'ดร.ธีรรัตน์' เสียดายประเทศไทยเดินถอยหลัง

ดร.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ อดีตส.ส.กทม. ได้โพสต์ข้อความพร้อมภาพผ่านเพจเฟซบุ๊ค ระบุว่า 3 กรกฎาคม 2559 ยังระลึกถึงเสมอถึง 5 ปีที่แล้ว 3 ก.ค. 2554 วันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปครั้งที่ 26 ผลการเลือกตั้งในวันนั้นคือ พรรคเพื่อไทยได้ที่นั่งเกินกึ่งหนึ่ง (265 ที่นั่ง) นับเป็นครั้งที่สองในรอบทศวรรษที่มีพรรคการเมืองได้รับคะแนนเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนราษฎรและนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย

แต่ก่อนจะถึงวันเลือกตั้ง มีเหตุการณ์มากมายที่น่าประทับใจและเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม การได้หาเสียงพบปะพี่น้องประชาชน การได้ลงไปสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ รับรู้ปัญหา การนำนโยบายของพรรคไปบอกให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ หากเป็นสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการ ให้ประเทศของเราเดินไปในทางใด ก็ตัดสินใจใช้สิทธิเลือกตั้งในทางนั้นๆ ถือเป็นวิถีทางแห่งระบอบประชาธิปไตย

ระบอบประชาธิปไตย นอกจากหมายถึงระบบการปกครองที่ประชาชนเป็นใหญ่แล้ว ยังต้องมีรูปแบบของ "รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน" (Abraham Lincoln) ขออนุญาตกล่าวว่า เป็นการปกครองโดยยึดหลักประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย

สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่ได้รับการเลือกตั้ง เป็นกลไกอย่างหนึ่งในการพัฒนาประเทศตามนโยบายที่รัฐบาลวางไว้ คอยดูแลทุกข์สุข แก้ไขปัญหาให้ประชาชน เป็นผู้ถ่วงดุลอำนาจของข้าราชการให้ได้ลงมาสนใจดูแลประชาชน มิใช่ดูแลบริการให้กลุ่มคนบางกลุ่มที่มีอำนาจในสังคมเท่านั้น

น่าเสียดายว่าประเทศไทย เดินถอยหลังกลับสู่ยุคเผด็จการ ถูกปกครองโดยรัฐบาลทหาร ไม่เช่นนั้น ประเทศของเราคงมีการเลือกตั้งทั่วไป ครั้งที่ 27 มีรัฐบาลของประชาชน โดยประชาชนและเพื่อประชาชน ประเทศชาติเดินหน้าต่อเนื่องและมีเสถียรภาพอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน "จริงๆ" (ข้อมูล-ภาพ fb/dr.theerarat)

...

สำหรับ ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ วัย 36 ปี เป็นบุตรของนายวิบูล อดีต ส.ก. และนางทองดี สำเร็จวาณิชย์ มีพี่น้อง 7 คน เป็นหลานสาวของนายวิสูตร สำเร็จวาณิชย์ ส.ก.เขตลาดกระบัง คนปัจจุบัน

สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ปริญญาโทและปริญญาเอกจากประเทศออสเตรเลีย

ก่อนเข้าสู่วงการการเมือง ธีรรัตน์ เคยทำงานอยู่ฝ่ายบุคคล ธนาคารกสิกรไทย ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานครเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2554 สังกัดพรรคเพื่อไทย ในเขตเลือกตั้งที่ 20 (เขตลาดกระบัง) อันเป็นฐานเสียงของครอบครัว โดยสามารถเอาชนะนางสลวยเลิศ กิมสูนจันทร์ ภรรยานายมงคล กิมสูนจันทร์ อดีต ส.ส. และสมาชิกบ้านเลขที่ 109 จากพรรคพลังประชาชนได้