ทรัมป์เมินจีนซ้อมรบรอบไต้หวันไม่ถือเป็น'ภัยคุกคาม'

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน ตามที่เมื่อวันจันทร์ (29 ธ.ค.) จีนเริ่มการซ้อมรบครั้งใหญ่ที่มีการซ้อมยิงกระสุนจริงด้วย เพื่อแสดงแสนยานุภาพหลังสหรัฐประกาศขายอาวุธแพ็กเกจใหญ่สุดครั้งหนึ่งให้กับไต้หวัน

ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องการซ้อมรบของจีนรอบไต้หวันล่าสุด ทรัมป์กลับยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และว่า การซ้อมรบเป็นเรื่องที่จีนทำเป็นประจำอยู่แล้ว

“ผมมีความสัมพันธ์อันดีเยี่ยมกับประธานาธิบดีสี เขาไม่ได้บอกอะไรผมเกี่ยวกับเรื่องนี้” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวเคียงข้างนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล

“ผมเห็นแล้ว แต่เขาไม่ได้บอกอะไรผม และผมไม่เชื่อว่าเขาจะทำ” ทรัมป์กล่าวโดยไม่เผยรายละเอียด

จีนมองว่าไต้หวันเป็นมณฑลที่แยกตัวออกไป สุดท้ายแล้วก็ต้องเอามาอยู่ในการควบคุม หากจำเป็นก็ต้องใช้กำลัง ซึ่งไต้หวันปฏิเสธแข็งขัน นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ รับตำแหน่งในเดือน พ.ค.2024 รัฐบาลปักกิ่งยิ่งเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อเกาะแห่งนี้

“พวกเขาซ้อมรบทางทะเลในพื้นที่นั่นมา 20 ปีแล้ว” ทรัมป์กล่าวและอวดถึงความสัมพันธ์ที่ดีกับสี ที่เขาสงบศึกการค้าในเดือน ต.ค. หลังเก็บภาษีตอบโต้กันไปมาหลายครั้งสั่นสะเทือนตลาดโลก

ผู้นำทั้งสองหารือกันเรื่องการมาเยือนจีนของประธานาธิบดีสหรัฐในเดือน เม.ย. แม้ว่าสองเขตเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกยังคงขัดแย้งกันเรื่องการส่งออกและข้อจำกัดด้านกฎระเบียบ

 กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (พีแอลเอ) กล่าวว่า จะมีการฝึกซ้อมเพิ่มเติมในวันอังคาร (30 ธ.ค.) ระหว่าง 8.00-18.00 น.โดยกำหนดพื้นที่ฝึกยิงกระสุนจริง 5 เขตทางการจีนแนะนำให้สายการบินหลีกเลี่ยงเส้นทาง ประกาศให้ “เรือและเครื่องบินที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้ามา” ในพื้นที่ดังกล่าว

หน่วยงานทางทะเลของจีนระบุพื้นที่ขนาดใหญ่เพิ่มเติมอีกสองแห่ง ที่กองทัพจะ “จัดเตรียมกระสุนจริง”

ด้านกรมการบินไต้หวันกล่าวว่า การกำหนดพื้นที่ฝึกซ้อมกระสุนจริงทำลายความปลอดภัยของเที่ยวบินอย่างรุนแรง การฝึกซ้อมอาจกระทบเที่ยวบินราว 857 เที่ยว ผู้โดยสารกว่า 100,000 คน