ศึกชุมพร กปปส. VS พปชร. เกมปชป. แยกพลัง “ 2 ป.”

ศึกชุมพร กปปส. VS พปชร.   เกมปชป. แยกพลัง “ 2 ป.”

“ประชาธิปัตย์-จุลใสแฟมิลี่” ทำให้คนชุมพรต้องการแยก “ประวิตร-ธรรมนัส” ออกจาก “ประยุทธ์” ทำให้แฟนคลับของ “ประยุทธ์” รับรู้ว่าพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคของ “ประยุทธ์” แต่เป็นพรรคของ “ประวิตร-ธรรมนัส”

จุดเปลี่ยนที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตัดสินใจนาทีสุดท้ายส่ง “ทนายแดง” ชวลิต อาจหาญ ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร คือการที่ “2 ขุนพล กปปส.” เข้าพบ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2564

คล้อยหลังปฏิบัติการของ “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” อดีตรมว.ศึกษาธิการ “สกลธี ภัททิยกุล” รองผู้ว่าฯกทม. เพียง 1 วัน “ประวิตร” นัดประชุมกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐแบบเร่งด่วน เพื่อเคาะชื่อ “ทนายแดง” ลงชิงเก้าอี้

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ “ประวิตร” ยืนยันต่อกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐว่า “เขา (ตระกูลจุลใส) มาอยู่กับเรา 100 เปอร์เซ็นต์” ดังนั้นการเปลี่ยนใจหลัง “2 ขุนพล กปปส.” เข้าพบ “ประยุทธ์” จึงส่งสัญญาณระแวง “ตระกูลจุลใส” จะเบี้ยวสัญญาอย่างชัดเจน

เพราะต้องยอมรับว่า “ลูกหมี” ชุมพล​ จุลใส​ อดีตส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ หัวหอก “จุลใสแฟมิลี่” สนิทชิดเชื้อกันดีกับ “ณัฏฐพล-สกลธี” แถมยังเป็นสายตรงของ “ลุงกำนัน” สุเทพ​ เทือกสุบรรณ​ ทำให้ “ประวิตร” ระแวง “ลูกหมี” จะผิดสัญญา

​ส่งผลให้การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 ชุมพร เป็นมากกว่าศึกพรรคประชาธิปัตย์ สู้กับพรรคพลังประชารัฐ แต่กลายเป็นศึก “กปปส.” VS “ประวิตร” ซึ่งรับรู้กันอยู่แล้วว่า “ขั้วกปปส.” ที่เคยยิ่งใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐ โดน “ประวิตร” เขี่ยทิ้ง โดยมีปฏิบัติการของ “ลูกหาบ” คอยยุยง

เมื่อเกิดศึกหลายด้าน การหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร จึงดุเดือดเป็นพิเศษ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 ม.ค.2564 คนชุมพรตื่นเต้นกันทั้งเมือง เมื่อ 2 พรรคใหญ่ ตั้งเวทีปราศรัยห่างกันแค่ 600 เมตร โดยพรรคประชาธิปัตย์ปักหลักที่เทศบาลตำบลนาโพธิ์ อ.สวี และพรรคพลังประชารัฐ ตั้งเวทีที่ตลาดสวี แถวสถานีรถไฟสวี

โดย “ประวิตร” ยกทัพใหญ่ไปเปิดปราศรัยในเขต 1 ชุมพร เป็นครั้งแรก “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ประกาศเสียงดังกลางเวทีว่า “ศึกนี้แพ้ไม่ได้”

การปรากฏตัวของ “ธรรมนัส” บ่งบอกชัดเจนว่า “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมโดยตำแหน่งเท่านั้น เพราะแม่ทัพตัวจริงก็คือ “ธรรมนัส” ซึ่งทำงานประสานกับ “ศิริศักดิ์ อ่อนละมัย” อดีต ส.ส.ชุมพร ที่แปรพักตร์จาก ประชาธิปัตย์มาอยู่พลังประชารัฐ

ศึกเลือกตั้งซ่อมที่ชุมพรแตกต่างจากที่จ.นครศรีธรรมราชอย่างสิ้นเชิง ประชาธิปัตย์โชว์ลูกเก๋าโจมตีจุดอ่อนของ “ประวิตร-พลังประชารัฐ” ทันที ด้านการปูดข่าว “เสธ.ต.-ลูกน้อง” กล่าว 100 คน บุกชุมพร ทำให้สถานการณ์เลือกตั้งชุมพร เขต 1 ร้อนฉ่าขึ้นมาโดยพลัน

ก่อนที่ “พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์” แม่ทัพภาคที่ 4 ออกมายืนยันว่าไม่มีทหารในกองทัพภาคที่ 4 เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่กลับมีรายงานข่าวผ่านนักข่าวสายทหารว่า มีการตรวจสอบภายในพบ เสธ.ต. เป็นผู้บังคับหน่วยทหารม้าในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 และเป็นคนสนิทอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 คนหนึ่ง ซึ่งยังทำงานให้พรรคใหญ่

ขณะที่ “ศิริศักดิ์” ออกมาบอกว่า ไม่เคยได้ยินข่าว และไม่รู้ว่า เสธ.ต. คือใคร เพราะตอนนี้มีแต่ เสี่ย ต. คือตนเองที่มีชื่อเล่นว่า “ตึ๋ง” เท่านั้น

ว่ากันว่าการเปิดประเด็น “เสธ. ต.” แถมโยงหาบิ๊กพรรคใหญ่ ทำให้ “ผู้มากบารมี” ไม่พอใจอย่างมาก สั่งจัดทัพใหญ่บุกชุมพร ประกาศจะเปิดเวทีใหญ่อีก 2 ครั้งคือ 12 ม.ค. และ 15 ม.ค.65 หวังเอาชนะ “ประชาธิปัตย์-จุลใสแฟมิลี่” ให้ได้

ทว่าฝากฝั่ง “ประชาธิปัตย์-จุลใสแฟมิลี่” โจมตีจุดอ่อนของ “ประวิตร-ธรรมนัส” อีกรอบ โดย “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” ส.ส.ตรัง เป็นผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อมเขต 1 ชุมพร ปราศรัยย้ำทุกเวทีว่า “ลูกหมี คือคนที่ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง และยังเป็นคนที่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี”

นอกจากนี้ “สาทิตย์” ยังปูดแผนล้มประยุทธ์ในสภาฯ และเล่าเรื่องดีลลับของนักการเมืองใหญ่บางคนกับคนดูไบ ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่รู้จริงหรือเท็จ

“สาทิตย์” วาดภาพหวังให้คนชุมพรตาสว่างว่า “ประวิตร-ธรรมนัส” จ้องล้ม “ประยุทธ์” กลางสภามาแล้ว ต่างจาก “ลูกหมี-จุลใสแฟมิลี่” ที่สนับสนุนให้ “ประยุทธ์” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ตั้งแต่สมัยเป็นแกนนำกปปส.

การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 1 จ.ชุมพร ต้องวัดใจ “คนชุมพร” ว่าจะเทคะแนนให้พรรคพลังประชารัฐมากน้อยแค่ไหน เพราะแนวทางการหาเสียงของ “ประชาธิปัตย์-จุลใสแฟมิลี่” ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการแยก “ประวิตร-ธรรมนัส” ออกจาก “ประยุทธ์” ทำให้แฟนคลับของ “ประยุทธ์” รับรู้ว่าพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคของ “ประยุทธ์” แต่เป็นพรรคของ “ประวิตร-ธรรมนัส”

ต้องจับตาว่ากลเกมของ “ประชาธิปัตย์-จุลใสแฟมิลี่” จะทำให้ “อิสรพงษ์ มากอำไพ” คว้าชัยได้หรือไม่