'บอย ปกรณ์'นัดมอบรถหรู 'กิตติศักดิ์'หนีกบดานอังกฤษ

ความคืบหน้ากรณีขบวนการยักยอกของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยมีการออกหมายจับผู้ต้องหาและติดตามยึดทรัพย์คืนมานั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ (18 ม.ค.) แหล่งข่าวจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.). เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ เวลา 11 .00 น. นายปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ (หรือ บอย ปกรณ์) จะเดินทางเข้าชี้แจงข้อมูลต่อ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. พร้อมทั้งนำรถยนต์ ยี่ห้อ ลัมโบกินี สีเขียว ซึ่งก่อนหน้านี้ปปง.ได้ออกคำสั่งอายัดรถยนต์คันดังกล่าวไว้ เพราะเป็นทรัพย์สินที่มีเส้นทางการเงินบ่งชี้ชัดเจนว่า นายกิตติศักดิ์ มัทธุจัด ผู้ต้องหาคดี ยักยอกทรัพย์ของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ได้ยักยอกเงินจากสจล.แล้วนำเงินที่ได้จากการกระทำผิดไปซื้อรถยนต์หรูและนำมาขายต่อให้นายปกรณ์ในราคาถูก

ทั้งนี้นายปกรณ์จะให้บุคคลอื่นขับรถยนต์ยี่ห้อ ลัมโบกีนี มาส่งให้ปปง.ตามคำสั่งอายัดทรัพย์ เพราะนายปกรณ์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ ให้กับรถยนต์อีกยี่ห้อหนึ่ง จึงไม่สามารถขับรถยนต์ลัมโบกินี มาด้วยตนเอง เกรงว่าจะผิดสัญญา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำนายปกรณ์ ขึ้นไปสอบปากคำ ก่อนแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

ด้านพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฉ้อโกงเงินสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จำนวน 1,494 ล้านบาท ว่า จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายบอส หรือมีฉายาว่า "บอส" ที่กลุ่มผู้ต้องหามีการกล่าวอ้างนั้น ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนทราบตัวแล้ว แต่พยานหลักฐานยังโยงไปไม่ถึง ดังนั้น จึงยังไม่สามารถเชิญตัวมาได้ ด้วยเหตุผลของกฎหมาย

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า นายกิตติศักดิ์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ ที่กำลังหลบหนีอยู่นั้นถือได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญ ที่สามารถเข้าถึงตัวบอสใหญ่รายนี้ได้ หากได้ตัว นายกิตติศักดิ์ กลับมาดำเนินคดี เชื่อว่าจะสามารถโยงใยไปถึงตัว"บอสใหญ่"รายนี้ได้ ซึ่งจากข้อมูลทางการสืบสวนเชื่อว่าบอสคนนี้ จะมีส่วนรับรู้ แต่ไม่ได้ดำเนินการอะไรมากนัก แม้จะมีการใช้กฎอัยการศึก เพื่อให้อำนาจกฎหมายเชิญตัวบอสมาให้ข้อมูล แต่การใช้กฎอัยการศึกต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ว่า เหมาะสมหรือไม่ เรื่องที่ใช้กระทบความมั่นคงหรือไม่ แต่ไม่สามารถใช้ได้กับทุกเรื่อง

สำหรับการติดตามตัว นายกิตติศักดิ์ นั้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายกิตติศักดิ์ ได้เดินทางเข้าไปประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา และยังอยู่ในอังกฤษ โดยเตรียมจัดส่งเอกสารประสานไปยังอัยการสูงสุด เพื่อให้ดำเนินการขอส่งตัว นายกิตติศักดิ์ ผู้ร้ายข้ามแดน ในวันจันทร์ที่ 19 ม.ค.นี้ เนื่องจากไทยกับอังกฤษ มีสนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน ขณะเดียวกัน ตำรวจไทยได้ประสานส่งข้อมูลของ นายกิตติศักดิ์ ไปยังตำรวจสากล เพื่อดำเนินการออกหมายจับแล้ว หรือที่เรียกกันว่าหมายแดง หากนายกิตติศักดิ์ ยังหลบหนีไปประเทศอื่น และยังมีหมายแดงอยู่ ตำรวจสากล ก็สามารถช่วยจับกุมตัวได้เช่นกัน