“วิโรจน์” ลงพื้นที่-โชว์กึ๋นแก้ปัญหา หลัง คฝ.ขับบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย”

“วิโรจน์” ลงพื้นที่-โชว์กึ๋นแก้ปัญหา หลัง คฝ.ขับบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย”

“วิโรจน์” ประเดิมงานแคนดิเดต “พ่อเมือง กทม.” วันแรก! ลงพื้นที่ “ทางม้าลาย” หลังเกิดเหตุ ตร.คฝ. ควบ “บิ๊กไบค์” ชน “หมอกระต่าย” เสียชีวิต โชว์กึ๋นแก้ปัญหา ต้องมีเส้นชะลอความเร็ว-ไฟส่องสว่าง-สัญญาณไฟ กทม.ต้องเป็นเจ้าทุกข์แจ้งความทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 บริเวณหน้าโรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์ เขตพญาไท กทม. นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมคณะ ลงพื้นที่ครั้งแรก ภายหลังเปิดตัวเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ของพรรคก้าวไกล เพื่อตรวจสอบทางม้าลายภายหลังเกิดเหตุตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ขับบิ๊กไบค์ชน พญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือ “หมอกระต่าย” ขณะข้ามทางม้าลายหน้า รพ.สถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์เสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา

นายวิโรจน์ กล่าวภายหลังทดลองเดินข้ามทางม้าลายที่เกิดเหตุว่า บริเวณทางม้าลาย กทม. ต้องมีเส้นชะลอความเร็ว ,ไฟส่อง สว่าง ,ไฟสัญญาณ , กล้องวงจรปิด , กล้องตรวจจับความเร็วฯ เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น กทม.ต้องเป็นเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีทันทีเพื่อปกป้องชีวิตทุกคน สร้างค่านิยมใหม่ในการใช้รถใช้ถนน และ กทม.ต้องอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ถนนบนทางเท้า

นายวิโรจน์ กล่าวว่า มาดูโครงสร้างปัญหา มาดูว่าทางวิศวกรรมจะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง คนกรุงเทพเราใช้ชีวิตด้วยความเสี่ยง ต้องดูแลความปลอดภัยของตัวเองตลอดเวลา แต่เวลาเกิดเหตุมักมีคำว่าเหตุใดไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอง จึงเป็นคำถามว่าตกลงกรุงเทพมหานครจะผลักภาระให้ประชาชนอย่างเดียวหรือ และหน้าที่ที่สร้างความปลอดภัย อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ควรเป็นหน้าที่ของรัฐ เเละผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะพ่อเมืองใช่หรือไม่

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า วันนี้พฤติกรรมของประชาชนทุกอย่างยังเหมือนเดิม การเดินข้ามถนนต้องรีบวิ่งหลบรถกันอยู่ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องผิดปกติมาก คันที่อยู่เลนขวาบางทีเร่งเครื่องขึ้นมา ทั้งที่เป็นจุดบอดบนท้องถนน ถ้าหากเห็นรถข้างๆจอดเราต้องเอะใจ

“วิโรจน์” ลงพื้นที่-โชว์กึ๋นแก้ปัญหา หลัง คฝ.ขับบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย”

"เราต้องชะลอไว้ก่อนไม่ใช่เหยียบคันเร่งใส่เลย แต่จะโทษนิสัยคนขับรถอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องมีกลไกหรือระบบเตือนใจ ตรงนี้สำคัญ กทม.จะต้องมีเส้นชะลอความเร็ว ต้องมีไฟส่องสว่าง ไฟสัญญาณต้องมี กล้องวงจรปิดต้องมี กล้องตรวจจับความเร็วต้องมี อุปกรณ์เหล่านี้ต้องมี นอกจากเทคโนโลยีแล้ว การดูแลเมืองต้องใส่หัวใจไปด้วย สังคมต้องร่วมกันต่อสู้และยอมรับว่า ทางข้ามต้องปลอดภัย คนข้ามต้องปลอดภัยเป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะมีอาชีพใด เพศไหน แค่ไม่กี่ตารางเมตรตรงนี้ต้องปลอดภัยได้” วิโรจน์ กล่าว 

ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.พรรคก้าวไกล กล่าวอีกว่า เมื่อมีเหตุเกิดขึ้น กรุงเทพมหานครต้องเป็นเจ้าทุกข์ไปแจ้งความดำเนินคดีให้มีการเปรียบเทียบปรับเกิดขึ้นได้ทันทีเพื่อปกป้องชีวิตทุกคน แม้เราไม่มีหน้าที่ปรับโดยตรง แต่เรารวบรวมพยานหลักฐานไปแจ้งความได้โดยไม่ต้องรอเจ้าทุกข์ เมื่อจับและตัดแต้มเรื่อย ๆ เราจะสามารถสร้างค่านิยมใหม่ในการใช้รถใช้ถนนได้ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการสร้างสะพานลอยเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะประชาชนต้องการเดินข้ามถนนด้วยทางข้าม กรุงเทพมหานครไม่ควรสร้างภาระให้ประชาชน เเต่ควรอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เราต้องให้ความสำคัญกับประชาชนที่ใช้ถนนบนทางเท้า หากวันนึงคนที่ประสบอุบัติ เป็นพี่น้องเรา เป็นครอบครัวเรา เราต้องรับผิดชอบ มีจิตสำนึกต่อสิ่งที่เกิดขึ้น

"คนที่เป็นพ่อเมืองหรือพ่อบ้านต้องไม่ท้อ เราต้องเป็นเหมือนพ่อบ้านจู้จี้จุกจิก แต่เพื่อความปลอดภัยของทุกคน ผู้ว่าฯ ต้องเป็นพ่อเมืองที่เข้าใจหัวอกของทุกคน" นายวิโรจน์ กล่าว

“วิโรจน์” ลงพื้นที่-โชว์กึ๋นแก้ปัญหา หลัง คฝ.ขับบิ๊กไบค์ชน “หมอกระต่าย”