'รองหน.ทษช.' เข้ารับทราบข้อหาไลฟ์เฟซบุ๊ก ให้ข้อมูลฝุ่นPM2.5เท็จ

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.62 นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ ได้เข้าพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. และ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม. 3 ภายหลังจากเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 เวลา 11.02 น. บัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจของ “พรรคไทยรักษาชาติ” ได้แพร่ภาพคลิปสดผ่าน บัญชีเฟซบุ๊กแฟนเพจดังกล่าว ใช้หัวข้อว่า “ถ่ายทอดสด ทษช. แถลงข่าวปัญหาฝุ่นละออง "ภัยเงียบที่ทำร้ายคนกรุงเทพมหานคร" โดยมีนายฤภพ เป็นผู้เปิดตัว และอธิบายการใช้ แอพพลิเคชั่นไลน์ ตรวจค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และเกิดความตื่นตระหนก

จากนั้นระบบจะขอพิกัดจีพีเอสของเครื่องที่ใช้งาน และจะแสดงข้อมูลค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 บริเวณจุดนั้นให้ทราบ ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจพิสูจน์พบว่าเว็บไซต์ https://tsntalk.com/pm25 มีการรายงานค่าฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ในสถานที่ต่างๆ ไม่เป็นความจริง เนื่องจากตำแหน่งที่มีการรายงานค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ไม่มีการวัดค่า ตำแหน่งนั้นจริง แต่มีการนำค่าฝุ่นละออง PM 2.5 จากตำแหน่งอื่น หรือเป็นพิกัดในพื้นที่ใกล้เคียง มาอ้างอิงว่าเป็นค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ในตำแหน่งที่ผู้ใช้งานเว็บไซต์ดังกล่าวพักอาศัยหรืออยู่ในบริเวณนั้น จึงทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และเกิดความตื่นตระหนก

สำหรับการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน”

ซึ่งนายฤภพ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยทางพนักงานสอบสวนได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหา และสอบปากคำปากคำเบื้องต้น พร้อมกับได้มีการปล่อยตัวไปชั่วคราวโดยไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด

ขณะที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ออกหมายเรียกนายฤภพในฐานะเป็นผู้ต้องหาในความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ ตามมาตรา14(2) จากกรณีเรื่องค่าฝุ่นมลพิษพีเอ็ม 2.5 ที่ออกมาระบุว่าสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์แห่งหนึ่งผ่านเพจพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อหาว่าบริเวณพื้นที่ตามจุดต่างๆในกรุงเทพมานครมีค่าพีเอ็ม 2.50 แต่เมื่อตรวจสอบพบกับไม่เป็นจริงตามที่ได้ระบุไว้ ด้วยเหตุนี้ทางศูนย์ปราบปรามอาชาญากรรมทางเทคโนโลยีและบก.ปอท.ได้บูรณาการตรวจสอบพบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นมีนายฤภพเป็นผู้ดำเนินการ จึงมอบหมายให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อนทำการออกหมายเรียกเพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหา

“ทั้งนี้การสื่อออนไลน์ไปใช้ในการเลือกตั้งสามารถกระทำได้แต่ต้องใช้ในทางที่ถูกกฎหมายไปใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง สิ่งสำคัญต้องไม่ทำให้ประชาชนนั้นเกิดความสับสนหรือเกิดการตื่นตระหนกจากข้อมูลที่นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สิ่งสำคัญที่อยู่เหนือกว่าการเลือกตั้งก็คือความสงบสุขของบ้านเมือง ทั้งนี้ขอฝากเตือนเรื่องของการนำสื่อต่างๆมาใช้ขอให้ใช้ในทางที่ถูกต้องและเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง ประชาชนจะได้มีความเชื่อมั่น โดยขั้นตอนจากนี้จะทำการสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งให้พนักงานอัยการเป็นผู้สั่งฟ้อง ซึ่งทันทีที่แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายเรียก พร้อมกับทำการสอบปากคำ เสร็จสิ้นได้ทำการปล่อยตัวไปชั่วคราว โดยไม่ได้มีการควบคุมตัวไว้แต่อย่างใด” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุ

ขณะที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ขั้นตอนหลังจากนี้เมื่อทำการสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนส่งให้พนักงานอัยการเป็นผู้สั่งฟ้อง ซึ่งจะต้องพิจารณาว่าการกระทั่งดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดจะต้องรายงานให้คณะกรรมการ การเลือกตั้งทราบ จากนั้น กกต.จะเป็นผู้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป หากพบว่าไม่เป็นความผิดหรือไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดในช่วงเลือกตั้ง ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ซึ่งกรณีนี้ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองใครทำผิดตามกฎหมายก็ต้องถูกดำเนินคดีทุกราย