สนช.ส่งศาลรธน. ตีความร่างพ.ร.ป.ส.ว. ฉบับเดียว หวั่นกระทบทั้งกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. เชื่อไม่กระทบโรดแม็พเลือกตั้งหากถูกวินิจฉัยให้แก้ไขใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 มีนาคม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ได้ยื่นหนังสือต่อนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ถึงประเด็นข้อห่วงใยว่าบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. จะขัดกับรัฐธรรมนูญและกระทบต่อกระบวนการบริหารราชการแผ่นดิน
โดยข้อห่วงใยของกรธ. ในประเด็นของ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มี 2 ประเด็น คือ 1.ร่างมาตรา 35 ว่าด้วยการตัดสิทธิผู้ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งและไม่แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิ์ ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง, ข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง ถือเป็นการจำกัดสิทธิที่เกินขอบเขตของรัฐธรรมนูญ มาตรา 95 วรรคสาม เพราะประเด็นการตัดสิทธิเข้าดำรงตำแหน่งถือว่ามีผลกระทบต่อบุคคลอื่นที่เป็นผู้มีอำนาจแต่งตั้ง และ จำกัดเสรีภาพของบุคคลในการประกอบอาชีพ และ 2. ร่างมาตรา 92 ว่าด้วยข้อกำหนดให้บุคคลอื่นหรือกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งลงคะแนนในบัตรออกเสียงแทนคนพิการ หรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุตามยินยอมและเจตนา ถือว่าเป็นบทบัญญัติที่ทำให้การออกเสียงไม่เป็นไปโดยตรงและลับที่แท้จริง ทั้งนี้ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 9/2549 วินิจฉัยประเด็นการรออกเสียงเลือกตั้งโดยลับ คือ ไม่ให้ผู้ใดทราบว่าผู้ลงคะแนนออกเสียงเลือกตั้งหรือตัดสินใจเลือกใคร และเมื่อมีผู้อื่นล่วงรู้ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญและจะมีผลกระทบต่อการเลือกตั้ง
ขณะที่ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. มีประเด็นใหญ่ คือ บทบัญญัติในบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้แยกประเภทการสมัคร ส.ว. ทั้งการสมัครอิสระ และ สมัครผ่านการกลั่นกรอง, คัดเลือกจากองค์กรนิติบุคคล ซึ่งสัมพันธ์กับวิธีเลือกของผู้สมัคร ที่กำหนดให้แยกการลงคะแนนเลือกกันเองเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่สมัครแบบอิสระ กับ กลุ่มที่มาจากการเสนอชื่อขององค์กรนิติบุคคล
ผลที่เกิดขึ้นคือประชาชนไม่สามารถเลือกสมัครได้อย่างเสรีทุกกลุ่ม แต่ต้องอยู่ในเงื่อนไขคัดกรองจากองค์กรก่อนว่าจะให้คำแนะนำเพื่อมีสิทธิสมัครได้หรือไม่ ซึ่งไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 107 ที่มุ่งหมายให้เป็นการเลือกผู้สมัครด้วยตนเองอย่างเท่าเทียม โดยมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเดียวกัน ดังนั้น กรธ.เห็นว่าปัญหาการบัญญัติไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ หากมีผู้ร้องเรียนภายหลังว่าบทบัญญัติเหล่านั้นขัดรัฐธรรมนูญ ทำให้การเลือก ส.ว. ต้องเสียไปทั้งหมด และจะมีปัญหารวมถึงผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน หนังสือจาก กรธ. ระบุ
ทั้งนี้เมื่อเวลา 14.00 น. นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. แถลงว่ามีสมาชิก สนช. 30 คนนำโดย นายกิตติ วสีนนท์ สนช. เสนอเรื่องให้ตนยื่นเรื่องยังศาลรัฐธรรมมนูญ ต่อ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย ส.ส. เพียงฉบับเดียว ซึ่งตนเตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญภายในวันจันทร์ ที่ 19 มีนาคม นี้ สำหรับประเด็นนั้นยังเป็นไปตามความเห็นของกรธ. ไม่มีประเด็นใดเพิ่มเติม
สนช.ส่วนมากพิจารณาแล้วเห็นว่า ประเด็น ของ ร่างพ.ร.ป.ส.ว. นั้น อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว. ทั้งหมด ดังนั้นจึงต้องยื่น ส่วนผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะทำให้ร่างกฎหมายลูกตกไปทั้งฉบับหรือ เฉพาะบางประเด็นนั้น ผมไม่สามารถตอบได้ แต่หากสิ่งที่วินิจฉัยแล้วส่งผลต่อการแก้ไขเนื้อหา เชื่อว่าจะไม่กระทบโรดแม็พเลือกตั้งตามกฎหมาย หากส่วนที่เกี่ยวข้องสามารถแก้ไขได้ภายใน 90 วัน นายพรเพชร กล่าว
นายพรเพชร กล่าวอีกว่าขณะที่ร่าง พ.ร.ป.ส.ส. ตามที่กรธ.เสนอนั้นนั้นสนช.เกือบทั้งหมดเห็นว่าไม่ขัดกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น อีกทั้งสนช. มองว่าหากมีผู้เจ็บใจ และมีคนได้รับผลกระทบต้องการยื่นศาลรัฐธรรมนูญสามารถกระทำได้ภายหลังจากที่ร่างกฎหมายประกาศใช้ ซึ่งตนเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อโรดแม็พเลือกตั้งตามกฎหมาย และเหตุผลสำคัญที่ไม่ยื่นร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยเลือกตั้ง ส.ส. นั้นมีเหตุผลสำคัญ คือจะทำให้กระทบโรดแม็พตามกฎหมาย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าหากมีผู้ยื่นร้องต่อประเด็นการอำนวยความสะดวกผู้พิการในกาบัตรลงคะแนน เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการเลือกตั้ง หรือทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ เพราะตามร่าง พ.ร.ป.กำหนดไว้ในร่างมาตราดังกล่าวว่าการอำนวยความสะดวกดังกล่าวถือเป็นการออกเสียงโดยตรงและลับ
ผมไม่ขอตอบว่า หลังจากที่ สนช. ส่งร่างพ.ร.ป.ส.ส. ให้ นายกฯ ภายในวันจันทร์ที่จะถึงนี้แล้ว อาจมีผู้ร้องขอให้นายกฯ ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นอำนาจนายกฯ เพราะไม่อยู่ในหน้าที่ แต่ในชั้นนี้ สนช. ได้พิจารณาอย่างรอบคอบและมีเหตุผลที่รับฟังได้ว่า เพื่อไม่ให้กระทบโรดแม็พเลือกตั้ง และตามกระบวนการคนที่ได้รับผลกระทบยังมีสิทธิยื่นศาลรัฐธรรมนูญได้หลังกฎหมายประกาศใช้ จึงไม่ใช้สิทธิส่วนของสนช. นายพรเพชร กล่าว