‘พิพัฒน์’ มั่นใจ ดีล ‘ปชป.’ ซบ ‘ภท.’ ไม่เปลี่ยน แม้ ‘อภิสิทธิ์’ คัมแบ็ค

“พิพัฒน์” เผย มั่นใจ ดีล “ปชป.” ยังยืนยันเข้า “ภท.” ไม่ว่า “อภิสิทธิ์” จะคัมแบ็คหัวหน้า แจง ตอบไม่ได้ “เลือกตั้ง” สส.ใต้ สีน้ำเงินเพิ่มหรือไม่
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รับผิดชอบพื้นที่ภาคใต้ ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของ สส.ประชาธิปัตย์ จะย้ายมาสังกัดพรรคภูมิใจไทย ว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์จะมีการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ในวันที่ 18 ต.ค. หลังจากนั้นตนยังมีความมั่นใจว่าคนที่ตนไปหารือและเชิญมาร่วมงานก็ยังยืนยันจะมาร่วมทำงานทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย
เมื่อถามว่า การเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผลต่อการย้ายมาสังกัดของ สส. อย่างไร นายพิพัฒน์ กล่าวว่า คนที่ตนไปพูดคุยยังเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้ลาออก เขาต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งแต่ละคนก็มี สส.พรรคในทีมของตัวเอง จึงมีการชะลอในการเลือกหัวหน้าพรรคให้เรียบร้อยก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เป็นนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จริง กลุ่มที่คุยไว้จะยังมาร่วมงานหรือไม่ นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขึ้นกับการตัดสินใจของแต่ละคน ซึ่งตัวเองยังมีความมั่นใจ
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้สส.ภาคใต้เพิ่มขึ้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของตนคงไม่สามารถตอบอะไรได้ ต้องถามคนไทยทุกคนว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเลือกใคร แต่แน่นอนว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ได้บอกแล้วว่าระยะเวลา 4 เดือนที่เหลืออยู่อาสาเข้ามาแก้ปัญหาหลายด้าน ก็จะทำให้เร็วและดีที่สุด ก่อนจะคืนอำนาจให้คนไทยทุกคน เพื่อให้ความมั่นใจว่าต้นปีหน้าคืนอำนาจให้กับประชาชนว่าจะเลือกใครเข้ามาบริหารต่อไป แต่ย้ำว่า 4 เดือนจากนี้ไป นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยจะพยายามทำงานให้เร็วและดีที่สุด ซึ่งเรื่องสำคัญที่สุดวันนี้คือเรื่องปากท้อง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จะแก้ไขปัญหาอย่างไร
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะที่นโยบายภาคใต้ ของพรรคภูมิใจไทยนั้น คณะกรรมการบริหารพรรคกำลังร่าง โดยจะยึดตามแต่ละภูมิภาคของประเทศ เช่นภาคใต้มีเรื่องปัญหายางพารา ปาล์มและผลไม้ตามฤดูกาล ขณะที่ภาคกลางภาคอีสานเป็นเรื่องข้าว รวมถึงนโยบายในกรุงเทพฯจะทำอย่างไรเพื่อให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของแต่ละภูมิภาค ซึ่งคงไม่ประกาศเป็นภาพรวมว่าเศรษฐกิจประเทศไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นลักษณะเหมาเข่ง แต่จะเน้นในแต่ละภูมิภาค







