ก้าวไกล” โชว์ 3 เหตุผลชนเพื่อคนกรุงฯ-ปลุกเลือก “วิโรจน์” เป็น “ผู้ว่าฯ กทม.”

“ก้าวไกล” โชว์ 3 เหตุผลชนเพื่อคนกรุงฯ-ปลุกเลือก “วิโรจน์” เป็น “ผู้ว่าฯ กทม.”

“พรรคก้าวไกล” โหมโรงปลุกกระแส ทำไม “ผู้ว่าฯ กทม.” ต้องพร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ โชว์วิสัยทัศน์ 3 เหตุผลต้องเลือก “วิโรจน์” สู้ระบบราชการเก่าแก่-ชนรัฐราชการรวมศูนย์-ชนกับกลุ่มทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 พรรคก้าวไกล เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ ภายหลังเปิดตัวนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ของพรรคก้าวไกล โดยระบุถึงเหตุผล ทำไมผู้ว่าฯ กทม.ต้องพร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ ว่า กว่า 47 ปีที่กรุงเทพมหานคร มีผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง เรามีผู้ว่าฯ มาแล้วทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนเก่ง คนมีชาติตระกูล แต่สงสัยหรือไม่ว่าทำไม ปัญหาต่างๆ ของกรุงเทพฯ ถึงยังไม่ได้รับการแก้ไข

ต้องยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า กรุงเทพมหานคร ในฐานะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐราชการรวมศูนย์อย่างประเทศไทย ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ ถ้าไม่ชนกับต้นตอของปัญหา ซึ่งเราเชื่อว่าปัญหาของกรุงเทพฯ ที่ผู้ว่าฯ ต้องชน มีอย่างน้อย 3 เรื่อง

  • เรื่องแรก ต้องชนกับระบบราชการเก่าแก่ของ กทม.

ถึงแม้ประชาชนจะได้เลือกตั้งผู้ว่าฯ เป็นจังหวัดเดียวในประเทศ แต่หน่วยราชการทั้งหมดกลับไม่ทำงานรับใช้ประชาชน ในขณะที่ถนน ทางเท้า และบริการพื้นฐานในชีวิตประชาชนต่างจังหวัดได้รับการดูแลโดยเทศบาล ซึ่งมีความใกล้ชิดกับประชาชน แต่คนกรุงเทพฯ กลับมีสำนักงานเขตที่ห่างไกลกับประชาชน ประชาชนที่รับบริการของ กทม. ยังพบเจอความล่าช้า ระบบส่วย การทุจริต เป็นเรื่องปกติ ถ้าผู้ว่าฯ กทม. ไม่กล้าชนกับระบบราชการของ กทม. เราเชื่อว่าปัญหาพื้นฐานในกรุงเทพฯ จะไม่สามารถแก้ไขได้

  • เรื่องที่สอง ต้องชนกับรัฐราชการส่วนกลางที่รวมศูนย์

เพราะถึงแม้คนกรุงเทพฯ จะได้เลือกผู้ว่าฯ แต่การให้บริการสาธารณะขั้นพื้นฐานส่วนใหญ่ ไม่ได้อยู่ในเขตอำนาจของ กทม.ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการรถเมล์ของ ขสมก. ที่สังกัดกระทรวงคมนาคม, รถไฟฟ้าเป็นของ กทม. เฉพาะสายสีเขียว ส่วนรถไฟฟ้าสายอื่นเป็นของ รฟท.และ รฟม. ที่สังกัดกระทรวงคมนาคม การติดตั้งสายไฟและไฟส่องสว่างอยู่ในเขตอำนาจของการไฟฟ้านครหลวงที่สังกัดกระทรวงมหาดไทย ตำรวจและการจราจรในกรุงเทพฯ เป็นอำนาจของ สตช.

ดังนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาในชีวิตพื้นฐานของคนกรุงเทพฯ เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลส่วนกลางเหล่านี้ ที่ผ่านมาเรามีผู้ว่าฯ ที่ประสานงานกับทุกฝ่าย หรือแม้แต่แต่งตั้งมาด้วย ม.44 แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ที่เรายังไม่มีจริงๆ คือผู้ว่าที่พร้อม "ชน" กับหน่วยงานเหล่านี้เพื่อแก้ปัญหาของคนกรุงเทพฯ

  • เรื่องสุดท้าย คือการชนกับกลุ่มทุน ที่สัมพันธ์กับทุกอณูการใช้ชีวิตของกรุงเทพฯ

การให้บริการสาธารณะและการจัดการเมือง สัมพันธ์อย่างแยกไม่ออกกับกลุ่มทุน ที่เห็นได้ชัดคือการให้สัมปทานรถไฟฟ้า การก่อสร้างห้างสรรพสินค้าและอาคารสูง ที่หลายครั้งผู้ว่าฯ กทม. "ประสานงาน”, "ขอความร่วมมือ”, "ไม่สามารถดำเนินการได้”, “ไม่อยู่ในเขตความรับผิดชอบ” ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนเหล่านี้

ไม่ใช่ผู้ว่าฯ ที่ผ่านมามองไม่เห็นปัญหา แต่เป็นเพราะผู้ว่าฯ ที่ผ่านมา ไม่กล้าชนกับผลประโยชน์ ทิ้งให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ ต้องรับกรรม

47 ปี นับตั้งแต่กรุงเทพฯ มีผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง เรามีผู้ว่าฯ มาแล้วทุกแบบ แต่ปัญหายังคงอยู่ไม่ได้รับการแก้ไข เพราะเรายังไม่มีผู้ว่าฯ ที่กล้าชนกับปัญหาฐานรากเหล่านี้ ไม่กล้าชน พรรคก้าวไกลเชื่อว่าเราไม่มีทางแก้ปัญหาคนกรุงเทพฯ ได้ หมดเวลาซุกปัญหาไว้ใต้พรม ถึงเวลา #วิโรจน์ ผู้ว่าฯ ที่ #พร้อมชนเพื่อคนกรุงเทพฯ