"ประวิตร" เผยไม่รู้ บัตรเลือกตั้ง2ใบ พปชร.-พท. ได้เปรียบหรือไม่ โยนถามปชช.

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเลื่อนงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล จากเดิม 26พ.ย. ไปเป็นวันที่ 3 ธ.ค.นี้แทนว่า ส.ส.ติดธุระเยอะและเกี่ยวกับการประชุมสภา 

เมื่อถามถึงการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแก้ไข เป็นบัตรเลือกตั้ง2ใบ พปชร.  ประเมินภายในหรือไม่ว่า ได้เปรียบหรือเสียเปรียบ พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า "ไม่รู้ สองใบก็ต้องสองใบ ก็ต้องเลือกกันไป ก็แล้วแต่ประชาชน"  

เมื่อถามว่า มีการวิเคราะห์ว่าพรรคที่ได้เปรียบคือพรรคขนาดใหญ่ เช่น พปชร. และพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร ว่าได้เปรียบหรือไม่ได้เปรียบ ต้องไปถามประชาชนว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ  

เมื่อถามว่า มีการวิเคราห์ว่าบัตร2ใบจะเข้าทางพรรคเพื่อไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็แล้วแต่ประชาชน เมื่อถามว่าจะส่งผู้สมัครส.ส. แบบแบ่งเขตทั้ง 400 คน หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ระบุเพียงแค่ว่า ก็ต้องเตรียมพร้อม ส่วนจะมีการประชุมใหญ่เมื่อใดนั้น ยังไม่รู้

ขณะที่นาย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงระบบเลือกตั้งใหม่ว่า "ใบไหนก็ได้” 

ทั้งนี้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ข้อดีคือ พรรคการเมืองไม่จำเป็นต้องส่งผู้สมัครส.ส.ครบ 400 เขต แต่หากเป็นบัตรใบเดียวจำเป็นต้องส่งทุกเขต เพราะหากไม่ส่งก็จะไม่ได้คะแนน ในฐานะพรรคการเมืองเมื่อเปลี่ยนกติกาก็ต้องทำตามกรอบกติกา

"พรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่ลดลงหรอก พรรคมีความคิดจะเพิ่มจำนวนส.ส.แต่ต้องดูว่าเมื่อผลออกมาแล้วจะเป็นอย่างไร" นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า จากประสบการณ์ตอนรัฐธรรมนูญ 2540 บัตรเลือกตั้ง2ใบและเป็นเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ประชาชนไม่เกิดความสับสน พรรคการเมืองก็ไม่สับสน สะดวกต่อการหาเสียง 

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. ระบุว่า ระบบเลือกตั้งบัตร 2 ใบจะทำให้พรรคขนาดเล็กสูญพันธุ์ นายวราวุธ กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์การเลือกตั้งในแต่ละครั้งจะมีปัจจัยที่กระทบต่อการเลือกตั้งแตกต่างกันไป ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีกพอสมควร ตนคิดว่าเร็วเกินไปที่จะประเมินว่าพรรคเล็กสูญพันธุ์หรือพรรคใหญ่ได้เปรียบ เพราะทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้เสมอซึ่งต้องคอยดูกันต่อไป

เมื่อถามว่ากรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ประกาศว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเจาะพื้นที่สุพรรณบุรีให้ได้ นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นสิทธิที่จะพูดทุกคนคิดได้  ทำได้ แต่ความเป็นจริงจะเป็นอย่างไรว่ากันอีกที และพรรคไม่ได้มีความกังวล 

นายวราวุธ กล่าวว่า จริงอยู่ที่นายพิธา พูดว่าสุพรรณบุรีไม่ได้เป็นของใคร แต่ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งพรรคชาติไทยพัฒนาตั้งแต่เป็นพรรคชาติไทย ก็หาเสียงและทำงานให้จังหวัดได้อย่างดีที่สุดในหลาย 10 ปีที่ผ่านมา จึงเป็นสิทธิที่แต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครมา ซึ่งเป็นหน้าที่ของผู้สมัครและส.ส.คนเดิมในพื้นที่ที่จะต้องปกป้องพื้นที่ตัวเองที่เหลือก็เป็นไปตามครรลอง