‘ทรัมป์’ ขู่ทิ้งทวนปี 68 จ่อฟ้องปลด ‘พาวเวลล์’ พ้นประธานเฟด

‘ทรัมป์’ ทิ้งทวนปี 2568 ขู่ฟ้องปลด ‘พาวเวลล์’ พ้นประธานเฟด ปมงบรีโนเวตตึกบานปลาย 4 พันล้านดอลลาร์ จ่อเปิดตัว 2 ตัวเต็งในใจ ม.ค. ปีหน้า
บลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” ยกระดับความตึงเครียดกับธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 โดยระบุระหว่างการแถลงข่าว ณ รีสอร์ทมาราลาโกว่า เขากำลังพิจารณาอย่างจริงจังที่จะปลด “เจอโรม พาวเวลล์” ออกจากตำแหน่งประธานเฟด พร้อมขู่จะยื่นฟ้องร้องในข้อหา "ไร้ความสามารถอย่างร้ายแรง"
ขู่ปม งบรีโนเวตตึก 4 พันล้านดอลลาร์
ทรัมป์ ไม่ได้วิพากษ์วิจารณ์เพียงแค่นโยบายดอกเบี้ยที่เขาเคยมองว่า "ลดช้าเกินไป" แต่ครั้งนี้ทรัมป์หยิบยกประเด็น โครงการปรับปรุงอาคารสำนักงานใหญ่ของเฟด มาเป็นเป้าโจมตี
ทรัมป์ อ้างว่าโครงการดังกล่าวใช้งบประมาณบานปลายสูงถึง 4.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเขามองว่าเป็นหลักฐานของความไร้ประสิทธิภาพในการบริหาร
"เขาควรจะลาออก และผมก็อยากจะไล่เขาออก... บางทีผมอาจจะทำอย่างนั้นจริงๆ" ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว
เปิดโผ ‘2 เควิน’ ตัวเต็งประธานเฟดคนใหม่
แม้พาวเวลล์จะเหลือวาระดำรงตำแหน่งประธานจนถึงเดือนพ.ค. ปีหน้า แต่ทรัมป์ยืนยันว่าเขามี "รายชื่อในใจ" แล้ว และจะทำการประกาศอย่างเป็นทางการในช่วง เดือน ม.ค. 2569
“ผมยังคงชอบผู้สมัครคนโปรดอยู่ และความชอบของผมก็ไม่เปลี่ยนแปลง ผมจะประกาศชื่อเขาในเวลาที่เหมาะสม ยังมีเวลาอีกมาก” ทรัมป์กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ เมื่อถูกถามว่าเขามีผู้สมัครคนโปรดหรือไม่
ทั้งนี้ มี 2 ตัวเต็งที่น่าจับตามองดังนี้
- เควิน แฮสเซ็ตต์ (Kevin Hassett) ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่ง
- เควิน วอร์ช (Kevin Warsh) อดีตผู้ว่าการเฟดที่ทรัมป์เคยให้ความสนใจ
รวมถึงแคนดิเดตคนอื่นๆ เช่น คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์, มิเชล โบว์แมน และริค ไรเดอร์ จาก BlackRock
เดิมพันนโยบายดอกเบี้ยปี 2569
ความพยายามกดดันพาวเวลล์ครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการบีบให้เฟด “ลดดอกเบี้ย” ลงอย่างรวดเร็วเพื่อลดต้นทุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามนโยบายของทำเนียบขาว
ขณะที่เฟดเพิ่งส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปี 2569 ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับทรัมป์เป็นอย่างมาก
นักวิเคราะห์มองว่า การที่ทรัมป์อ้างเรื่อง "ความไร้ความสามารถ" เป็นความพยายามหาช่องว่างทางกฎหมายเพื่อปลดพาวเวลล์ เนื่องจากตามกฎหมายแล้ว ประธานาธิบดีไม่สามารถปลดประธานเฟดเพียงเพราะความเห็นต่างด้านนโยบายการเงินได้
อย่างไรก็ตาม หากพาวเวลล์ยืนกรานไม่ลาออก เขาจะยังคงดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการผู้ว่าการเฟดได้จนถึงปี 2571 ซึ่งจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการแต่งตั้งสมาชิกใหม่ของทรัมป์







