'ณัฐชา' จี้นายกฯ อย่าเฉยวิกฤติ 'ปลาหมอคางดำ' บี้รัฐบาลเร่งจัดการ

'ณัฐชา' จี้ 'อนุทิน' อย่านิ่งเฉยวิกฤติ 'ปลาหมอคางดำ' บี้จัดการ 'เอกชนเทา' ตัวการแท้จริงของปัญหา อย่าใช้โจรปราบโจร เพราะสุดท้ายโจรจะไปช่วย 'ทุนเทา'
KEY
POINTS
- ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.พรรคประชาชน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล แก้ไขวิกฤตการระบาดของปลาหมอคางดำอย่างจริงจัง
- ชี้ว่าต้นตอของปัญหามาจากบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ปล่อยปลาหลุดรอดสู่ธรรมชาติ และจี้ให้รัฐบาลดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทั้งทางแพ่งและอาญา
- วิจารณ์แนวทางแก้ปัญหาของกระทรวงเกษตรฯ ที่เน้นใช้งบประมาณรับซื้อปลาและจัดอีเวนต์ แต่ไม่กล้าเอาผิดกับผู้กระทำผิดตัวจริง
- เตือนรัฐบาลว่าการไม่ดำเนินคดีกับบริษัทต้นตอ เปรียบเสมือนการปกป้องกลุ่มทุนเทาที่ทำลายชีวิตเกษตรกรและทรัพยากรของชาติ
เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2568 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน (ปชน.) เปิดเผยถึงปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ที่สร้างความเสียหายรุนแรงต่อเกษตรกรและระบบนิเวศในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยพุ่งเป้าไปที่ความรับผิดชอบของ อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่ต้องแสดงความกล้าหาญในการดำเนินการทางกฎหมายกับเอกชนที่ขาดความรับผิดชอบ และตั้งคำถามถึงธรรมาภิบาลในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายณัฐชา ระบุว่า วิกฤตปลาหมอคางดำไม่ใช่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นหายนะที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ โดยมีบริษัทเอกชนรายใหญ่รายเดียวที่เคยนำเข้าปลาชนิดนี้เพื่อการทดลอง แต่กลับปล่อยให้หลุดรอดสู่ธรรมชาติและสร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาทต่อปี ซึ่งถือเป็นความผิดที่ต้องรับโทษ
"ผมขอเรียกร้องไปยังท่านนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ให้แสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้นำรัฐบาล หยุดทำเป็นทองไม่รู้ร้อนและนิ่งเฉยเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆ มา นายกฯ ต้องสั่งการด่วนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย ทั้งทางแพ่งและอาญาจาก 'เอกชนเทา' ที่เป็นต้นตอของการระบาดทันที หากรัฐบาลไม่ดำเนินการฟ้องร้อง ก็เท่ากับท่านกำลังปกป้องทุนเทาที่ทำลายชีวิตเกษตรกรและทรัพยากรของชาติ" นายณัฐชา ระบุ
นายณัฐชา ระบุอีกว่า เป็นที่น่าประหลาดใจว่าตลอดช่วงวิกฤตนี้ ผู้บริหารสูงสุดในกระทรวงเกษตรฯ ก็มาจากพรรคการเมืองเดียวกันมาโดยตลอด เมื่อพรรคเดิมยังคงคุมกระทรวงเดิมที่รับผิดชอบโดยตรง แล้วจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไร ในเมื่อความเสียหายยังคงลุกลามอย่างต่อเนื่อง ผมขอถามว่านี่เป็นการสืบทอดอำนาจเพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร หรือเพื่อ 'เอื้อนายทุน' กันแน่ นโยบายที่ผ่านมาก็เน้นแต่การใช้งบประมาณมหาศาลในการรับซื้อปลาหมอคางดำและจัดอีเวนต์ แต่ไม่กล้าแตะต้อง 'ผู้กระทำผิดตัวจริง' นี่คือการตอกย้ำว่า กระทรวงนี้ถูกครอบงำโดยผลประโยชน์ของกลุ่มทุนอยู่หรือไม่
"ผมขอเตือนว่า รัฐบาลต้องยุติการดำเนินการที่สุ่มเสี่ยงต่อการทุจริต อย่าใช้ ”โจรปราบปลาหมอคางดำ“ การนำคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ หรือกลุ่มผู้แสวงหาผลประโยชน์จากการระบาดอยู่แล้ว เข้ามาเป็นกลไกในการแก้ปัญหา จะไม่นำไปสู่การแก้ไขที่แท้จริง แต่จะกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ 'โจรไปช่วยทุนเทา' ในการบิดเบือนข้อมูล ปกปิดความผิด และผลาญงบประมาณของชาติไปอย่างสิ้นเปลือง" นายณัฐชา ระบุ
นายณัฐชา ระบุด้วยว่า สุดท้ายนี้ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอนุทิน ต้องแสดงความเป็นผู้นำโดยการสั่งการให้ฟ้องร้องผู้กระทำความผิดทันที และกำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ให้ทำงานอย่างโปร่งใส เพื่อกอบกู้ความเชื่อมั่นของประชาชนและฟื้นฟูชีวิตเกษตรกรที่พังทลายลงจากวิกฤตนี้ ไม่ใช่จัดอีเวนต์ฟอกขาวให้กับกลุ่มโจรไปวัน ๆ







