กลเกม‘นายใหญ่’ ยืมอำนาจ ? ‘ภูมิธรรม’ควบ'ศก.-ความมั่นคง'

กลเกม‘นายใหญ่’ ยืมอำนาจ ?  ‘ภูมิธรรม’ควบ'ศก.-ความมั่นคง'

การมอบหมายให้ “ภูมิธรรม” คุม “กลาโหม-ศอ.บต.-ยุทธศาสตร์พัฒนา 3 จชต.” จึงมีนัยทางการเมืองแฝงเอาไว้ ซึ่งต้องจับตา “ทักษิณ” จะยืมอำนาจจากมือ “ภูมิธรรม” มาใช้สอยในปฏิบัติการใด

Key Point :

  • การแบ่งงาน "รองนายกฯ" มีนัยสำคัญทางการเมือง เพราะอำนาจทางการเมืองในขับเคลื่อนหน่วยงานที่เข้าไปกำกับดูแล ถือเป็นอำนาจเต็มจากครม.ที่มอบหมายให้ "รองนายกฯ"
  • เซอร์ไพร์สพอสมควรที่ "ภูมิธรรม เวชยชัย" ถูกมอบหมายให้กำกับดูแล กระทรวงกลาโหม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ "นายกฯ เศรษฐา" เป็นคนกำกับดูแลเอง
  • ว่ากันว่า "นายใหญ่" วางเกมซ่อนกลเอาไว้ ยิ่งออกแอ๊คชั่นเข้าไปมีบทบาทในสถานการณ์พม่า เช่นเดียวกับ ศอ.บต. ที่มีกระแสข่าวว่า "นายใหญ่" มีโอกาสได้พูดคุยกับ "บิ๊กเนม" ประเทศมาเลเซียแล้วเช่นกัน

หลังการปรับครม."เศรษฐา 2“ ไฟลต์บังคับต้องจัดลำดับ-แบ่งงานระดับ “รองนายกรัฐมนตรี” กันใหม่ เพื่อเกลี่ยความรับผิดชอบ แบ่งขอบเขตอำนาจการบริหารการเมือง

โดยการแบ่งงาน “รองนายกฯ” จะสะท้อนอำนาจ-บารมี เนื่องจาก “รองนายกฯ” ที่กำกับดูแลกระทรวง หน่วยงานใด มักจะเป็นด่านสุดท้ายในการกลั่นกรองงาน ที่สำคัญจะยังสามารถให้คุณ-ให้โทษ “รัฐมนตรี” ประจำกระทรวงได้ด้วย

ทำให้การแบ่งงานที่ผ่านมา “รองนายกฯ” ที่มาจากพรรคการเมืองใด มักจะกำกับดูแลกระทรวงในโควตาของพรรคตัวเอง มีน้อยมากที่จะกำกับดูแลข้ามสาย-ข้ามกระทรวง

ล่าสุด ครม. เศรษฐา 2 แบ่งงานเสร็จสรรพ แต่ดูเหมือนพาวเวอร์ทางการเมืองของ “นายกฯ เศรษฐา” จะอ่อนแรงลง จากเดิมนั่งควบ รมว.คลัง เสมือน “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” ที่จะคอยกำหนดทิศทาง แต่เมื่อสละเก้าอี้ รมว.คลัง ย่อมเสียสถานะนี้ไปด้วย

ขณะเดียวกันเป้าหมายของ “เศรษฐา” คือการนั่งควบ รมว.กลาโหม แต่มี “บิ๊กเนม” เข้ามาขวางลำ แถมหากจะตั้ง “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ นั่ง รมช.กลาโหม ก็ต้องเกี่ยงว่าจะใช้โควตาระหว่าง “เพื่อไทย-รวมไทยสร้างชาติ” ผลสุดท้ายดีลล่ม “เศรษฐา” ไปไม่ถึงฝั่งฝัน

ที่สำคัญการแบ่งงาน “รองนายกฯ” ยังมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ เนื่องจากมีการมอบหมายให้ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ รมว.พาณิชย์ ซึ่งเสมือนรองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ทั้งที่ ครม.เศรษฐา 1 กลาโหมอยู่ในความดูแลของ “นายกฯนิด” 

นอกจากนี้ “ภูมิธรรม” ยังดูแลศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และเป็นประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประธานคณะกรรมการนโยบายและอำนวยการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงของชาติ ประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน และอื่นๆ อีกมากมายหลายประธาน เป็นต้น 

ทำให้สถานะของ “ภูมิธรรม” แม้จะนั่งเก้าอี้ รมว.พาณิชย์ ซึ่งอยู่ในโครงสร้างของกระทรวงด้านเศรษฐกิจ แต่กลับต้องกำกับดูแลกระทรวงความมั่นคงเพิ่มเติม แม้ว่า “เศรษฐา” ยังต้องดูแลหน่วยงานความมั่นคงอื่น อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สภาความมั่นคงแห่งชาติ

เมื่อชำแหละจากโครงสร้างการแบ่งงานระหว่าง “เศรษฐา-ภูมิธรรม” จึงดูลักลั่นอยู่พอสมควร เนื่องจาก “เศรษฐา” ไม่เคยแสดงเจตจำนงค์จะลดบทบาทจากการคอนโทรล “กองทัพ”

หากยังจำกันได้มีหลายครั้งที่ “เศรษฐา” สั่งการข้ามหัว “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เรียก “ผู้บัญชาการเหล่าทัพ” ประชุมหารือในประเด็นด้านความมั่นคง ยิ่งในช่วงการสู้รบในเมียนมา “เศรษฐา” เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงด้วยตัวเอง โดยไม่แจ้ง “สุทิน” ให้รับทราบเสียด้วยซ้ำ

จึงสะท้อนให้เห็นว่าใจลึกๆของ “เศรษฐา” ปรารถนาคุม “กลาโหม” เพราะถือเป็นการเสริมบารมี เพิ่มพาวเวอร์ให้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม มีกระแสข่าว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ นัดพูดคุยตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติของประเทศเมียนมา ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันสงกรานต์ที่ผ่านมา

และครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพฯ “ทักษิณ” พบกับ พล.อ.เจ้ายอดศึก ผู้นำสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน  และตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์อีกหลายองค์กร รวมถึงตัวแทนสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง  และ ซิน มา อ่อง รมว.ต่างประเทศ รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ  ตัวแทนกลุ่มหนุนอองซาน ซูจี

ต้องยอมรับว่า “ทักษิณ” คุ้นเคยกับนายทหาร และอดีตนายทหารเมียนมา อาทิ พล.อ.หม่องเอ และ พล.อ.ตาน ฉ่วย รวมถึง พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ประธานสภาบริหารแห่งรัฐ  มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย

จังหวะก้าวของ “ทักษิณ” ที่พยายามมีบทบาทเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์สู้รบใน “เมียนมา” ด้วยคอนเนกชันกับ “รัฐบาลทหาร” และเปิดโต๊ะพูดคุยกับ “กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ” จึงน่าจับตาทุกฝีมือก้าว

เมื่อจับโยงกับการแบ่ง “รองนายกฯ” การให้ “ภูมิธรรม” กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ย่อมมีสัญญาณสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก “ภูมิธรรม” เสมือนลูกมือที่ “ทักษิณ” สั่งการทำปฏิบัติการลับหลายอย่างได้ดั่งใจกว่า “เศรษฐา”

ยิ่งได้ดูแล “ศอ.บต.” ซึ่งรับผิดชอบงานสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยิ่งต้องจับตาจังหวะก้าวของ “ทักษิณ” เพราะเมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา “ทักษิณ” ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ท่ามกลางกระแสข่าวนัดพบ “บิ๊กเนม” จากประเทศมาเลเซีย

การมอบหมายให้ “ภูมิธรรม” คุม “กลาโหม-ศอ.บต.-ยุทธศาสตร์พัฒนา 3 จชต.” จึงมีนัยทางการเมืองแฝงเอาไว้ ซึ่งต้องจับตา “ทักษิณ” จะยืมอำนาจจากมือ “ภูมิธรรม” มาใช้สอยในปฏิบัติการใด