‘พีระพันธุ์’ ซัด ‘รัฐบาล’หยุดยิง ถอยให้‘กัมพูชา’ไม่น่าไว้ใจ อนาถประเทศไทย

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยตั้งคำถามถึงการบริหารงานของรัฐบาลที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างยิ่ง จากความสับสนและย้อนแย้งในระดับนโยบาย จนส่งผลให้ทหารไทยต้องสูญเสียชีวิตและร่างกายอย่างไร้ประโยชน์

นายพีระพันธุ์ ระบุว่า วันที่ 13 ธ.ค.68 นายโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์เฟซบุ๊คว่า ไทยกับกัมพูชา ตกลงจะหยุดยิงกัน นายอันวาร์ อิบราฮิม โพสต์ต่อในเรื่องเดียวกัน แต่นายอนุทิน ชาญวีรกูล บอกว่าไม่มีการหยุดยิง ต่อมารัฐมนตรีกลาโหม พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.68 ว่าเมื่อสถานการณ์มาถึงขนาดนี้เลยเวลาเจรจาแล้ว ต้องเดินหน้าปฏิบัติการทางทหาร คือรบต่อไปจนกว่ากัมพูชาจะสิ้นสุดการเป็นปฏิปักษ์ คือสิ้นสภาพทางทหาร ทั้งสื่อทั้งสังคมออนไลน์ถามกันว่าจะเชื่อใคร วันนี้คงได้คำตอบชัดเจนแล้ว

นายพีระพันธุ์ กล่าวอีกว่า ให้หลังไม่กี่วัน มาวันนี้ พล.อ. ณัฐพล ไปลงนามหยุดยิงแล้ว จะกี่ชั่วโมงหรือกี่วันก็คือหยุดยิง อ้างว่าเป็นไปตามมติ สมช. ที่มีนายอนุทิน เป็นประธาน ยึกยักกลับไปกลับมา โยนกันไปโยนกันมา สุดท้ายทหารไทยต้องสังเวยชีวิตให้กับการยึกยักของรัฐบาลอีก 4 ชีวิต รวม 27 ชีวิต บาดเจ็บเพิ่มอีก 17 นาย และล่าสุดวันนี้หลังลงนามหยุดยิงเหยียบทุ่นระเบิดเขมรขาขาดไปอีก 1 ราย เป็นขาที่ 10 ไหนเคยบอกว่าถ้ามีขาที่ 7 จะจัดการกัมพูชาไง นี่ขาที่ 10 แล้ว แล้วไง นี่คือการแสดงว่ายังคงมีความเป็นปฏิปักษ์และการที่ยังไม่สิ้นสภาพใช่หรือไม่ แถมกัมพูชา ยังถมทะเลหวังเปลี่ยนเส้นเขตแดนทางทะเลเพื่อฮุบแหล่งพลังงานในทะเลของไทยก็ยังจัดการไม่เสร็จ รังสแกมเมอร์ก็ยังไม่หมด น่าอนาถประเทศไทย มีรัฐบาล และ รมว.กลาโหม แบบนี้ 

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สภาวะที่กองทัพใส่เกียร์เดินหน้า แต่รัฐบาลกลับใส่เกียร์ถอยหลัง สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลขาดความเด็ดขาด ทำไมไม่ปล่อยให้ทหารจัดการให้เสร็จ ไม่ใช่พอเขาใส่เกียร์เดินหน้า รัฐบาลก็ใส่เกียร์ถอยหลัง ไม่แปลกใจเลยที่วันก่อนกองทัพสั่งห้ามส่งน้ำมันออกทางช่องเม็ก แต่นายกฯ กลับบอกว่าห้ามไม่ได้ รัฐบาลที่ไม่มีความเด็ดขาด รัฐบาลที่ทำให้ทหารกล้าต้องพลีชีพพลีร่างกายโดยไร้ประโยชน์เช่นนี้ ไม่น่าไว้วางใจจริงๆ