'ก้าวไกล'ยืนยันไปร่วมชุมนุมกับ'คณะราษฎร'วันที่'14ตุลาฯ'

'ก้าวไกล'ยืนยันไปร่วมชุมนุมกับ'คณะราษฎร'วันที่'14ตุลาฯ'

"พิธา" ควง "เลขาฯก้าวไกล" ลงพื้นที่ปทุมธานี ชาวบ้าน สะท้อน ค้าขายลำบาก ย้ำ มีกระบวนการเตะถ่วง "แก้รธน." ดักคอ หากสภาตีตก 6 ร่าง สามารถนำร่าง "ไอลอว์" แทนได้ ยัน ไปร่วมชุมนุม "คณะราษฎร" 14ตุลาฯ

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค และ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์  ลงพื้นที่ตลาดสะพานแดง คลอง 1 จังหวัดปทุมธานี รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชน ตามโครงการพรรคก้าวไกลสำรวจพื้นที่คลองรังสิตเพื่อแบ่งเบาปัญหาจราจรบนถนนรังสิต - นครนายก ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ก็ได้สะท้อนว่า การค้าขายเป็นไปอย่างลำบาก เพราะมีจำนวนลูกค้าน้อยลง สำหรับบรรยากาศ ก็เป็นไปด้วยความอบอุ่น มีตัวแทนของว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ

จากนั้นได้ลงพื้นที่ต่อไปยังจุดที่ 2 เข้านมัสการเจ้าอาวาสวัดเขียนเขต พร้อมกันนี้ นายพิธา ให้สัมภาษณ์ถึงกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของกรรมาธิการศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมก่อนรับหลักการ ว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นการเตะถ่วงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยังเชื่อว่าตามข้อบังคับของรัฐสภาข้อที่ 41 ที่กำหนดว่าเป็นดุลพินิจของประธานสภา เห็นว่าเป็นเรื่องจำเป็น หาก 6 ญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญถูกตีตกไป ยังสามารถนำร่างแก้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนของไอลอว์เข้ามาพิจารณาได้ แม้ว่าจะมีการเตะถ่วงมาแล้ว 1 เดือนก็ยังมีความหวังที่จะนำกลับมาพูดคุยอีกครั้งในสมัยประชุมหน้า

นายพิธา กล่าวถึงการชุมนุมของคณะราษฎร ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ว่า เราจะต้องรู้สึกรู้ร้อนรู้หนาวถึงความต้องการของประชาชน รวมถึงรู้ร้อนถึงปัญหาวิกฤตการเมือง ความเชื่อมั่นของประชาชน หากรัฐบาลต้องการผ่อนอุณหภูมิทางการเมือง เห็นว่าอย่างน้อยควรมีการโหวต เพื่อให้ได้ข้อสรุปถึงทิศทางการแก้กฎหมายของประเทศว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะหากเตะถ่วงต่อไปจะไม่เป็นผลดีและเป็นการเพิ่มอุณหภูมิทางการเมือง หากสภาไม่สามารถเป็นหลักในการแก้ปัญหาให้ประชานได้ เท่ากับว่าเป็นการผลักปัญหาของประชาชนออกไปนอกสภา พร้อมกันนี้ยังเรียกร้องไปยังภาครัฐ ตำรวจ ให้ดูแล คุ้มครองการชุมนุมของประชาชนให้เป็นไปตามสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ส่วนข้อห่วงกังวลว่าอาจจะมีการเผชิญหน้ากันของประชาชนรวมถึงตามกำหนดการมีการใช้เส้นทางขบวนเสด็จที่ใกล้กับที่ชุมนุม นายพิธาเชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยได้ พร้อมยืนยันว่าจะไปร่วมชุมนุมในวันดังกล่าวด้วย

ส่วนกรณีที่มีการเปิดเผยจาก Twitter ว่า ประเทศไทยมีการใช้ account ปลอม และมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพบก มากเป็นอันดับ 1 กว่า 900 รายชื่อนั้น นายพิธา ระบุว่า เรื่องนี้ทำให้ตนมีความสงสัยถึงจุดยืนของกองทัพ และรัฐบาล เพราะตอนที่ตนเป็นกรรมาธิการงบประมาณ ที่ได้เข้าฟังกองทัพบกชี้แจง  ก็ระบุว่าไม่มีการใช้งบประมาณไปจัดทำในประเด็นดังกล่าว แต่ในขณะเดียวกันเจ้าของ Twitter ก็ระบุว่าประเทศไทยเป็นระดับหนึ่ง ในการใช้ account ปลอมเพื่อสร้างความแตกแยก และความเกลียดชังในพื้นที่ Social Media ซึ่งจะเห็นได้ชัดในเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมือง  ตนมองว่าควรที่จะเสนอข้อเท็จจริง ไม่ใช่ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก โดยคนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีที่สุด ก็คือนายวิโรจน์  ที่ได้เป็นผู้เปิดประเด็นเรื่องนี้ และเป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกปฏิบัติการไอโอโจมตีมากที่สุด ทั้งนี้ประเทศไทย ไม่ควรที่จะได้รับยกให้เป็นอันดับ 1 ในเรื่องดังกล่าว และ ไม่ควรที่จะถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำอันดับ 1แต่ควรจะเป็นในเรื่องของ ส่งออกการเกษตรการส่งออกและเรื่องของเศรษฐกิจหลังประสบปัญหาโควิด-19 มากกว่า ตนอยากจะฝากไปถึงกองทัพ ให้มีการชี้แจงข้อสงสัย ให้ของประชาหายเคลือบแคลงใจ

สำหรับการลงพื้นที่ของพรรคก้าวไกลในวันนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่ามารับฟังปัญหาในแคมเปญของพรรคก้าวไกลสัญจร เพื่อที่จะนำปัญหาต่างๆจากประชาชนไปหารือถึงการแก้ไขในสภา โดยหนึ่งแนวทางแก้ไขปัญหาได้หยิบยกเรื่องปัญหาการจราจรโดยใช้การสัญจรทางเรือ โดยอ้างอิงงบประมาณรายจ่ายปีตั้งแต่ปี 2561 -2565 ของจังหวัดปทุมธานี ว่ามีการจัดสรรงบ 45,000 ล้านบาท แต่กลับยังไม่สามารถตอบสนองแก้ไขปัญหาการจราจรในพื้นที่ได้ พร้อมกันนี้ได้นำเรื่องการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในสภาเมื่อปลายเดือนกันยายนมาทำความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบ ขณะเดียวกันก็มาพบกับสมาชิกพรรคก้าวไกลด้วย

ทั้งนี้กำหนดการหลังจากนี้ พรรคก้าวไกลจะลงพื้นที่ต่อไปยังชุมชน บริเวณวัดมูลจินดาราม และจะไปจบที่จุดสุดท้ายคือ ตลาดมหาลาบ คลอง 4