ปรองดองล้มเหลว

การเดินทางทำกิจกรรมเคลื่อนไหว "นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ ส่องแสงหากลโกง"ของ"กลุ่มประชาธิปไตยศึกษาและกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่" ภายใต้การนำของสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์หรือ"จ่านิว"แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยศึกษา ที่ตั้งเป้าลงพื้นที่ตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ จ. ประจวบคีรีขันธ์   

หลังจากขบวนรถไฟ ออกจากสถานีรถไฟธนบุรี ( บางกอกน้อย) มาถึงสถานีบ้านโป่ง จ.ราชบุรี  ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารสกัด  แล้วเข้าควบคุมตัวแกนนำและผู้เข้าร่วมกิจกรรม นำไปควบคุมตัวไว้ที่ บก. ควบคุม พล.ร.9 พุทธมณฑลสาย4 ก่อนที่จะปล่อยตัวในเวลาต่อมา 

แต่มีประเด็นหนึ่งที่ควรพูดถึง  ก็คือ  ในขณะที่มีการทำกิจกรรมของนักศึกษาในครั้งนี้ มีกลุ่มคนที่ไม่พอใจกลุ่มนักศึกษา มารุมล้อมในขณะที่นักศึกษาถูกควบคุมตัว มีการตะโกนด่าทอ เป่านกหวีดขับไล่ ( นกหวีดเป็นสัญลัักษณ์ของ กปปส. ในการชุมนุม ครั้งที่ผ่านมา)ขว้างปาสิ่งของใส่กลุ่มนักศึกษา  

หรือก่อนหน้านี้ กรณี"จตุพร พรหมพันธุ์" และ"ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" จะเดินทางไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์  ก็ถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวเสียก่อนที่จะถึงเป้าหมาย โดยทางกระทรวงกลาโหมให้เหตุผลหนึ่งว่า เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหา "ม็อบ"ชน"ม็อบ"ขึ้น เนื่องจากทราบว่ามีมวลชนจาก จ.ราชบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปรอต่อต้านกลุ่มของนายจตุพรและนายณัฐวุฒิอยู่ จึงอาจเกิดการปะทะกันขึ้นได้ 

การที่คนทั้งสองกลุ่มหวิดปะทะกัน แสดงว่า ความขัดแย้ง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายในสังคมไทยไม่ได้หมดไป ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะปะทุขึ้น เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย 

"การสร้างความปรองดอง" เป็นเป้าหมายแรกๆ ของ คสช. หลังรัฐประหาร แต่ที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร  

สำหรับร่างรัฐธรรมนูญ มีบทบัญญัติของร่างรัฐธรรมนูญว่าด้วยการสร้างความปรองดอง   โดยเรื่องดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการศึกษาประเด็นปัญหาการสร้างความปรองดอง ที่มีภุมรัตน ทักษาดิพงศ์  เป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ( กรธ.) 

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะอนุกรรมการศึกษาประเด็นปัญหาการสร้างความปรองดอง เห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญ ต้องทำให้อำนาจอธิปไตยมีความเข้มแข็ง น่าเชื่อถือ เป็นที่พึ่งให้ประชาชนและสังคมได้  โดยการร่างรัฐธรรมนูญต้องคำนึงถึงอนาคต นอกจากจะต้องร่างรัฐธรรมนูญให้ดีแล้ว ยังต้องคำนึงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยนำข้อมูลข้อเท็จจริงไปสู่ผู้มีอำนาจ ผู้ที่เกี่ยวข้องและประชาชน   

ในช่วงที่มีเหตุการณ์การชุมนุมที่เกิดความขัดแย้งและมีการใช้ความรุนแรง ควรค้นหาวิธีการที่จะต้องนำความจริงมาตีแผ่และเปิดเผยข้อมูลความจริงในทุกๆด้าน ที่จะต้องชี้ให้เห็นว่าสิ่งใดผิดคือผิด สิ่งใดถูกคือถูก โดยใช้ข้อมูลที่ถูกต้อง เป็นกลาง และเชื่อถือได้ อีกทั้งต้องใช้จิตวิทยาในการประชาสัมพันธ์เพื่อลบล้างวาทกรรมต่างๆที่ยังคงมีผู้นำไปใช้ในการปลุกกระแส  

การทำงานของคณะอนุกรรมการศึกษาประเด็นปัญหาการสร้างความปรองดอง จะทำการรวบรวมข้อมูลและข้อเท็จจริงให้ได้มากที่สุด แต่จะไม่ชี้ชัดลงไปว่าเหตุการณ์ความขัดแย้งสำคัญๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองในอดีตที่ผ่านมา ใครผิดใครถูก เพราะว่าการปรองดองในทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ต้องทำโดยอาศัยข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นที่ยอมรับ และต้องแสวงหาข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน