บิ๊กนครบาลคาด'พ.ต.อ.วรพจน์'จะมอบตัว-ไม่มาพร้อมไล่ล่า

บิ๊กนครบาลคาด'พ.ต.อ.วรพจน์'จะมอบตัว-ไม่มาพร้อมไล่ล่า

"พล.ต.ท.ศรีวราห์" ผบช.น. คาด "พ.ต.อ.วรพจน์" ผกก.1.บก.ปอศ. จะเข้ามอบตัว-ไม่มาพร้อมไล่ล่า

พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ได้แถลงเกี่ยวกับกรณีการออกหมายจับผู้ต้องหาเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก. เพิ่มเติมรวม 5 ราย ในข้อหา "ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อันใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น โดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่, ร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต" กรณีปฏิบัติการปราบปรามคดีโตะพนันฟุตบอลออนไลน์ระหว่างปี 2552-2553

พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า กรณีการออกหมายจับดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่จากกองบังคับการปราบปรามได้นำข้อมูลการเรียกรับผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และพวก ในช่วงปี 2553-2553 กรณีการจับกุมกรพนันฟุตบอลออนไลน์ ภายใต้ยุทธการประเทศไทยใสสะอาด "ปฏิบัติการคดีอาบูบาก้า" ไปแจ้งความต่อตำรวจ สน.พหลโยธิน โดยปฏิบัติการด้ังกล่าวเริ่มตันเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2552 ซึ่งช่วงนั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองปราบปราม (ผบก.ป.) ได้นำกำลังตำรวจกองปราบปรามตรวจค้นเป้าหมาย 58 จุด ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ สามารถยึดเครื่องคอมพิวเตอร์และสมุดบัญชีเงินฝากกว่า 800 บัญชี สลิปการโอนเงิน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาท

พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า โดยพฤติกรรมการกระทำความผิดของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน คือ พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีต ผบช.ก พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีต รองผบช.ก. พ.ต.อ.วรพจน์ พืชผล ผกก.1.บก.ปอศ. พ.ต.ท.ทรงรักษ์ ขุนศรี อดีต รอง ผกก.6.ป และ นายวิฑูรย์ ตระการพฤกษ์ เลขาของพล.ต.ต.โกวิทย์ โดยเมื่อกลุ่มผู้ต้องหามีการจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์อาบูบาก้า ก็จะมีการอายัดบัญชีของผู้ที่ถูกจับเอาไว้ และหากผู้ใดต้องการให้ตำรวจชุดจับกุมของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวถอนอายัดให้ ก็แลกเปลี่ยนด้วยการติดสินบนหรือมีการเรียกร้องผลประโยชน์ระหว่างกัน โดยเชื่อว่าผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าวได้รับผลประโยชน์จากการรับสินบนจากปฏิบัติการดังกล่าวจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากนี้เชื่อว่า พ.ต.อ.วรพจน์ ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่ง ผกก.1.บก.ปอศ. จะเข้ามามอบตัว โดยให้กองปราบปรามประสานกับผู้บังคับบัญชา เพื่อส่งตัวมาให้ชุดสืบสวน หากภายใน 1-2 วันไม่มามอบตัว ก็จะจัดชุดออกติดตามจับกุม ขณะที่นายวิฑูรย์ นั้น จะได้มีการจัดชุดติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป ทั้งนี้ หากการสืบสวนสอบสวนพบว่ามีกรณีข้อมูลความผิดจากปฏิบัติการอื่นๆในช่วงที่ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ดำรงตำแหน่ง ผบก.ป. พาดพิงไปถึงอีก ก็จะดำเนินการออกหมายจับเพิ่มเติมต่อไป ส่วนสำนวนคดีเครือข่ายดังกล่าวทั้งหมดนั้นในส่วนของ บช.น. จะเร่งดำเนินการสรุปสำนวนเพิ่มเติมต่อจากสำนวนคดีหลักที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตรวจสอบและเตรียมส่งกลับมาให้ บช.น. ส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป ซึ่งถ้าตนได้รับสำนวนดังกล่าวแล้วจะเร่งส่งให้อัยการแน่นอน