ขุมข่ายธุรกิจ “น้ำหอม สุภาพร-ตาร์ท อิสรพงษ์” 2 ส.ส.ปชป.สงขลา-ชุมพรป้ายแดง

ขุมข่ายธุรกิจ “น้ำหอม สุภาพร-ตาร์ท อิสรพงษ์” 2 ส.ส.ปชป.สงขลา-ชุมพรป้ายแดง

ขุมข่ายธุรกิจ 2 ส.ส.ปชป.ป้ายแดง ชนะศึก “เลือกตั้งซ่อม” ชุมพร-สงขลา “ตาร์ท อิสรพงษ์ มากอำไพ” หลาน “ลูกหมี ชุมพล” นั่งกรรมการ 3 แห่ง “ร้าง-เสร็จชำระบัญชี” หมดแล้ว “น้ำหอม สุภาพร” ภริยา “นายกชาย” ทำธุรกิจ 7 แห่ง ดำเนินกิจการอยู่ 3 แห่ง อสังหาฯ-โรงแรม-รับเหมาฯ-ขายส่งผลิตภัณฑ์อาหาร

จบลงไปแล้วสำหรับลิเกโรงใหญ่ ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร และสงขลา จบลงด้วยชัยชนะของ “ค่ายสะตอพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เจ้าของพื้นที่เดิมทั้ง 2 เก้าอี้

ในส่วนของชุมพรนั้น “ตาร์ทอิสรพงษ์ มากอำไพ ชนะ “ทนายแดง” ชวลิต อาจหาญ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขาดลอยกว่าหมื่นคะแนน ส่วนสงขลาเบียดกันดุเดือด “น้ำหอมสุภาพร กำเนิดผล ภริยา “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ปชป.ภาคใต้ เฉือนชนะ อนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.พปชร. ไป 5,000 คะแนนเศษ

อย่างไรก็ดีแม้สงครามจะจบลงแล้ว แต่เหมือนฝ่าย พปชร.ดูท่าจะไม่จบง่าย เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. โหมโรงหลังรู้ผลคะแนน อ้างว่า มีการจับ “ทุจริต” แบบเห็นจะ ๆ หลักฐานแบบจะ ๆ โอนเงินผ่านบัญชี ในพื้นที่การเลือกตั้งซ่อมดังกล่าว ทว่าฝ่าย ปชป. ทั้งนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการ ปชป. และ “นายกชาย” ดาหน้าออกมาตอบโต้ขอให้จบคือจบ อย่าโวยวาย เพราะประชาชนตัดสินแล้ว แถมถามกลับใครน่าจะโกงกว่ากัน

ประเด็นคาราคาซังดังกล่าว คงต้องรอให้ฝ่าย พปชร.ร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อพิจารณาวินิจฉัยกันต่อไป

มาทำความรู้จัก 2 ส.ส.ป้ายแดงกันบ้าง

เริ่มกันที่ชุมพร ภายใต้บารมี “จุลใสแฟมิลี่” กำลังเบ่งบานถึงขีดสุด ส่ง “ตาร์ท” อิสรพงษ์ มากอำไพ วัย 33 ปี หลาน “ลูกหมี-ชุมพล จุลใส” อดีต ส.ส.ปชป. เข้าวินไปอย่างไม่ลำบากนัก โดย “ตาร์ท” เป็นบุตรของหลานภริยานายชุมพล และเป็นอดีตเลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ชุมพร คือนายนพพร อุสิทธิ์ มีศักดิ์เป็น “พี่เขย” ของนายชุมพล

ขุมข่ายธุรกิจ “น้ำหอม สุภาพร-ตาร์ท อิสรพงษ์” 2 ส.ส.ปชป.สงขลา-ชุมพรป้ายแดง

ในมุมธุรกิจ “ตาร์ท” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 3 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2565 พบว่า ทั้ง 3 แห่ง แจ้งสถานะ “ร้าง-เสร็จชำระบัญชี-เลิกกิจการ” ไปหมดแล้ว ได้แก่

1.บริษัท บีที โกลด์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2555 ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้างเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2563 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 54/28 ซอยประชาอุทิศ 3 ดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการค้าปลีก ส่ง นำเข้า ส่งออก อุปกรณ์ประหยัดน้ำมันสำหรับรถยนต์ทุกชนิด ปรากฏชื่อ นายชาคริต แสวงหาบุญ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นกรรมการ

ไม่มีข้อมูลงบการเงิน

2.บริษัท เจนเนอรัล สปอร์ต คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2560 แจ้งเลิกกิจการ 25 ส.ค. 2560 เสร็จชำระบัญชี 8 ก.ย. 2560 (ระยะเวลาเปิดบริษัทราว 9 เดือน) ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 113/8 ถนนกรมหลวงชุมพร ต.ท่าตะเภา อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร วัตถุประสงค์ตอนจดทะเบียน ประกอบกิจการสถานบริการฟิตเนส ออกกำลังกาย ปรากฏชื่อ นายพลวรรธน์ พิชิตชลพันธุ์ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นกรรมการ

ไม่มีข้อมูลงบการเงิน

3.บริษัท โอคิว กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2558 แจ้งเลิกกิจการ 28 ต.ค. 2564 เสร็จชำระบัญชี 21 ธ.ค. 2564 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 339/138 ถนนเชิดวุฒากาศ สีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด จำหน่ายและให้บริการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ปรากฏชื่อ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 2,000 บาท รายจ่ายรวม 5,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 3,000 บาท

ขุมข่ายธุรกิจ “น้ำหอม สุภาพร-ตาร์ท อิสรพงษ์” 2 ส.ส.ปชป.สงขลา-ชุมพรป้ายแดง

ถัดมา “น้ำหอม” สุภาพร กำเนิดผล ภริยา “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา ที่นับวันเริ่มแผ่บารมีอิทธิพลเคียงคู่ไปกับ 2 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งสงขลาอย่าง “ถาวร เสนเนียม” ที่หลบฉากเก็บตัวอย่างเงียบเชียบในช่วงศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งดังกล่าว ขณะที่ “นิพนธ์” เดินสายปราศรัยหาเสียงร่วมกับแกนนำ ปชป.

ในมุมธุรกิจ “น้ำหอม” เป็นกรรมการบริษัทอย่างน้อย 7 แห่ง (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ยังดำเนินกิจการอยู่ 4 แห่ง ได้แก่

1.บริษัท ทรัพย์สมบัติ 2018 จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2561 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 52/4 ถนนกาญจนวณิชย์ ซอย 17/1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ซื้อขายแลกเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ ปรากฏชื่อ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล นายวงศ์วชิระ ขาวทอง (บุตรชาย ปัจจุบันเป็น ส.อบจ.สงขลา) เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 7,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,000 บาท

2.บริษัท แอล เอส โกลบอล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2551 ทุนปัจจุบัน 20 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 117 ถนนคลองเรียน 1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ประกอบกิจการโรงแรม ปรากฏชื่อ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล นายเดชอิศม์ ขาวทอง (นายกชาย) เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 9,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 9,000 บาท

3.บริษัท โกลด์ ไดมอน พร็อพเพอตี้ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2559 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 52/4 ถนนกาญจนวณิชย์ ซอย 17/1 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ขายส่งผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ปรากฏชื่อ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล นายวงศ์วชิระ ขาวทอง เป็นกรรมการ

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 7,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 7,000 บาท

4.บริษัท ไทยอินเตอร์ เอส ดี กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2553 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 113 หมู่ที่ 9 ต.ป่าชิง อ.จะนะ จ.สงขลา วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด ก่อสร้างขุดถมดินปรับระดับพื้นที่ก่อสร้าง ปรากฏชื่อ นางสาวสุภาพร กำเนิดผล เป็นกรรมการรายเดียว

นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2563 มีรายได้รวม 12,994,382 บาท รายจ่ายรวม 13,595,826 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 312,135 บาท ขาดทุนสุทธิ 913,579 บาท

ส่วนอีก 3 แห่งแจ้งว่า “ร้าง-เสร็จชำระบัญชี” ได้แก่ 1.บริษัท ชาลีวอง จำกัด ทำธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง 2.หจก.เจ.เอ็ม.เซาท์เทิร์น เอ็นจิเนียริ่ง ทำธุรกิจการก่อสร้างอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย เสร็จการชำระบัญชี และ 3.บริษัท โกลด์ ไดมอนด์ มิเนรัล จำกัด ถูกนายทะเบียนขีดชื่อว่าร้าง

ทั้งหมดคือแง่มุม “ขุมข่ายธุรกิจ” ของ 2 ส.ส.ป้ายแดง “ค่ายสะตอ” ที่เตรียมเข้าไปทำหน้าที่ในสภา อย่างน้อยอีก 13-14 เดือนนับจากนี้ หากไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองทำให้ต้อง “พ้นเก้าอี้” ไปเสียก่อน