สรุปคดีแชร์ทองเพกาซัส โกงปชช.เสียหายกว่า800ล.

กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) -14 ก.ค.59 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการกระทำผิดเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ กรณีหลอกลวงให้ผู้เสียหายร่วมลงทุนในทองคำของบริษัท พีเอ็มบี เพกาซัส (ไทยแลนด์) จำกัด และ บริษัท เพกาซัส บูลเลี่ยน ลิมิเต็ด จำกัด หรือแชร์เพกาซัสว่า ล่าสุด ดีเอสไอ ได้สรุปสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว โดยมีมติแจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้องรวม 17 คน พร้อมมีมติให้ออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 4,5 และ 12 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 341 , 343 ประกอบมาตรา 383 โดยคดีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีผู้เสียหายเข้าร้องขอให้ดีเอสไอเข้าไปตรวจสอบกรณีที่มีกลุ่มบุคคลชักชวนให้ประชาชนเป็นสมัครสมาชิกลงทุนในทองคำ ให้ปันผลร้อยละ 10 ต่อเดือน เป็นระยะเวลา 24 เดือน หรือเท่ากับร้อยละ 120 ต่อปี จากการสอบสวนพบว่ามีกลุ่มบุคคลทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอ้างว่าบริษัท พีเอ็มบี ฯและบริษัท เพกาซัสฯ ได้เชิญชวนให้ร่วมลงทุนในทองคำ เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2556 – ม.ค. 2558 มีการอ้างประกอบธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำแท่ง ซึ่งการซื้อขายทองคำแท่งนั้นจะมีให้เลือก 4 ขนาดคือ 20,100,500 และ 1,000 กรัม มีราคาซื้อขายประมาณ 35,000 บาท ต่อน้ำหนักทองคำ 20 กรัม สามารถขยับขึ้น-ลงขึ้นอยู่กับราคาทองคำและค่าเงินบาทด้วย

“ในการซื้อขายทองคำหลังจากที่ผู้ลงทุนได้ลงทะเบียนซื้อทองคำแท่งแล้วบริษัทจะจัดส่งใบรับรองให้แก่ผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อทองคำสามารถเลือกรับผลตอบแทนเป็นทองคำหรือฝากเก็บไว้เพื่อรับดอกเบี้ยรายเดือน เมื่อมีผู้หลงเชื่อลงทุนเป็นจำนวนมาก กลุ่มบุคคลที่เป็นแกนนำได้ประกาศว่า บริษัทมีปัญหาล้มละลายและปิดตัวลง ทำให้เกิดความเสียหายกับผู้หลงเชื่อที่มีประมาณ 1,000 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 800 ล้านบาท ที่ผ่านมาดีเอสไอสอบปากคำผู้เสียหายไปแล้วกว่า 300 คน ลงพื้นที่ตรวจค้น 5 จุด พร้อมยึดและอายัดทรัพย์ได้มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท” ​อธิบดีดีเอสไอ ระบุ

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเร่งสอบสวนคดีแชร์ลูกโซ่อื่น ๆ ตามที่มีผู้ร้องเรียนไว้จำนวนมาก เช่น แชร์น้ำมันกับบริษัท สตาร์โบรคเกอร์ จำกัด แชร์เครื่องบินเหมาลำกับ หจก.สมายทราเวล