“พรเพชร” แจงลาออก จาก กก.สรรหา ส.ว.ตั้งแต่วันแรก ไม่ห่วง “ฝ่ายค้าน” เตรียมตรวจสอบ ชี้กระบวนการสรรหา เป็นอำนาจ กก. กำหนดรายละเอียดได้-ชอบด้วยรธน.
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ชี้แจงต่อกรณีที่มีชื่อเป็นหนึ่งในกรรมการสรรหาส.ว.ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ และอดีตกรรมการสรรหา ส.ว.ระบุว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ตนได้รับเชิญให้เข้าไปร่วมเป็นกรรมการสรรหาส.ว. แต่ตนได้ปฏิเสธและขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าวต่อพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฐานะประธานกรรมการสรรหาส.ว. เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าวสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ตนทำหน้าที่เป็นประธานต้องเร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติและต้องการความต่อเนื่อง จากนั้นตนได้ทำหนังสือลาออกอย่างเป็นทางการตามไป ขณะที่การประชุมนั้นตนไม่เคยเข้าร่วมพิจารณา
นายพรเพชร กล่าวด้วยว่าส่วนกรณีที่ตนได้รับเลือกให้เป็นส.ว. นั้นตามที่นายวิษณุ ชี้แจงระบุว่ากรรมการสรรหา จะเป็นผู้พิจารณารายชื่อและเลือกบุคคลที่มีคุณสมบัติ ความเหมาะสม โดยไม่มีการเปิดรับสมัคร และเมื่อคัดเลือกได้ตามจำนวนที่ต้องการจึงส่งใบสมัครให้กรอก ซึ่งมีรายละเอียดที่จะใช้ตรวจสอบคุณสมบัติและความเหมาะสมด้วย ทั้งนี้ตนทราบว่าบุคคลที่ได้ใบสมัครหลายคนปฏิเสธรับตำแหน่งด้วย ส่วนกรณีที่กรรมการสรรหา ได้รับเลือกเป็น ส.ว. นั้น ตามการชี้แจงทราบว่า เมื่อมีการพิจารณารายชื่อกรรมการสรรหาที่ถูกเสนอ บุคคลนั้นจะออกจากห้องประชุม และไม่เกี่ยวข้องใดๆ ในกระบวนการส่วนดังกล่าว
“ดังนั้นกรณีที่กรรมการสรรหา ได้รับเลือกเป็น ส.ว. ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้งกฎหมายไม่ห้ามกรรมการสรรหา เข้าไปเป็นส.ว. ด้วยหากมีคุณสมบัติครบถ้วน เมื่อบุคคลดังกล่าวมีคุณสมบัติเหมาะสมถูกต้องก็มีสิทธิรับตำแหน่งได้ จะไปห้ามรับตำแหน่งเพียงเพราะบังเอิญเป็นกรรมการสรรหาคงไม่ถูก” นายพรเพชร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าด้วยกระบวนการสรรหาดังกล่าว ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทย เตรียมตรวจสอบรายละเอียด การสรรหาเพราะมองว่าสรรหานั้นมีข้อครหา นายพรเพชร กล่าวว่า ขั้นตอนการสรรหานั้นรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นอำนาจของกรรมการสรรหา ดังนั้นจึงเป็นรายละเอียดที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญกำหนด ส่วนกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมตรวจสอบการทำงานของ ส.ว. นั้น ตนไม่กดดัน เพราะส.ว.ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจและหน้าที่ภายใต้กฎหมายและรัฐธรรมนูญกำหนดให้ อย่างไรก็ตามกรณีที่ ส.ส.จะตรวจสอบการทำงาน ของ ส.ว.นั้นที่ผ่านมาไม่เคยมี แต่กฎหมายกำหนดให้ ส.ว.มีอำนาจตรวจสอบ ส.ส. ได้ ดังนั้นหาก ส.ส.จะตรวจสอบส.ว.นั้น ส.ว. สามารถตรวจสอบส.ส.ได้เช่นกัน ทั้งนี้เชื่อว่าประเด็นดังกล่าวจะไม่นำสู่ปัญหาทางการเมือง