นปช.ขู่รัฐประหารเจอดอกไม้บานกลางกรุง

นปช.ขู่รัฐประหารเจอดอกไม้บานกลางกรุง

นปช.ขู่ถ้ามีรัฐประหารเจอแน่ยุทธการณ์ดอกไม้บานกลางกรุง คนกทม.จะออกมาต่อต้าน-คนในต่างจังหวัดจะแสดงการต่อสู้ทันที ไม่มียุติเหมือนรอบก่อน

เมื่อเวลา 13.00 น. นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงที่ห้างอิมพีเรียล ลาดพร้าว ว่า สำหรับการนัดชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในวันที่ 13 ม.ค. นั้น จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ที่จะดำเนินการปิดกรุงเทพ ที่เปรียบเสมือการทำรัฐประหาร หรือยึดอำนาจอธิปไตยไปจากประชาชน ออกมามีส่วนร่วมและแสดงพลังความไม่เห็นด้วยและไม่เต็มใจที่จะประเทศไทยจะตกอยู่ในมือคนชั่วอย่างนายสุเทพ ทั้งนี้ ตนมองว่าหากกลุ่มของนายสุเทพดำเนินการยึดอำนาจประชาชนได้สำเร็จ ประชาชนจะเสียอำนาจอธิปไตยและสูญเสียระบอบประชาธิปไตยไปอีกนาน เพราะเชื่อว่านายสุเทพจะไม่ยอมคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างเด็ดขาด

นายจตุพร ถามไปยังนายสุเทพด้วยว่าในวันที่ 8 ม.ค. 57 นายสุเทพ ในฐานะผู้ที่จะนำการปฏิรูปเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศจะยอมไปพบอัยการเพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลในคดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเล็งเห็นผล จากกรณีที่มีคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ใช้กำลังเจ้าหน้าที่กระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม นปช. จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เมื่อปี 2553 หรือไม่ ทั้งนี้ตนมั่นใจว่านายสุเทพจะไม่ไป

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.กล่าวถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวของกลุ่ม ในวันที่ 13 ม.ค. ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อเปิดประเทศ โดยมีสโลแกน ว่า เปิดตัวเจ้าของอำนาจอธิปไตย เปิดประตู สู่การเลือกตั้ง ทั้งนี้จะมีการเคลื่อนไหวทุกจังหวัด ยกเว้น พื้นที่กทม. และจังหวัดปริมณฑล เช่น ปทุมธานี, นนทบุรี รวมถึงจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ที่ไม่มีความเหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเผชิญหน้า เบื้องต้นจะนัดหมายทำกิจกรรมพร้อมกันในเวลา 09.00 น. ในสถานที่ที่สำคัญของจังหวัดต่างๆ โดยเป็นการรณรงค์ ต้านรัฐประหาร เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 ก.พ. 57 บนถนนสายหลักของแต่ละจังหวัด

ส่วนรูปแบบขบวนนั้นจะจัดให้มีการแสดงวัฒนธรรมพื้นบ้านของแต่ละท้องถิ่น ทั้งนี้ จะเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนของจังหวัด นักการเมือง ศิลปินมาร่วมเดินขบวนด้วย นอกจากนั้นแล้วขอความร่วมมือให้ผู้ที่มาร่วมไม่ต้องใส่เสื้อสีแดง เพื่อทำให้เห็นว่าการเดินขบวนดังกล่าวเป็นของคนไทยที่รักประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินขบวนรณรงค์แล้วเสร็จขอให้ประชาชนกลับบ้าน เพื่อติดตามข่าวในกทม. และหากพบว่ากลุ่มของนายสุเทพเหิมเกริมจะมีการยกระดับการต่อสู้อย่างต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 2 ก.พ. โดยไม่มีการประกาศยุติจากแกนนำเหมือน ปี 2553 สำหรับบรรยากาศการเดินรณรงค์ดังกล่าวจะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ของคนเสื้อแดงด้วย

สำหรับในช่วงเย็นวันดังกล่าว จะมีการจัดเวทีปราศรัย 3 ภูมิภาค คือ ภาคเหนือ, ภาคอีสาน และภาคกลาง โดยจะมีนักวิชาการ, ตัวแทนองค์กรกลุ่มอาชีพ, บุคคลที่มีชื่อเสียงในสาขาต่างๆ, นักต่อสู้ประชาธิปไตย และนักการเมืองที่เห็นด้วยและเข้าร่วม โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ให้ติดตามเช่นกัน ทั้งนี้ในการชุมนุมจะยึดความปลอดภัยและสันติภาพ และจะไม่ยกขบวนเข้าสู่กทม. หรือจังหวัดปริมณฑลเด็ดขาด

"เราต้านรัฐประหาร โดยกำลังและโดยกำนัน ถ้าจะมีการรัฐประหารเราพร้อมประกาศการต่อสู้และต่อต้านทันที พร้อมเคลื่อนไหวต่างจังหวัดและต่อต้านรัฐประหารในกทม. หากเกิดขึ้นจริงวินาทีแรกที่มีการรัฐประหาร จะพบกับยุทธการณ์ดอกไม้บานกลางกรุง คนกทม. จะออกมาต่อต้านทันทีและคนในต่างจังหวัดจะแสดงการต่อสู้ทันที โดยไม่มีการประกาศยุติการต่อสู้ เหมือนรอบที่ผ่านมา เพราะการต่อสู้รอบนี้เป็นของประชาชน" นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในระหว่างที่จะถึงวันที่ 13 ม.ค. นั้น จะมีการทำหนังสือชี้แจงถึงรูปแบบการจัดกิจกรรมของ นปช. ต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ของทั่วโลก ผ่านทางสถานทูตของประเทศต่าง ๆ รวมถึงทำหนังสือชี้แจงถึงเอกอัครราชทูตทุกประเทศด้วยเช่นกัน ทั้งนี้จะยกเว้น กสม. และกกต. ของประเทศไทย เนื่องจากมองว่าไม่ใช่ที่พี่ง นอกจากนั้นแล้วตนยินดีที่จะพบสื่อมวลชนของต่างประเทศ และขึ้นเวทีดีเบตกับแกนนำ กปปส. หรือนักวิชาการของกปปส. ต่อกรณีดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามกิจกรรมที่นปช. เตรียมดำเนินการนั้นได้รับการยอมรับจากคณะบุคคลและองค์กรที่หลากหลายและมีการแสดงเจตนาร่วมกันจะทำกิจกรรมวันที่ 13 ม.ค.นี้

"ผมขอเรียกร้องให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เร่งพิจารณาคำร้องที่มีผู้ยื่นให้พิจารณาว่าการกระทำของ กปปส. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และเข้าข่ายล้มการปกครองหรือไม่ เพื่อรับรองความถูกต้องการเคลื่อนไหววันที่ 13 ม.ค." นายณัฐวุฒิกล่าว