นายกฯขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นให้เกียรติไทย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้การต้อนรับ นายมิโนะรุ คิอุชิ (H.E. Mr.Minoru Kiuchi) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนพิเศษรัฐบาลญี่ปุ่น และนายชิเกะคะสุ ซะโต (H.E.Mr.Shigekazu Sato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พร้อมคณะ ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วม

นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่ให้เกียรติรัฐบาลไทย พร้อมย้ำว่าทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตมายาวนานถึง 127 ปี ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้ความร่วมมือกับกับประเทศญี่ปุ่นในทุกด้าน

ทั้งนี้การเข้าพบนายกรัฐมนตรีของผู้แทนพิเศษญี่ปุ่นมีความสำคัญทั้งในด้านความสัมพันธ์และด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของไทย ในขณะที่ไทยก็ถือเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีมูลค่าการค้าสูงหลายหมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ตาม นับเป็นครั้งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดโอกาสให้ผู้แทนจากต่างประเทศ เข้าพบในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล

ด้าน ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลัง นายมิโนะรุ คิอุชิ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนพิเศษรัฐบาลญี่ปุ่น และ นายชิเกะคะสุ ซะโต เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า การเดินทางมาของนายคิอุชิ เป็นการเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกต่างประเทศอย่างเป็นทางการ หลังจากนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

“รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้นำสารแสดงความยินดีจากรัฐบาลญี่ปุ่นมามอบให้นายกรัฐมนตรี และเชิญนายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่ให้เกียรติรัฐบาลและประเทศไทย ส่วนวันเวลาในการเดินทางเยือนจะมีการหารืออีกครั้ง” ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าว

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังได้ชี้แจงถึงสถานการณ์ในประเทศไทย หลังจากที่ คสช.เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน รวมถึงบทบาทของรัฐบาลไทยในขณะนี้ ที่มีความจำเป็นต้องดูแลเรื่องของความมั่นคง และเศรษฐกิจเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เป็นไปตามแผนโรดแมปที่รัฐบาลวางไว้ ซึ่งญี่ปุ่นก็เข้าใจต่อสถานการณ์การเมืองของไทย

“ญี่ปุ่นยังขอให้ไทยดูแลนักลงทุนชาวญี่ปุ่น และผ่อนปรนในเรื่องอาหารญี่ปุ่นที่นำเข้ามายังประเทศไทย นอกจากนี้ ญี่ปุ่นสนใจที่จะมาลงทุนในเรื่องโครงสร้าพื้นฐาน การบริหารจัดการน้ำ และดาวเทียมกับประเทศไทยมากขึ้น และยังแสดงความพร้อมที่จะร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษทวายในพม่า พร้อมเสนอให้จัดประชุมไตรภาคี เพื่อพิจรณาเรื่องของการลงทุนร่วมกันต่อไประหว่าง ไทย-พม่า-ญี่ปุ่น” ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าว

ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีรับปากว่า จะดูแลนักลงทุนญี่ปุ่น ให้เป็นไปตามความเท่าเทียมกันของทุกฝ่าย เช่นเดียวกับนักลงทุนอื่น นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังเชิญชวนให้ญี่ปุ่นมาลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ชายแดนไทย รวมถึงการลงทุนในพื้นที่นอกเขตอุตสาหกรรม ใน 18 จังหวัดของไทยด้วย ซึ่งจะเป็นการกระจายเม็ดเงินในพื้นที่

“ทั้ง 2 ประเทศยังได้แสดงความยินดีในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกันที่มีมากว่า 120 ปี และ จะยังคงความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกันต่อไป” ร.อ.นพ.ยงยุทธ กล่าว