'ขบวนการประชาธิปไตยใหม่' แถลงเรียกร้องปชช.ออกมาร่วมสู้

เมื่อ 17.45 น. กลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ และ กลุ่มประชาชนผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการประชาธิปไตยใหม่   ได้แถลงข่าวร่วมกัน โดย ขบวนการประชาธิปไตยใหม่ได้อ่านแถลงการณ์ มีเนื้อหาระบุว่าจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาวานนี้ (26 มิ.ย.) เพื่อนของพวกเราถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ จำนวนกว่า 30 คน เข้าควบคุมตัวเพื่อนำส่งไปยัง สน.พระราชวัง ศาลทหาร และเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เป็นการเข้าควบคุมตัวในขณะที่เราใช้ชีวิตปกติสุข โดยไม่มีความขัดแย้ง เรายืนยันบนหลักการการต้่อสู้แบบสันติวิธี ถึงแม้การจับกุมเพื่อนเราครั้งนี้จะเป็นการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพในการแสดงออกอย่างร้ายแรงเพียงใดก็ตาม ทางขบวนการประชาธิปไตยใหม่ขอยืนยันตามหลักการกำปั้น 5 ข้อเพื่อขับเคลื่อนกันต่อไป ประกอบด้วย 1.หลักประชาธิปไตยต้องให้พลเมืองทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเสมอหน้าอบย่างเท่าเทียมกัน 2.หลักความยุติธรรม ที่จะช่วยลดความขัดแย้งในสังคม ปราศจากสองมาตรฐานในกระบวนการยุติธรรม 3.หลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดวิถีชีวิตตนเอง รัฐบาลต้องคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว 4.หลักสิทธิมนุษยนและสิทธิชุมชนเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องวเคารพและรัฐบาลต้องหยุดละเมิดสิทธิประชาชน และ  5.หลักสันติวิธี คือการแก้ไขปัญหาทางการเมืองต้องปราศจาการใช้ความรุนแรง หรือนำมาสู่เงื่อนที่ก่อให้เ้กิดความรุนแรง

 ทั้งนี้หากพวกเราได้รับการตอบรับตามหลักการนี้ที่พวกเราโหยหา เชื่อว่าสังคมไทยจะพัฒนาดีขึ้น และเกิดความเท่าเทียมมากขึ้น พวเราขอย้ำว่าการเคลื่อนไหวของพวกเราทำด้วยมือเปล่า เท้าเปล่า และมีผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือประชาชนผู้รักสิทธิและเสรีภาพเท่านั้น ไม่ได้มีกลุ่มประโยชน์ทางการเมือง หรือพรรคการเมืองใดๆแอบแฝงทั้งสิ้น

สหนรับการจับกุมเพื่อนเราทั้ง 14 คนในครั้งนี้ไม่ได้ทำให้หมดกำลังใจไปแม้แต่น้อย ในทางกลับกันเรายังมีไฟ ต่อสู้เพิ่มมากขึ้น และยิ่งทำให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยที่ไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการกดขี่นี้ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยเพิ่มขึ้น

“ประชาชนผู้รักสิทธิทั้งหลายที่เห็นด้วยในหลักการ 5 ข้อ ขอให้ร่วมกันเปิดพื้นที่ในการแสดงออกและแสดงความไม่เห็นด้วยกับระบอบเผด็จการอำนาจนิยมที่กดขี่ประชาชน จงอย่ากลัวการเผชิญหน้ากับมัน และร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งกับเรา ในการขับเคลื่อนขบวนการประชาธิปไตยใหม่ หรือ NDM ในการสร้างสรรค์ระบอบประชาธิปไตยที่สูงสุดให้เป็นของพวกเราประชาชนพลเมืองทุกคน”

ภายหลังการอ่านแถลงการณ์ผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนการนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ 2 หรือไม่ นักศึกษากลุ่มดังกล่าวระบุว่า เป็นขบวนการกลุ่มเดียวกันไม่ถือเป็นรุ่นที่ 2 เราเคลื่อนไหวภายใต้หลักการที่เป็นหนึ่งเดียวกับพวกที่ถูกจับไป 14 คน พร้อมทั้งยืนยันว่าการเคลื่อนไหวไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง  และเงินสนับสนุนการทำกิจกรรมก็ได้มาจากประชาชนทั่วไปที่มีความคิดเห็นที่เป็นแนวทางเดียวกันยังมีประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดที่มีความคิดเห็นแบบเดียวกันอีกเป็นจำนวนมาก และกำลังดำเนินกิจกรรม

อย่างไรก็ตาม  ณ ตอนนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปต้องดูสถานการณ์ หากอยู่ในภาวะคุกคามเช่นนี้การดำเนินการใดๆ ต้องพิจารณาดูก่อน และกิจกรรมของเราเป็นรูปแบบแคมเปญการรณรงค์ และจะค่อยๆปล่อยเป็นระยะๆ   ทั้งนี้ภาวะถูกคุกคามทำให้เราไม่สามารถพูดอะไรได้ก่อนล่วงหน้า  

 

"ในส่วนของ 14 คนที่ถูกจับไป ก็ได้พูดคุยกันและทุกคนมีกำลังใจดี และยืนยันว่าจะไม่ประกันตัว และไม่ได้ฝากให้คนที่อยู่ข้างนอกจะต้องทำอะไรเป็นพิเศษใจของพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน เดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน”

 ต่อมากลุ่มประชาชนผู้อยู่เบื้องหลังฯก็ได้ร่วมแถลงข่าว นำโดย นางภัควดี วีระภาสพงศ์ นักเขียน โดยระบุว่าขณะที่เศรษฐกิจประเทศกำลังทรุดหนักภัยแล้งสร้างความเดือดร้อน โลกเมอร์สกำลังเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตประชาชน แต่รัฐบาลรัฐประหารกลับมีเวลาว่างมากพอที่จะระดมกำลังออกมาจับนักศึกษา 14 คน ทั้งที่ระบบราชการไทยไม่เคยทำงานเกินสี่โมงเย็น แต่กลับสามารถออกหมายจับ หมายค้นนอกเวลาราชการ แถมยังเปิดศาลทหาร พิจารณาคดีตอนสี่ทุ่มได้ราวกับร้านสะดวกซื้อสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาล ทำงานเพื่อใคร พวกเขาไม่ได้ทำงานเพื่อประเทศหรือประชาชนอย่างที่พล่าม แต่ทำงานเพื่อความมั่นคงของตัวเองเท่านั้น  

 ขณะที่ วาด ระวี นักเขียนที่ร่วมกลุ่มด้วยระบุว่า  ตนไม่เข้าใจว่าการที่นักศึกษาชูป้ายผ้าแสดงความเห็นอย่างสงบจะขัดต่อความไม่สงบของประเทศอย่างไร เรื่องนี้ คสช. อธํิบายไม่ได้ หากรัฐบาลจริงใจต้องเปิดพื้นที่อย่าปิดกั้นการแสดงออของประชาชน  การบริหารของ คสช.เป็นแบบปิดไม่มีใครตรวจสอบได้  หากสังคมยังอยู่บนพื้นฐานความกลัวต่อไปเราจะสร้างมรดกทางสังคมให้รุ่นลูกอย่างไร

ผู้มาร่วมงานมีผู้มีชื่อเสียงอาทิ ส.ศิวรักษ์ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ  ประธานที่ปรึกษาโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEAs) คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายสุชาติ สวัสดิ์ศรี หรือ “สิงห์สนามหลวง”  นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์   วาด  ระวี นักเขียนฯลฯ

ทั้งนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ในเครื่องแบบมาสังเกตการณ์แต่อย่างใด