จับเพิ่มอีก1 ผู้ร่วมขบวนคดีบึ้มหน้าราม

พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนคลี่คลายคดีวางระเบิดปากซอยรามคำแหง 43/1 กล่าวว่า ผลการสอบปากคำนายอิดริส สะปาตอ ผู้ต้องสงสัยวางระเบิด สามารถเชื่อมโยงเหตุระเบิดได้ และน่าเชื่อเป็นผู้ก่อเหตุจริงโดยพนักงานสอบสวนนครบาลรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับจากศาลและควบคุมตัวกลับเข้ากทม.สอบสวนต่อ ซึ่งพยานหลักฐานต่างๆจะต้องแน่นหนาเพียงพอ ขณะนี้ตำรวจใช้อำนาจตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ใน 3 จังหวัดภาคใต้ คุมตัวอยู่ จึงต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อน หากมีการขึ้นศาลจะได้มีน้ำหนักเพียงพอที่จะเอาผิดได้ตอนนี้อยู่ระหว่างเตรียมการยังตอบไม่ได้ว่าจะออกหมายจับเมื่อไร แต่จะดำเนินการให้เร็วที่สุด

รอง ผบช.น. กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ไม่ได้เร่งรัดคดี เพียงแต่กำชับให้รอบคอบในการทำสำนวนเท่านั้น และล่าสุดทางตำรวจ ศชต.สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเพิ่มได้อีก 1 ราย คือนายอัฟฟาฮัม สะอะ ซึ่งขณะนี้กำลังนำตัวไปสอบสวนขยายเพิ่มเติม ที่ค่ายทหารพราน 41 อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี จนถึงขณะนี้เหลือผู้ต้องหาที่ยังคงหลบหนีการจับกุมอีก 2 คน คือ นายคัมภีร์ ลาเต๊ะ ผู้รับงาน และผู้ร่วมขบวนการอีก 1 คน โดยทีมสืบสวนสอบสวนนครบาลจะลงใต้สอบสวนเพิ่มเติมผู้ต้องหาด้วยตนเอง

ขณะที่ พล.ต.ต. นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 ดูแลการสอบสวนในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการประสานในการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมา กทม.เรื่องนี้ต้องขึ้นอยู่กับหน่วยเหนือเป็นผู้สั่งการซึ่งความคืบหน้าและรายละเอียดต่างๆทางโฆษก สตช. และบช.น.จะแถลงข่าวเป็นระยะๆ