'ปาร์ตี้ลับ' การข่าวตร.ไม่ถึง ผลตรวจ 'พริตตี้' สุราเกิน

ตร.รับปัญหา "ปาร์ตี้ลับ" การข่าวเข้าไม่ถึง เหตุจัดเฉพาะกลุ่ม สื่อสารส่วนตัว แก้ได้แค่ปลายเหตุ จัดสายตรวจ ตั้งด่านดักยึดยาเสพติด-อาวุธ แนะพริตตี้รับงานระวัง ขณะที่ผลชันสูตร "ลัลลาเบล" พบแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 400 มล.ก. หลัง25 ก.ย.ชัดเจน "หมายจับ-ข้อหา"
คดีการเสียชีวิตของพริตตี้สาว วัย 25 ปี น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบล ที่พบกลายเป็นศพ หลังจากถูกนายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น พริตตี้บอย อุ้มมาวางไว้บนโซฟาล็อบบี้ของคอนโดมิเนียม ย่านราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา ท่ามกลางการเผยแพร่คลิปวีดิโอและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการจัดงานปาร์ตี้ ที่เผยให้เห็นถึงพฤติกรรมของกลุ่มคนที่ส่อไปในทางคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศกับเหยื่อ ที่อยู่ในอาการขาดสติจากฤทธิ์เครื่องดื่มมึนเมา
วานนี้ (23 ก.ย.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง โฆษก ตร.) ชี้แจงถึงนโยบายของ ตร.ว่า เรื่องนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ได้สั่งไปตั้งแต่ก่อนเกิดเรื่อง โดยเฉพาะการมอบหมายให้ทุกพื้นที่กวดขันสถานบันเทิง แหล่งมั่วสุม ที่อาจมีเรื่องยาเสพติดเข้าไปเกี่ยวข้องกับเยาวชน รวมถึงการจัดงานในลักษณะนี้ ที่เป็นเรื่องส่วนของผู้จัดและผู้มาร่วมงานสามารถกระทำได้ก็ตาม แต่ความเป็นส่วนตัวนั้นจะต้องไม่สุ่มเสี่ยงใน 3 ประเด็น คือ 1.ไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 2.ไม่ใช้เสียงดัง สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชน และ3.ต้องไม่มีการละเมิดทางเพศ
รองโฆษก ตร.ระบุว่า ในทางปฏิบัติกับการกวดขันและการหาข่าวของตำรวจเป็นเรื่องยาก เนื่องจากการจัดงานลักษณะนี้ ในแต่ละครั้งมักสื่อสารกันผ่านเครือข่ายออนไลน์ เฉพาะในกลุ่มปิด ไม่มีการเผยแพร่สู่สาธารณะ เบื้องต้นตำรวจจึงทำได้เพียงการจัดชุดสายตรวจ และการตั้งจุดสกัดในเส้นทางต่างๆ และอาจโชคดีกับการตรวจค้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่า การกวดขันผ่านชุดสายตรวจและการตั้งด่านตรวจค้น เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่หากในการปฏิบัติงานของตำรวจสามารถยึดอาวุธและยาเสพติดได้ ก็เชื่อว่าจะบรรเทาปัญหาได้ เนื่องจากทั้ง 2 สิ่ง เป็นต้นเหตุของก่อคดีอาชญากรรมและการล่วงละเมิดทางเพศ เช่นที่เกิดกับพริตตี้สาวรายนี้
อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้เร่งสืบสวนสอบปากคำพยาน ทั้งที่เป็นบุคคลใกล้ชิดผู้ตาย พยานแวดล้อมกว่า 10 ปาก การเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ การตรวจร่างกาย การประสานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มบุคคลที่จัดงานขึ้นมาว่า เกี่ยวข้องกับการตายหรือไม่ ซึ่งถือว่า ตำรวจทำงานครบทุกประเด็นแล้ว
“ตอนนี้ที่ทราบจาก ผบก.น.8 ว่า ได้รับผลตรวจพิสูจน์ทางแล็บบางส่วนแล้ว แต่ยังต้องรอผลตรวจให้ครบทุกส่วนก่อน ซึ่งทางทีมงานก็คงนำผลตรวจพิสูจน์ ไปประกอบกับผลการสอบปากคำต่างๆ เพื่อนำมาพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหา และออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป” รอง โฆษกตร. กล่าว
แนะ“พริตตี้”รับงาน-เก็บภาพ
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวอีกว่า อยากฝากไปถึงพริตตี้ ต่อไปการรับงาน ผู้ที่เป็นผู้จัดการหรือคนรับงานคงต้องมีความรัดกุมให้มากขึ้น เวลารับงานก็ควรถ่ายภาพทุกอย่างเป็นหลักฐานไว้เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับ“ลันลาเบล”คงเป็นอุทาหรณ์ได้ดี
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุด พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 (ผบก.น.8) พร้อมคณะทำงานคลี่คลายคดี จากสน.บุคคโล ในฐานะเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบคดี ร่วมประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยภายหลังการประชุม พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลการชันสูตรจากแพทย์ถึงสาเหตุการตายของลันลาเบล เบื้องต้น เกิดจากพิษสุราในเลือดที่มีปริมาณสูงถึง 400 มล.ก. แต่ไม่พบสารคัดหลั่ง สารเสพติด หรือยาเสียสาว อีกทั้งไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นว่า จะต้องตรวจสอบในเชิงลึกอีกครั้ง
หมายจับ-ข้อหาชัดหลัง 25 ก.ย.
ส่วนการออกหมายจับ ขอยืนยันว่า ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากจะต้องสอบปากคำพยานรายเดิมซ้ำอีก 5 ปาก บางส่วนเป็นคนในงานปาร์ตี้ ที่จัดภายในบ้านพักย่านบางบัวทอง และบางส่วนเป็นพยานใหม่ หากทุกอย่างเรียบร้อยดี ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ จะมีความคืบหน้าเรื่องการออกหมายจับ และการแจ้งข้อกล่าวหา
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า ตำรวจเตรียมแจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ กระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กระทำอนาจาร และกักขังหน่วงเหนี่ยวนั้น พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า มีความใกล้เคียง ตามที่คณะพนักงานสอบสวนนำมาพิจารณาควบคู่กับคำพิพากษาศาลฎีกา เรื่องฆ่าโดยงดเว้น ซึ่งจากหลักฐานที่มีตอนนี้มีผู้กระทำผิดเพียงคนเดียว ไม่อยากขอเปิดเผย แต่ผู้สื่อข่าวรู้ดี
พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวถึงข้อมูลจากสมาร์ทวอทช์ ที่คาดหวังหลักฐานชีพจรหัวใจของ น.ส.ธิติมา ที่สวมใส่ก่อนเสียชีวิตว่า ต้องสอบถามกับแพทย์อีกครั้งว่า ตัวเลขต่างๆ ที่ปรากฏมีความน่าเชื่อถือ สอดคล้องกันหรือไม่ แต่นำมาเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลทางเทคนิค
ส่วนภาพเจ้าของมือที่สวมนาฬิกาลูบใบหน้าเบลที่เผยแพร่อยู่บนโลกโซเชียลก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เป็นของผู้ใด เพราะทั้งเจ้าของงานปาร์ตี้ และน้ำอุ่น ต่างปฏิเสธ ขณะเดียวกัน ตำรวจกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินเจ้าของบ้านที่จัดปาร์ตี้ ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 และ สภ.บางบัวทอง ว่าเป็นอย่างไร สำหรับในส่วนของนายรัชเดช หรือ “น้ำอุ่น” ขณะนี้ตำรวจก็ยังคงติดต่อได้อยู่
ปอท.ส่งข้อมูล“มือถือ-นาฬิกา”
พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี(รอง ผบก.ปอท.) กล่าวถึงการรับตรวจสอบหลักฐานในคดีวว่า ผลการตรวจสอบได้ส่งให้พนักงานสอบสวน สน.บุคคโลแล้ว จากหลักฐานที่มีไม่ถึง 10 ชิ้น แต่ละชิ้นจะมีประเด็นที่พนักงานสอบสวนตั้งข้อสงสัยมาด้วย เช่น โทรศัพท์มือถือของผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ คลิป และหลักฐานการแชท ที่มีการแชร์ส่งต่อกันในโซเชียล รวมถึงสมาร์ทวอทช์ของลันลาเบล
รอง ผบก.ปอท. กล่าวอีกว่า หนึ่งในประเด็นที่ตั้งข้อสงสัย คือ การตั้งค่าระบบ และการรีเซ็ตข้อมูลการตรวจวัดชีพจรของผู้สวมใส่ว่า สามารถเปลี่ยนค่า แก้ไขข้อมูล หรือลบข้อมูลที่มีอยู่ได้หรือไม่ ส่วนรายละเอียดผลการตรวจสอบทั้งหมด ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ เพราะเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี ต้องขอให้ ผบก.น.8 เป็นผู้พิจารณาและชี้แจงรายละเอียด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-สอบ10คนแก๊งปาร์ตี้ เค้นปม 'ลัลลาเบล' หัวใจวายดับปริศนา
-คดี 'ลัลลาเบล' คืบหน้า80% ภายใน48ชม.ชัดเอาผิด
-ปัดตอบ 'ลัลลาเบล' เข้าเกณฑ์รับเงินเยียวยา?
-เผย 'จักรทิพย์' สั่งคดี 'ลัลลาเบล' เตือนอย่าโยนหินถามทาง







