'ผู้นำยุโรป' ตกลงให้ 'ยูเครน' กู้เงิน 9 หมื่นล้านดอลล์ แทนการใช้สินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัด

'ผู้นำยุโรป' ตกลงให้ 'ยูเครน' กู้เงิน 9 หมื่นล้านดอลล์ แทนการใช้สินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัด

'ผู้นำยุโรป' ตกลงให้กู้เงิน 9 หมื่นล้านดอลลาร์ ช่วยเหลือด้านการทหาร 'ยูเครน' แทนการใช้สินทรัพย์รัสเซียที่ถูกอายัด เลี่ยงเกิดปัญหาในอนาคต

ผู้นำยุโรปบรรลุข้อตกลงจัดสรรเงินกู้ 9 หมื่นล้านดอลลาร์ให้ยูเครนดำเนินการด้านกลาโหมในอีก 2 ปีข้างหน้า แทนการใช้สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัด เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งเกี่ยวกับแผนการจัดหาเงินทุนให้แก่เคียฟด้วยเงินของรัฐบาลรัสเซียอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

อันโตนิโอ คอสตา ประธานการประชุมสุดยอดยุโรป แถลงข่าวในช่วงเช้าวันศุกร์ (19 ธ.ค.) หลายชั่วโมงหลังจากหารือกับผู้นำยุโรปในบรัสเซลส์

“วันนี้พวกเราอนุมัติจัดหาเงินทุน 9 หมื่นล้านยูโรให้แก่ยูเครน” และว่า “ด้วยความเร่งด่วน เราจะให้เงินกู้ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากงบประมาณของสหภาพยุโรป (อียู)”

อียูจะใช้วิธีการระดมเงินทุนผ่านการออกพันธบัตรร่วม โดยมีงบประมาณของกลุ่มอียูเป็นหลักประกัน ซึ่งถือเป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ครั้งสำคัญจากเดิมที่เล็งใช้สินทรัพย์ของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ในยุโรป

 

สำหรับเงื่อนไขในข้อตกลงระบุว่า ยูเครนจะมีภาระชำระคืนเงินกู้ ก็ต่อเมื่อได้รับค่าปฏิกรรมสงครามจากรัสเซียเท่านั้น โดยในระหว่างนี้ สินทรัพย์ของรัสเซียราว 2.1 แสนล้านยูโร จะยังคงถูกอายัดไว้ในยุโรป และ EU สงวนสิทธิ์ในการนำเงินดังกล่าวมาใช้ชำระคืนเงินกู้ในภายหลัง

ที่ผ่านมา เบลเยียม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการฝากสินทรัพย์ของรัสเซีย ได้แสดงท่าทีคัดค้านการใช้สินทรัพย์รัสเซียค้ำประกันเงินกู้มาโดยตลอด เนื่องจากกังวลเรื่องความเสี่ยงทางกฎหมาย และการโต้กลับจากมอสโก หลังจากที่ธนาคารกลางรัสเซียได้ยื่นฟ้องร้องต่อบริษัทยูโรเคลียร์ (Euroclear) เพื่อเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 18.2 ล้านล้านรูเบิล (ประมาณ 2.29 แสนล้านดอลลาร์) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ในตอนแรกแนวคิดการให้เงินกู้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องได้รับความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ และวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซียก็คัดค้านเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม ในที่สุดฮังการี สโลวาเกีย และสาธารณรัฐเช็กก็เห็นด้วยที่จะให้ดำเนินการดังกล่าว ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินของพวกเขา

ด้านฟรีดริช เมิร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี กล่าว “นี่เป็นข่าวดีสำหรับยูเครน และเป็นข่าวร้ายสำหรับรัสเซีย นี่คือความตั้งใจของเรา”

ทั้งนี้ การเดิมพันหาเงินให้เคียฟนั้นสูงมาก เพราะหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากอียู ยูเครนอาจไม่เหลือเงินในไตรมาสสองปีหน้า และมีแนวโน้มสูงที่จะแพ้สงครามรัสเซีย ซึ่งนั่นทำให้อียูกังวลว่าภัยคุกคามจากการรุกรานของรัสเซียอาจเข้าใกล้ภูมิภาคมากขึ้น