เปิดชีวิตแรงงานไทยหนีภัยลิเบีย

"ทำงานในสนามรบ-ถูกจี้ปล้นแคมป์" คำบอกเล่าแรงงานไทยหนีภัยลิเบีย
ขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตาและเฝ้าระวังสถานการณ์การระบาดของไวรัสร้าย "อีโบลา" ใน 4 ประเทศ ได้แก่ กินี เซียร์ร่าลีโอน ไลบีเรีย และเมืองลากอส ประเทศไนจีเรีย ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกาอย่างใกล้ชิดนั้น
ที่ประเทศลิเบียซึ่งอยู่ในทวีปเดียวกัน แต่อยู่ทางด้านทิศเหนือ ก็เกิด "สงครามกลางเมือง" นับตั้งแต่ พันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำที่ปกครองประเทศมานานกว่า 40 ปีถูกโค่นอำนาจ จากนั้นสถานการณ์ภายในก็ตึงเครียดมากขึ้นเป็นลำดับ และส่อเค้ายืดเยื้อโดยไม่มีใครทำนายได้ว่าจะยุติลงเมื่อไร
อีกทั้งในช่วงนี้สถานการณ์การปะทะกลับมารุนแรงอีกครั้ง ทำให้หลายประเทศต้องสั่งอพยพเจ้าหน้าที่และพลเมืองของตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยหรือกลับประเทศอย่างเร่งด่วน รวมทั้งประเทศไทย
โดยก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งให้อพยพคนไทยกลับประเทศตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเพื่อความปลอดภัย
จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลืออพยพแรงงานไทยในลิเบียกลับประเทศแล้ว 881 คน จากยอดทั้งหมด 1,342 คน อย่างไรก็ดีในจำนวนนี้มีผู้ที่แจ้งไม่เดินทางกลับ 170 คน โดยขออยู่ทำงานต่อ
ส่วนแรงงานไทยที่เหลือซึ่งยังตกค้างอยู่นั้น อยู่ระหว่างรอเที่ยวบินอยู่ที่เมืองตูนิส ประเทศตูนีเซีย คาดว่าจะทยอยเดินทางกลับถึงไทยในวันนี้ (24 ส.ค.) และวันอังคารที่ 26 ส.ค.นี้
นายพัฒนา จักษุมาตย์ หนุ่มใหญ่วัย 36 ปี ชาว จ.นครพนม หนึ่งในแรงงานที่เพิ่งเดินทางกลับจากลิเบีย บอกว่า รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยและความอบอุ่นจากแผ่นดินแม่ หลังจากที่ต้องอดทนอยู่ท่ามกลางการสู้รบ รวมทั้งการจี้ปล้นในแคมป์คนงานที่ลิเบียมานาน
เขาเล่าว่า ทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการจัดทำระบบน้ำประปา ระบบน้ำเสีย ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีการสู้รบพอดี ส่วนที่พักคนงานอยู่ห่างไป2 กิโลเมตร ซึ่งในจุดนี้มีแรงงานไทยทั้งหมด 81 คน
ทั้งนี้ช่วงเวลาที่เกิดความไม่สงบนั้น มีทั้งการสู้รบและการจี้ปล้นในแคมป์คนงาน ขณะทำงานก็เคยถูกคนเอาปืนมาขู่ และปาก้อนหินใส่จนแทบจะไม่สามารถทำงานได้
"พวกเราอยู่ไม่ได้แล้วครับสถานการณ์แบบนี้ บางคนถูกฟันหัว แล้วปล้นของไปจากที่พักคนงาน ทั้งโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คนายจ้างบอกว่าถ้าไม่ไปทำงานจะหักเงิน ผมขอถูกหักเงินดีกว่า เรื่องอะไรจะเอาชีวิตเราไปเสี่ยง"
เขาบอกว่า ดีใจที่กระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ และบริษัทจัดหางานพาคนงานไทยกลับ แม้จะมีคนที่ยังไม่อยากกลับเพราะห่วงเรื่องรายได้และหนี้สิน แต่สุดท้ายทุกคนก็ต้องคำนึงถึงชีวิตไว้ก่อน ตอนนี้คนงานรอเงินค่าจ้างค้างจ่ายจากนายจ้างที่เลื่อนมาจ่ายราวสัปดาห์หน้านี้ เนื่องจากพนักงานที่ดำเนินการเรื่องนี้ถูกยิงตายไป 2 คน แม้พวกเราจะลำบากแต่ก็เข้าใจ
"ผมดีใจมากที่ได้กลับมาอย่างปลอดภัย ชีวิตเรามีค่ามากกว่าเงินค่าจ้างเดือนละไม่กี่หมื่นบาท กลับถึงเมืองไทยผมรีบกลับบ้านไปกราบพ่อแม่ที่นครพนมด้วยความดีใจที่เอาชีวิตกลับมาบ้านได้ ส่วนเรื่องงานก็พักไปก่อน รอเกี่ยวข้าวเดี๋ยวก็มีเงินเข้ามาอีก ชีวิตไม่สิ้นเราก็หาเงินใหม่ได้"
ด้าน นายพรรณา ว่องไว ชาว จ.สกลนคร อายุ 47 ปี พร้อมกับลูกชายอีก 2 คน เล่าว่า เรา 3 คนพ่อลูกไปทำงานที่ลิเบียเพื่อหวังนำเงินมาชดใช้หนี้สินทางบ้าน แต่ทำงานได้ไม่กี่เดือนก็เกิดเหตุความไม่สงบขึ้น แม้จะรู้สึกเสียดายโอกาสในการทำงานที่ลิเบีย แต่ก็ต้องยอมรับชะตากรรม
"คงต้องรอดูไปสักพักว่าจะมีงานที่ไหนอีก เพราะตัวเองยังมีหนี้สิน ตอนนี้รอเงินค่าจ้างค้างจ่าย เงินประกัน และเงินกองทุนต่างๆ เพื่อเอาไปทำทุนต่อ"
นายศศิวัฒน์ ว่องสินสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ บอกว่า ขณะนี้สถานการณ์ในลิเบียยังไม่สงบเพราะยังมีการสู้รบของกองกำลังติดอาวุธที่กระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาสถานเอกอัครราชทูตหลายประเทศทยอยปิดทำการ หรือย้ายข้าราชการไปปฏิบัติหน้าที่ในประเทศข้างเคียง
สำหรับประเทศไทยนั้น กระทรวงการต่างประเทศมีนโยบายคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่เป็นสำคัญ จึงสั่งการให้เอกอัครราชทูตและข้าราชการของสถานเอกอัครราชทูตไทยในลิเบียย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่เมืองเจอร์บาแทน ส่วนจะมีการปิดสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือไม่นั้น จะมีการประเมินสถานการณ์อีกครั้ง
ขณะที่ นายสิงหเดช ชูอำนาจ ผู้ตรวจราชการกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน บอกว่า แรงงานไทยในลิเบียที่เดินทางกลับประเทศไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็นสมาชิกสำนักงานบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศ ซึ่งจะได้รับเงินเยียวยาคนละ 15,000 บาท โดยสามารถติดต่อขอรับเงินได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดในภูมิลำเนาของตัวเอง
นอกจากนี้ กรมการจัดหางานจะติดต่อและสอบถามถึงความต้องการ หากต้องการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ หรือในประเทศไทยกรมการจัดหางานก็จะช่วยติดต่อและประสานงานให้ ซึ่งคนหางานสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร 02-2456499 หรือ สายด่วน 1694







