แม่ทัพภาค1ย้ำนโยบาย'ผบ.ทบ.-หน.คสช.'

พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ กล่าวภายหลังรับมอบ หน้าที่แม่ทัพภาคที่ 1 ว่า กองทัพภาคที่ 1 เป็นหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก ที่สนองตอบต่อนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก โดยมีหน้าที่ หลายบทบาทด้วยกัน ทั้งในฐานะที่เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) ที่ต้องปฎิบัติตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยการดำเนินงานทั้ง 2 ส่วนจะต้องให้สมดุล และรักษามาตรฐานไว้ให้ได้ นอกจากนี้กองทัพภาคที่1ยังมีภาระหน้าที่หลัก ในการเตรียมกำลังพลให้มีความพร้อมรบสูงสุดตามนโยบายของทางผู้บังคับบัญขา รวมถึงการใช้กำลังในทุกภารกิจที่ได้รับมอบ ทั้งการป้องกันประเทศ การป้องกันชายแดน การรักษาความมั่นคงภายในประเทศ และที่สำคัญคือ งานรักษาความสงบตามนโยบายของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้ารักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องรักษาสมดุลที่ทางหัวหน้าคสช.ได้ให้นโยบายไว้

“ท่านพูดเสมอว่าเราต้องรักษาสมดุลให้ได้ ระหว่างการบริหารราชการแผ่นดิน การสร้างความปรองดองสมานฉันท์และการปฏิรูป ทั้ง 3 เรื่อง เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งทางหัวหน้า คสช. ได้มอบหมายไว้ ก่อนที่ผมจะมารับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และเมื่อผมได้มาอยู่ตรงนี้แล้ว จะต้องเป็นผู้ที่มาขับเคลื่อนงานต่างๆ ตามนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม และสานงานต่อจากอดีตแม่ทัพภาคที่ 1 "พล.อ.กัมปนาท กล่าว

เมื่อถามว่า ในเรื่องของงานปรองดองสมานฉันท์ จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า การปรองดองสมานฉันท์ ต้องใช้เวลา และมีความต่อเนื่อง ยืนยันเรายังคงเดินหน้าทำต่อไป เพราะถ้าเราสร้างความปรองดองไม่ได้ ทุกอย่างจะกลับไปอยู่จุดเดิม ก็ไม่เกิดประโยชน์ จะปฏิรูปประเทศอย่างไร หากประชาชนไม่มีความปรองดองสมานฉันท์ ที่ทำมาก็สูญเปล่า นั่นคือ ปัญหาที่เกิดขึ้นมา เพราะฉะนั้นเราต้องเดินหน้า เพื่อสร้างให้คนไทย มีความปรองดองสมานฉันท์กัน การทำงานที่ผ่านมา มีความคืบหน้าที่ไปมาก สำหรับเวทีปรองดองสมานฉันท์ ที่ตนรับผิดชอบ ก็จะทำคู่ขนานไปกับสภาปฏิรูป

เมื่อถามว่า ในส่วนของนักวิชาการที่พยายามออกมาวิพากษ์วิจารณ์การเมืองนั้น พล.อ.กัมปนาท กล่าวว่า เป็นนโยบายของ หัวหน้าคสช. เราเป็นหน่วยปฏิบัติ แต่ในฐานะที่ตนเป็น ผู้บัญชาการกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) คุมกองกำลังทั้ง 4 กองทัพภาค ก็ต้องรับนโยบายจากผู้บัญชาการทหารบก ที่ได้รับนโยบายจากหัวหน้าคสช. ที่จะดำเนินการ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีความมุ่งหมายที่จะทำให้คนไทยเกิดความปรองดองสมานฉันท์ นี่คือหัวใจ ซึ่งทางหัวหน้าคสช. ได้เน้นย้ำมาตลอดว่าทำอย่างไรให้คนไทย กลับมารักและสามัคคีเหมือนเดิม ตนจึงได้รับมอบหมายให้ลงมาขับเคลื่อนให้เกิดรูปธรรมมากที่สุด